สภาฯ ล่มอีกแล้ว! ‘ชวน’ กรีด ‘ส.ส.โดดร่ม’ ขอเปิดชื่อให้ชาวบ้านไล่บี้

23 พ.ย. 2565 - 09:44

  • สภาฯ ล่มอีกแล้ว! ‘ร่าง พ.ร.บ.เข้าชื่อถอดถอนฯ’ ทำพิษ

  • ซีก ‘รัฐบาล’ โหวตแพ้ ขอลงมติใหม่ อ้างฟังคลาดเคลื่อน

  • ด้าน ‘ฝ่ายค้าน’ โวยแหลก! สร้างบรรทัดฐานผิดๆ เล่นแง่ตีรวนพากันไม่แสดงตน

  • สุดท้าย ‘ประธานชวน’ ชิงปิดประชุม กรีด ‘คนหาย’ ขอเปิดชื่อประจาน

The-House-of-Representatives-meeting-has-collapsed-again-SPACEBAR-Thumbnail
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประชุมสภาผู้แทนราษฎร (23 พ.ย. 2565) ณ รัฐสภา ที่มี ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม ได้เข้าสู่วาระการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การเข้าชื่อเพื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น วาระ 2-3 ตามที่คณะกรรมาธิการฯ (กมธ.) พิจารณาเสร็จแล้ว โดยเริ่มต้นที่การลงมติมาตรา 7 จำนวนผู้เข้าชื่อในการถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ที่ตกค้างมาจากการพิจารณาสัปดาห์ที่แล้ว  

แต่ปรากฏว่า ทันทีที่เริ่มลงมติ ก็เกิดปัญหา เพราะสมาชิกอยู่กันบางตา ประธานการประชุมต้องเสียเวลารอสมาชิกมาแสดงตนเป็นองค์ประชุมนานกว่า 15 นาที จึงมีสมาชิกมาแสดงตน 244 เสียง เกินกึ่งหนึ่งมาแค่ 7 เสียง จากจำนวน ส.ส.ที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ 474 คน   

จากนั้นในการลงมติมาตรา 9/1 ที่ กมธ.เสียงข้างน้อยขอสงวนความเห็น ก็เกิดปัญหาอีกครั้ง เมื่อประธานการประชุม ถามว่า จะเห็นด้วยกับความเห็น กมธ.เสียงข้างน้อยหรือไม่ ที่ประชุมลงมติเห็นด้วยกับ กมธ.เสียงข้างน้อย 163 ต่อ 75 คะแนน ทำให้ ชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ประท้วงขอให้ถามคำถามใหม่ เนื่องจาก ส.ส.หลายคน เข้าใจผิด คิดว่าประธานฯถามว่า เห็นด้วยกับ กมธ.เสียงข้างมากหรือไม่ เหมือนตามปกติที่เคยถามมา ทำให้คะแนนคลาดเคลื่อน แต่ ส.ส.ฝ่ายค้านไม่ยอม ระบุไม่สามารถลงมติใหม่ได้  

ในที่สุด ประธานการประชุมจึงขอมติที่ประชุมจะอนุญาตให้ตั้งคำถามและลงมติใหม่หรือไม่ ทำให้ ส.ส.ฝ่ายค้าน เล่นแง่ ไม่ยอมแสดงตนเป็นองค์ประชุม เสียเวลารอนานกว่า 30 นาที องค์ประชุมก็ยังไม่ครบ กระทั่งเวลาประมาณ 12.50 น. ประธานฯจึงสั่งพักประชุม เพื่อไปหารือแนวทางแก้ปัญหา  

ต่อมา 13.30 น. เมื่อกลับมาเปิดประชุมใหม่ ที่ประชุมยังคงถกเถียงกันเรื่องจะให้ลงมติมาตรา 9/1 ใหม่หรือไม่ ในที่สุดที่ประชุมลงมติให้ลงมติใหม่ด้วยคะแนน 202 ต่อ 16 งดออกเสียง 10 ไม่ลงคะแนน 14  

ทำให้ จุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย แสดงความไม่พอใจ โดยระบุว่า การให้ลงมติใหม่จะเป็นบรรทัดฐาน สร้างประเพณีปฏิบัติที่ผิด พอโหวตแพ้ก็อ้างเข้าใจผิด อนาคตจะเกิดปัญหา ถ้าแพ้ก็อ้างเข้าใจผิดอยู่เรื่อยๆ ขณะที่ประธานการประชุมชี้แจงยืนยันว่า เมื่อมีความเข้าใจผิดในการลงมติ ก็สามารถลงมติใหม่ได้ เป็นเรื่องที่มีโอกาสผิดพลาดเกิดขึ้นได้ ไม่เกี่ยวกับคะแนน และยืนยันไม่เคยทำอะไรที่ล่วงละเมิดหรือเอาเปรียบคนอื่น   

“เหตุเช่นนี้คงไม่เกิดขึ้นอีก 4 ปี อาจเกิดครั้งนี้ครั้งเดียว สำหรับตนแล้ว โกง 1 คะแนน หรือทุจริต 1 บาท ก็ไม่ทำ” ประธานฯระบุบางช่วงบางตอน 

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ประชุมโหวตให้ลงมติมาตรา 9/1 ก็ยังเกิดปัญหาขึ้น เมื่อ ส.ส.ในห้องประชุมอยู่กันบางตา ประธานการประชุมจึงแจ้งว่า “เที่ยวนี้ไม่รอนาน เพราะถ้าไม่ครบก็คือไม่ครบ” หลังจากที่รอองค์ประชุม 5 นาทีแล้ว ก็ยังไม่มีทีท่าจะมีสมาชิกครบองค์ประชุม ประธานการประชุมจึงกล่าวว่า “ดูด้วยตาแล้วคงยากที่จะครบองค์ประชุม ขอบคุณคนที่มา ส่วนใครที่ไม่มาจะขอเปิดชื่อ ให้ชาวบ้านไปถามกันเองว่า ทำไมไม่มาประชุม เนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบ ขอปิดประชุม”

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า ก่อนการประชุมสภาฯ ชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบถึงคำสั่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่ประทับรับฟ้องคดี สมหญิง บัวบุตร ส.ส.อำนาจเจริญ พรรคเพื่อไทย กับพวกรวม 12 คน เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 ตามที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้องคดี ส่งผลให้ สมหญิง ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 235 จนกว่าศาลฎีกาฯ จะมีคำพิพากษาหรือมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น ดังนั้น จำนวน ส.ส.ที่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ในขณะนี้มี 474 คน มีองค์ประชุม 237 คน  

โดยก่อนหน้านี้ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิด สมหญิงกับพวก ในคดีทุจริตก่อสร้างสนามฟุตซอล จ.อำนาจเจริญ และส่งเรื่องให้อัยการสูงสุด ดำเนินคดีอาญา ก่อนจะส่งเรื่องให้ศาลฎีกาฯ รับดำเนินคดีต่อไป 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์