ไม่ใช่เรื่องเกินความคาดหมาย หากสุดท้าย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่ลาออกหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย ทำให้ต้องมีการปรับทัพ กก.บห.พรรคใหม่ ท่ามกลางกระแสข่าว ‘ดีลลับดูไบ’ กับ ‘ขั้วทักษิณ’ จ่อรีเทิร์นกลับ ‘พรรคเพื่อไทย’ บ้านหลังเดิม
ย้อนไปราว 20 ปีก่อน ที่ ร.อ.ธรรมนัส ออกจากกองทัพมาสู่ ‘สนามการเมือง’ ในขั้วพรรคไทยรักไทย โดยมี ‘เสธ.ไอซ์’ พล.อ.ไตรรงค์ อินทรทัต เป็นสะพานเชื่อม เพราะ ‘เสธ.ไอซ์’ เป็นพี่ที่ ร.อ.ธรรมนัส ให้เคารพ เดินเส้นทางผู้กว้างขวางมาด้วยกัน อีกทั้ง พล.อ.ไตรรงค์ ยังเป็นเพื่อน ตท.10 รุ่นเดียวกับ ‘ทักษิณ’ ด้วย
ดังนั้นในช่วงแรก ร.อ.ธรรมนัส ดูแลพื้นที่ กทม. อยู่กับ ‘เสธ.ไอซ์’ เรื่อยมาจนถึงยุคพรรคพลังประชาชน-เพื่อไทย ร.อ.ธรรมนัส ก็ยังคงทำการเมืองหลังม่าน โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ เพราะ ร.อ.ธรรมนัส เป็นคน จ.พะเยา จึงทำให้ ร.อ.ธรรมนัส รู้จักมักคุ้นกับ ‘เจ๊แดง’ เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ อีกผู้มากบารมีในพรรคเพื่อไทย ต่อมาลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ปี 2557 แต่การเลือกตั้งเป็นโมฆะ จากนั้นเกิดเหตุการณ์รัฐประหาร 2557 ชื่อ ร.อ.ธรรมนัส ติด ‘แบล็คลิสต์ คสช.’ โดยว่ากันว่า พล.อ.ประวิตร เป็นผู้ที่เข้ามาช่วย จากนั้น ร.อ.ธรรมนัส ก็โลว์โปร์ไฟล์ตัวเอง และเปลี่ยนขั้วมาทำการเมืองกับ พล.อ.ประวิตร กับพรรคพลังประชารัฐ ท่ามกลางการวัดพลังภายใน พปชร. ที่มีการ ‘เหยียบเท้ากันเอง’ ของก๊ก-มุ้งต่างๆ
จนเมื่อต้นปี 2565 ว่ากันว่าหนึ่งในเหตุผล ที่ พล.อ.ประวิตร ต้อง ‘กลืนเลือด’ ขับ ร.อ.ธรรมนัส กับ 20 ส.ส. พ้น พปชร. เพราะ ‘บิ๊กตู่’ ไม่สบายใจ ที่ ร.อ.ธรรมนัส อยู่ในพรรค ด้วยสายสัมพันธ์ที่ ร.อ.ธรรมนัส มีกับขั้วเพื่อไทย และไปถึง ‘ทักษิณ’
สิ่งเหล่านี้เป็นปริศนามาตลอด ถูกคลายมากขึ้น หลัง ร.อ.ธรรมนัส โพสต์เฟซบุ๊ก ปลื้มเห็นประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งซ่อมหลักสี่ ที่พรรคเพื่อไทยชนะ พปชร. ปลายเดือนมกราคม 2565 โดยระบุว่า นี่คือประชาธิปไตย แต่ทิ้งท้าย ว่า “the enemy of my enemy is my friend” หรือ ‘ศัตรู’ ของ ‘ศัตรู’ คือ ‘มิตร’ ถือเป็นการ “ส่งสัญญาณ” ท้ารบ ออกมากกลายๆ ตามคำเตือน พล.อ.ประยุทธ์ การขับ ร.อ.ธรรมนัส พ้น พปชร. ระวังจะกลายเป็น “ปล่อยเสือเข้าป่า”
ย้อนไปให้ไกลถึง ปลายเดือนมิถุนายน 2564 ‘ทักษิณ’ เคยกล่าวถึง ร.อ.ธรรมนัส อย่างเป็นมิตรในคลับเฮ้าส์ หลัง ร.อ.ธรรมนัส ผงาดขึ้นเป็นเลขาธิการ พปชร. บางท่อนเรียกว่า “ท่านธรรมนัส” ในฐานะรุ่นน้อง ตท.10-25 เคยพูดคุยกัน สมัยอยู่ ‘เพื่อไทย’ มอง ร.อ.ธรรมนัส มุ่งมั่นทางการเมือง ชี้ขึ้นเลขาธิการ เป็นเรื่องภายใน พปชร. เชื่อ พปชร. มอง ร.อ.ธรรมนัส เป็นคน ‘ใจถึง’ แนะเลือกตั้งไม่ใช่แค่เรื่องใช้เงิน-ใช้ทอง ต้องสร้างนโยบายที่ดี ตามที่สัญญาประชาชน ฝาก ร.อ.ธรรมนัส ฟังเสียงวิจารณ์ ปรับปรุงตัว แล้วจะเป็นนักการเมือง ที่มีอนาคตดี
ตามมาด้วยช่วงกลางเดือนกรกฎาคม 2564 ‘ทักษิณ’ ลั่นวาจากลางคลับเฮ้าส์ “กลับไทยแน่” แต่กลับเมื่อไหร่เดี๋ยวบอก จึงทำให้เกิดกระแสข่าว ‘ดีลพิสดาร’ ขึ้นตามมา ต่อมาถูกตอกย้ำด้วย ‘ความกระหนุงกระหนิง’ ระหว่าง ‘เพื่อไทย-พลังประชารัฐ’ ในการแก้ไข รธน. เปลี่ยนมาใช้บัตร 2 ใบ และเปลี่ยนเป็นแบ่งเขต 400 คน บัญชีรายชื่อ 100 คน
แต่จุด ‘แตกหัก’ มาเกิดช่วงศึกซักฟอก ที่ พล.อ.ประยุทธ์ รู้ทันและไหวตัวทันช่วงศึกซักฟอกปี 2564 จึงทำการแก้เกมในสภาฯ ชนิดฝุ่นตลบ หลัง ร.อ.ธรรมนัส เปิดเกมเดิมพันสูง เรียกได้ว่างานนี้ ‘ข้าอยู่ เอ็งไป’ จึงเป็นที่มาของ ‘ประกาศปลด’ พ้นรัฐมนตรี ชนิดฟ้าผ่า แถมพ่วงชื่อ ‘นฤมล ภิญโญสินวัฒน์’ ไปด้วย
สิ่งที่สังเกตได้ชัดคือ ‘ทักษิณ’ นิ่งเงียบลงไปทันควัน ต่อมากลับมาจัดคลับเฮ้าส์ รำลึกเหตุการณ์ 9/11 ครบ 20 ปี เพราะเป็นช่วงที่ ‘ทักษิณ’ เป็น นายกฯ แต่กลับไม่ตั้งโจทย์ประเด็น ‘ควันหลงศึกซักฟอก’ ทั้งที่เป็นเรื่องใหญ่ทางการเมืองในเวลานั้น อีกทั้งการเคลื่อนไหวของ ‘คาร์ม็อบ’ การปักหลักที่แยกอโศกในช่วงนั้น ก็แผ่วลงอย่างเห็นได้ชัดด้วย เรียกได้ว่า ‘แนวรบสีแดง’ ก็เกิดอาการ ‘ระส่ำ’ ไปไม่น้อย ตามมาด้วย เหตุการณ์ ‘สภาฯ ล่ม’ ถี่ยิบ
ต่อมา ‘ศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ’ ส.ส.พรรคเพื่อชาติ ออกมาแฉ ‘แผนล้มตู่ชูป้อม’ ผ่านขบวนการหวังชู พล.อ.ประวิตร ขึ้นมาเป็นนายกฯ แทน อย่าลืมว่า พล.อ.ประวิตร ก็มีสายสัมพันธ์ที่ดีกับ ‘ทักษิณ’ เพราะเป็นผู้ที่ตั้งให้ พล.อ.ประวิตร ขึ้นเป็น ผบ.ทบ. ในยุครัฐบาลไทยรักไทย ถึงขึ้นโยกญาติผู้พี่ ‘บิ๊กตุ้ย’ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร จาก ผบ.ทบ. ไปเป็น ผบ.ทหารสูงสุด ก่อนเกษียณฯ 1 ปี อีกทั้ง พล.อ.ประวิตร ก็มีสายสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับ ‘เครือข่ายบ้านจันทร์ส่องหล้า’ ของ ‘คุณหญิงอ้อ’ พจมาน ดามาพงศ์ ด้วย
ช่วง 1 เดือนก่อน พล.อ.ประวิตร ก็เล่นบท ‘ซ้อมเป็นนายกฯ’ ตามวิธีใจบันดาลแรง ในช่วงที่ พล.อ.ประยุทธ์ ถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ ชั่วคราว แม้จะไม่ติดบ่วง 8 ปี แต่ก็ไปต่อได้เพียง 2 ปีเท่านั้น สิ้นสุดการเป็นนายกฯ ปี 2568 เท่ากับ ‘ติดบล็อก’ การเมืองนั่นเอง ทำให้ชื่อ พล.อ.ประวิตร มาแรงขึ้น หมากการเมืองกำลังจะเปลี่ยน กระแส ‘สูตรดีลพิสดาร’ ถูกปลุกขึ้นมาได้จังหวะตลอด งานนี้ พล.อ.ประยุทธ์ มีหนาวแน่นอน
ศึกสายเลือด จปร. ฆ่ากันเอง พลิกการเมืองไทย มาหลายครั้ง !
ย้อนไปราว 20 ปีก่อน ที่ ร.อ.ธรรมนัส ออกจากกองทัพมาสู่ ‘สนามการเมือง’ ในขั้วพรรคไทยรักไทย โดยมี ‘เสธ.ไอซ์’ พล.อ.ไตรรงค์ อินทรทัต เป็นสะพานเชื่อม เพราะ ‘เสธ.ไอซ์’ เป็นพี่ที่ ร.อ.ธรรมนัส ให้เคารพ เดินเส้นทางผู้กว้างขวางมาด้วยกัน อีกทั้ง พล.อ.ไตรรงค์ ยังเป็นเพื่อน ตท.10 รุ่นเดียวกับ ‘ทักษิณ’ ด้วย
ดังนั้นในช่วงแรก ร.อ.ธรรมนัส ดูแลพื้นที่ กทม. อยู่กับ ‘เสธ.ไอซ์’ เรื่อยมาจนถึงยุคพรรคพลังประชาชน-เพื่อไทย ร.อ.ธรรมนัส ก็ยังคงทำการเมืองหลังม่าน โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ เพราะ ร.อ.ธรรมนัส เป็นคน จ.พะเยา จึงทำให้ ร.อ.ธรรมนัส รู้จักมักคุ้นกับ ‘เจ๊แดง’ เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ อีกผู้มากบารมีในพรรคเพื่อไทย ต่อมาลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ปี 2557 แต่การเลือกตั้งเป็นโมฆะ จากนั้นเกิดเหตุการณ์รัฐประหาร 2557 ชื่อ ร.อ.ธรรมนัส ติด ‘แบล็คลิสต์ คสช.’ โดยว่ากันว่า พล.อ.ประวิตร เป็นผู้ที่เข้ามาช่วย จากนั้น ร.อ.ธรรมนัส ก็โลว์โปร์ไฟล์ตัวเอง และเปลี่ยนขั้วมาทำการเมืองกับ พล.อ.ประวิตร กับพรรคพลังประชารัฐ ท่ามกลางการวัดพลังภายใน พปชร. ที่มีการ ‘เหยียบเท้ากันเอง’ ของก๊ก-มุ้งต่างๆ
จนเมื่อต้นปี 2565 ว่ากันว่าหนึ่งในเหตุผล ที่ พล.อ.ประวิตร ต้อง ‘กลืนเลือด’ ขับ ร.อ.ธรรมนัส กับ 20 ส.ส. พ้น พปชร. เพราะ ‘บิ๊กตู่’ ไม่สบายใจ ที่ ร.อ.ธรรมนัส อยู่ในพรรค ด้วยสายสัมพันธ์ที่ ร.อ.ธรรมนัส มีกับขั้วเพื่อไทย และไปถึง ‘ทักษิณ’
สิ่งเหล่านี้เป็นปริศนามาตลอด ถูกคลายมากขึ้น หลัง ร.อ.ธรรมนัส โพสต์เฟซบุ๊ก ปลื้มเห็นประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งซ่อมหลักสี่ ที่พรรคเพื่อไทยชนะ พปชร. ปลายเดือนมกราคม 2565 โดยระบุว่า นี่คือประชาธิปไตย แต่ทิ้งท้าย ว่า “the enemy of my enemy is my friend” หรือ ‘ศัตรู’ ของ ‘ศัตรู’ คือ ‘มิตร’ ถือเป็นการ “ส่งสัญญาณ” ท้ารบ ออกมากกลายๆ ตามคำเตือน พล.อ.ประยุทธ์ การขับ ร.อ.ธรรมนัส พ้น พปชร. ระวังจะกลายเป็น “ปล่อยเสือเข้าป่า”
ย้อนไปให้ไกลถึง ปลายเดือนมิถุนายน 2564 ‘ทักษิณ’ เคยกล่าวถึง ร.อ.ธรรมนัส อย่างเป็นมิตรในคลับเฮ้าส์ หลัง ร.อ.ธรรมนัส ผงาดขึ้นเป็นเลขาธิการ พปชร. บางท่อนเรียกว่า “ท่านธรรมนัส” ในฐานะรุ่นน้อง ตท.10-25 เคยพูดคุยกัน สมัยอยู่ ‘เพื่อไทย’ มอง ร.อ.ธรรมนัส มุ่งมั่นทางการเมือง ชี้ขึ้นเลขาธิการ เป็นเรื่องภายใน พปชร. เชื่อ พปชร. มอง ร.อ.ธรรมนัส เป็นคน ‘ใจถึง’ แนะเลือกตั้งไม่ใช่แค่เรื่องใช้เงิน-ใช้ทอง ต้องสร้างนโยบายที่ดี ตามที่สัญญาประชาชน ฝาก ร.อ.ธรรมนัส ฟังเสียงวิจารณ์ ปรับปรุงตัว แล้วจะเป็นนักการเมือง ที่มีอนาคตดี
ตามมาด้วยช่วงกลางเดือนกรกฎาคม 2564 ‘ทักษิณ’ ลั่นวาจากลางคลับเฮ้าส์ “กลับไทยแน่” แต่กลับเมื่อไหร่เดี๋ยวบอก จึงทำให้เกิดกระแสข่าว ‘ดีลพิสดาร’ ขึ้นตามมา ต่อมาถูกตอกย้ำด้วย ‘ความกระหนุงกระหนิง’ ระหว่าง ‘เพื่อไทย-พลังประชารัฐ’ ในการแก้ไข รธน. เปลี่ยนมาใช้บัตร 2 ใบ และเปลี่ยนเป็นแบ่งเขต 400 คน บัญชีรายชื่อ 100 คน
แต่จุด ‘แตกหัก’ มาเกิดช่วงศึกซักฟอก ที่ พล.อ.ประยุทธ์ รู้ทันและไหวตัวทันช่วงศึกซักฟอกปี 2564 จึงทำการแก้เกมในสภาฯ ชนิดฝุ่นตลบ หลัง ร.อ.ธรรมนัส เปิดเกมเดิมพันสูง เรียกได้ว่างานนี้ ‘ข้าอยู่ เอ็งไป’ จึงเป็นที่มาของ ‘ประกาศปลด’ พ้นรัฐมนตรี ชนิดฟ้าผ่า แถมพ่วงชื่อ ‘นฤมล ภิญโญสินวัฒน์’ ไปด้วย
สิ่งที่สังเกตได้ชัดคือ ‘ทักษิณ’ นิ่งเงียบลงไปทันควัน ต่อมากลับมาจัดคลับเฮ้าส์ รำลึกเหตุการณ์ 9/11 ครบ 20 ปี เพราะเป็นช่วงที่ ‘ทักษิณ’ เป็น นายกฯ แต่กลับไม่ตั้งโจทย์ประเด็น ‘ควันหลงศึกซักฟอก’ ทั้งที่เป็นเรื่องใหญ่ทางการเมืองในเวลานั้น อีกทั้งการเคลื่อนไหวของ ‘คาร์ม็อบ’ การปักหลักที่แยกอโศกในช่วงนั้น ก็แผ่วลงอย่างเห็นได้ชัดด้วย เรียกได้ว่า ‘แนวรบสีแดง’ ก็เกิดอาการ ‘ระส่ำ’ ไปไม่น้อย ตามมาด้วย เหตุการณ์ ‘สภาฯ ล่ม’ ถี่ยิบ
ต่อมา ‘ศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ’ ส.ส.พรรคเพื่อชาติ ออกมาแฉ ‘แผนล้มตู่ชูป้อม’ ผ่านขบวนการหวังชู พล.อ.ประวิตร ขึ้นมาเป็นนายกฯ แทน อย่าลืมว่า พล.อ.ประวิตร ก็มีสายสัมพันธ์ที่ดีกับ ‘ทักษิณ’ เพราะเป็นผู้ที่ตั้งให้ พล.อ.ประวิตร ขึ้นเป็น ผบ.ทบ. ในยุครัฐบาลไทยรักไทย ถึงขึ้นโยกญาติผู้พี่ ‘บิ๊กตุ้ย’ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร จาก ผบ.ทบ. ไปเป็น ผบ.ทหารสูงสุด ก่อนเกษียณฯ 1 ปี อีกทั้ง พล.อ.ประวิตร ก็มีสายสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับ ‘เครือข่ายบ้านจันทร์ส่องหล้า’ ของ ‘คุณหญิงอ้อ’ พจมาน ดามาพงศ์ ด้วย
ช่วง 1 เดือนก่อน พล.อ.ประวิตร ก็เล่นบท ‘ซ้อมเป็นนายกฯ’ ตามวิธีใจบันดาลแรง ในช่วงที่ พล.อ.ประยุทธ์ ถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ ชั่วคราว แม้จะไม่ติดบ่วง 8 ปี แต่ก็ไปต่อได้เพียง 2 ปีเท่านั้น สิ้นสุดการเป็นนายกฯ ปี 2568 เท่ากับ ‘ติดบล็อก’ การเมืองนั่นเอง ทำให้ชื่อ พล.อ.ประวิตร มาแรงขึ้น หมากการเมืองกำลังจะเปลี่ยน กระแส ‘สูตรดีลพิสดาร’ ถูกปลุกขึ้นมาได้จังหวะตลอด งานนี้ พล.อ.ประยุทธ์ มีหนาวแน่นอน
ศึกสายเลือด จปร. ฆ่ากันเอง พลิกการเมืองไทย มาหลายครั้ง !