‘ธนกร’ จวกพวก ‘เดินเกม 2 ขา’ ปลุกม็อบลงถนน บิดเบือนข้อมูล

21 ก.ค. 2566 - 06:03

  • ‘ธนกร’ แจงไทยเลือกนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญในระบบรัฐสภา ไม่ใช่ระบบเลือกประธานาธิบดี

  • ขอ ‘พิธา-ก้าวไกล’ สร้างความเข้าใจ ‘ด้อมส้ม’ ใหม่

  • ติงอย่าเดินเกม 2 ขา บิดเบือนข้อมูล ปลุกระดมม็อบลงถนน หวั่นแตกแยกวุ่นวายอีก

Thanakorn-blames-the-two-legged-game-distorting-information-wake-the-mob-SPACEBAR-Thumbnail
ธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะ สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้ว่า วันนี้ทุกอย่างเดินไปตามกลไกของรัฐธรรมนูญในการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรี เมื่อครั้งแรกไม่ได้ ก็เป็นครั้งที่ 2 และเมื่อมาถึงครั้งที่ 3 ก็ต้องเปิดโอกาสให้พรรคอันดับที่ 2 จัดตั้งไปตามกลไก หากอันดับ 2 ไม่ได้ ก็ต้องมาที่อันดับที่ 3 เป็นธรรมเนียมทางการเมืองที่ให้เกียรติผู้ที่ได้คะแนนสูงสุดอยู่แล้ว  แต่กระบวนการต่างๆ เข้าใจว่าประธานสภาฯ คงเร่งดำเนินการอยู่ เพราะวันนี้ ประชาชนทั้งประเทศรวมถึงภาคเอกชน ภาคธุรกิจต่างๆ ก็รอรัฐบาลใหม่อยู่ ดังนั้น จึงต้องเร่งให้ได้รัฐบาลใหม่โดยเร็ว  

เมื่อถามว่า หากพรรคก้าวไกลยังดึงเกมไม่ยอมประกาศให้พรรคเพื่อไทยเสนอชื่อนายกฯ เพื่อจัดตั้งรัฐบาลเสียที จะทำให้เสียเวลาประชาชนทั้งประเทศหรือไม่นั้น ธนกร มองว่า หากเป็นแบบนั้นก็จะเป็นการเสียเวลาประชาชนมากเกินไป เพราะวันนี้ การเดินเกม กระบวนการต่างๆ ทางการเมือง เข้าใจว่าเป็นสิทธิ์ของทุกพรรคที่จะดำเนินการได้ แต่วันนี้ พรรคก้าวไกลก็เห็นอยู่แล้วว่าสมาชิกรัฐสภาทั้งครั้งที่ 1 และ 2 ก็ไม่สนับสนุน พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหนาพรรคก้าวไกล ให้เป็นนายกฯ เพราะพรรคก้าวไกลมีนโยบายแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และยังเดินหน้าต่อ ไม่ยอมลดเพดาน ซึ่งสมาชิกรัฐสภาส่วนใหญ่ก็ไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้  

“เราไม่ควรที่จะนำเสียงพี่น้องประชาชนที่บอกว่า 14 ล้านเสียง ที่ต้องการให้นายพิธา เป็นนายกฯ และมองคนที่ไม่เห็นด้วย ไปทำลายความฝันของคนไทยทั้งประเทศ การพูดแบบนั้น ถือว่าไม่ถูกต้อง เพราะรู้อยู่แล้วว่าคนไทยมี 60-70 ล้านคน วันนี้ การเลือกตั้งของไทยเราไม่ใช่ระบบประธานาธิบดี เป็นระบบรัฐสภา กลไกการเลือกนายกฯ ก็ต้องมาจาก สส. และ สว. ที่เป็นคนเลือกตามรัฐธรรมนูญ หากโหวตว่าไม่ผ่าน ก็ถือว่าจบไป แต่แกนนำพรรคก้าวไกล เห็นหลายคนก็ชอบอ้างประชาชน ซึ่งของพรรครวมไทยสร้างชาติ เกือบ 5 ล้านเสียง ที่เป็นเสียงประชาชนเราก็ให้ความสำคัญ แต่ต้องเข้าใจระบบการเลือกตั้งว่า ไม่ใช่ระบบเลือกประธานาธิบดี เป็นคนละเรื่องกัน” ธนกร ระบุ  

ธนกร ยังมองด้วยว่า การไปอ้างบิดเบือนแบบนี้ ทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิดได้ ซึ่งต้องยอมรับกลไกของระบบเลือกตั้งรัฐสภา ทั้งนี้ จริงๆแล้ว ตนให้กำลังใจ พิธา ทุกครั้ง  และวันนี้ก็ยังให้กำลังใจอยู่ แต่ในทางการเมืองก็ต้องเดินหน้ากันต่อไป วันนี้ไม่ได้เป็นนายกฯ วันหน้าก็อาจจะได้เป็นก็ได้ ใครจะไปรู้ แต่เราต้องยอมรับกติกาบ้านเมือง ยอมรับกฏหมายตามรัฐธรรมนูญก่อน 

ส่วนกรณีประชาชนออกมาแสดงความเห็นผ่านโซเชียลฯ ในทำนองว่า ออกไปเลือกตั้งทำไม ถ้าไม่ได้ พิธา เป็นนายกฯ ทั้งที่ได้คะแนนมากที่สุดนั้น ธนกร มองว่า เป็นการปลุกระดมที่ให้ข้อมูลที่ผิดๆ บิดเบือน ไม่เป็นธรรมสำหรับคนไทยทั้งประเทศ ทั้งนี้ การชุมนุมเคลื่อนไหวต่างๆ สามารถทำได้ตามรัฐธรรมนูญ เป็นสิทธิเสรีภาพแต่ต้องมาพร้อมหน้าที่ ความรับผิดชอบ โดยการชุมนุมภายใต้กฎหมาย แต่หากปลุกระดม สร้างมวลชนกดดันปลุกปั่น ยั่วยุ ทำให้เกิดมีปัญหาขึ้นมา ก็ต้องรับผิดชอบ ตนถึงบอกว่าบ้านเมืองเราเดินหน้ามาไกลแล้ว จากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้สร้างให้กับประเทศไทยมา 8-9 ปี ถือว่าเดินมาไกล พัฒนามาทุกด้านแล้ว 

“แต่วันนี้มีการเดินเกม 2 ขา ในสภาก็เดินไป อีกขาหนึ่งก็เดินเกมปลุกม็อบ ปลุกมวลชนลงถนน ใช้ข้อมูลบิดเบือน ปลุกปั่น ยั่วยุแบบนี้ ซึ่งไม่เคยเห็นแกนนำพรรคก้าวไกล รวมถึงนายพิธา ได้ออกมาห้ามปรามว่าไม่ให้ผู้สนับสนุนหรือด้อมส้ม หยุดการกระทำเลย ซึ่งแทนที่จะไปขอเสียง สว. แต่ปล่อยให้ด้อมส้มไปถล่มคุกคาม บูลลี่ สว.ทั้งครอบครัว ญาติพี่น้องรวมไปถึงธุรกิจของ สว.ด้วย แบบนี้ถ้าตนเป็นนายพิธา จะพูดคุยสร้างความเข้าใจกับด้อมส้มให้มากกว่านี้ เพราะจะเป็นนายกฯ ของคนไทยทุกคน ไม่ใช่เป็นนายกฯ ของเฉพาะด้อมส้ม ขอพูดแบบตรงไปตรงมา เพราะไม่อยากให้มีบรรยากาศแบบนี้เกิดขึ้น” ธนกร ระบุ  

ธนกร กล่าวอีกว่า การเลือกนายกฯ และ ครม.ใหม่ ก็เลือกไปตามกลไกประชาธิปไตย ตามรัฐธรรมนูญ ใครจะเป็นรัฐบาลก็เป็นไป ซึ่งส่วนตัวก็ออกมาตั้งแต่ต้นว่า พร้อมเป็นฝ่ายค้าน หรือเป็นฝ่ายไหนก็พร้อมหมด ไม่ว่าอยู่ตรงไหนถ้าทำหน้าที่ให้กับพี่น้องคนไทยได้ ไม่มีความจำเป็นต้องมาตีโพยตีพาย ออกมาปลุกระดมมวลชน เพราะจะทำให้บ้านเมืองย้อนไปสู่ความขัดแย้งอีก พร้อมยืนยันว่า ไม่มีคนของพรรคเพื่อไทยส่งสัญญาณมาทาบทาม 

“ตามที่เลขาธิการพรรคออกมาพูดแล้วว่า ตอนนี้ยังไม่มีการทาบทามหรือพูดคุยอะไรทั้งนั้น ซึ่งจริงๆแล้วเราสามารถพูดคุยกับทุกคนได้อยู่แล้ว แต่ต้องหารือภายในพรรคก่อน เพราะเราไม่ได้อยากเป็นโน้นเป็นนี่ ซึ่งก็ต้องดูเหตุผลหลายด้าน การทำงานการเมือง เราเคารพมติพรรคและยังไม่ไปถึงตรงนั้น ยังมีเวลาอยู่ ยังไม่ได้มีการติดต่ออะไร และไม่ได้ไปแสวงหาที่จะพูดคุย ซึ่งเราก็อยู่ของเราแบบนี้ ทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด” ธนกร ระบุ  

ธนกร กล่าวด้วยว่า นายกรัฐมนตรีเป็นห่วงประเทศในวันนี้ ห่วงเรื่องของม็อบและมวลชน เพราะไม่อยากให้คนไทยแตกแยกความสามัคคีกันอีก เพราะกว่าจะทำมาตลอด 8-9 ปี มีอะไรอีกหลายอย่างที่จะต้องทำให้ประชาชน ไม่อยากให้คนไทยกลับมาทะเลาะขัดแย้งกับไปสู่จุดเดิมอีก อยากให้อยู่กันอย่างสงบสุข ยึดมั่นในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สถาบันที่เรารัก พล.อ.ประยุทธ์ ย้ำกับตนเสมอ

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์