‘ทหารเสือฯ’ เปลี่ยน ‘หลังเสือ’ ตำนาน ‘เด็กเรียน’ แต่ไม่ ‘เนิร์ด’ วางหมากอำนาจ 10 ปี

9 ม.ค. 2566 - 09:51

  • เมื่อ ‘ทหารเสือฯ’ คิดเปลี่ยน ‘หลังเสือ’ จากรังเก่า ‘พลังประชารัฐ’ สู่ ‘รวมไทยสร้างชาติ’ ย้อนตำนาน ‘เด็กเรียน’ แต่ไม่ ‘เนิร์ด’ ฉีกกฎปฏิวัติ วางหมากอำนาจ 10 ปี ทางแพร่ง ขั้วอำนาจ ‘3ป.บูรพาพยัคฆ์’ แข่งกันเอง

Tiger-Soldier-Prayut-Power-Burapapayak-SPACEBAR-Hero
ย้อนชีวิต ‘บิ๊กตู่’ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เติบโตมาในครอบครัวข้าราชการ โดยคุณพ่อ พ.อ.ประพันธ์ เป็นนายทหาร และ ‘คุณแม่เข็มเพชร’ เป็นคุณครู โดย ‘บิ๊กตู่’ เป็นพี่ชายคนโตในพี่น้อง 4 คน ทำให้ ‘บิ๊กตู่’ ถูกปลูกฝังเรื่องวินัยที่เข้มงวด เป็นพื้นฐาน นำมาสู่การเป็น ‘ทหาร’ เหมือนคุณพ่อ หนึ่งในน้องของ ‘บิ๊กตู่’ คือ ‘บิ๊กติ๊ก’ พล.อ.ปรีชา นั่นเอง 

‘บิ๊กตู่’ เกิดที่ จ.นครราชสีมา ซึ่ง นายกฯ มักจะย้ำเสมอว่าตนเองเป็นคนอีสาน เพราะคุณพ่อเป็นทหารอยู่ที่ กองทัพภาคที่ 2 ที่ ค่ายสุรนารี แต่ ‘บิ๊กตู่’ ต้องเปลี่ยนโรงเรียนบ่อย เพราะย้ายตามคุณพ่อที่เปลี่ยนหน่วยทหาร โดย ‘บิ๊กตู่’ จบชั้นประถม ร.ร.สหะกิจวิทยา จ.ลพบุรี จากนั้นเรียนชั้นมัธยม ที่ ร.ร.พิบูลวิทยาลัย จ.ลพบุรี ก่อนเข้ามายัง กทม. มาเรียนที่ ร.ร.วัดนวลนรดิศ เคยถูกนำเสนอประวัติผ่าน ‘นิตยสารชัยพฤกษ์’ ในฐานะเด็กเรียนดีปี 2512 ก่อนเข้าสู่รั้ว ร.ร.เตรียมทหาร รุ่น 12 และนายร้อย จปร. รุ่น 23  

ชีวิตในรั้ว ‘โรงเรียนทหาร’ ของ ‘บิ๊กตู่’ ในสายตาเพื่อนๆ เป็น ‘เด็กเรียน’ ไม่ค่อยนอกลู่นอกทางเท่าไหร่ ซึ่งในหมู่ทหารจะเรียกกันว่า “เด็กตู้” ที่อยู่แต่กับหนังสือ จนดูเป็นเด็กที่ ‘เข้มขรึม’ เกินอายุ ซึ่ง ‘บิ๊กตู่’ เล่นกีฬาทุกประเภท ชอบดูทีวี ดูภาพยนต์ญี่ปุ่น สารคดีต่างแดน 

จากนั้น ‘บิ๊กตู่’ เข้าสู่ชีวิตราชการทหารที่ ร.21 รอ. จุดเริ่มต้นของการเป็น ‘ทหารเสือราชินี’ ทำให้ ‘บิ๊กตู่’ ได้พบกับพี่ใหญ่ ‘บิ๊กป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ขณะนั้นเป็น ‘ร้อยเอก’ และพี่รอง ‘บิ๊กป๊อก’ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ขณะนั้นเป็น ‘ร้อยโท’ ส่วน ‘บิ๊กตู่’ เป็นร้อยตรี พักอยู่บ้านหลังเดียวกัน จุดเริ่มต้นแผงอำนาจ ‘3ป.บูรพาพยัคฆ์’ ที่ทั้งหมดได้ขึ้นเป็น ผบ.ทบ. คุมกองทัพบก 

เส้นทางราชการของ ‘บิ๊กตู่’ เติบโตใน ร.21 รอ. หนึ่งในสนามรบคือ ‘ยุทธการเขาพนมปะ’ เมื่อปี2526 ที่ ‘บิ๊กตู่’ กับ ‘บิ๊กโด่ง’ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร นำทีมทหาร ร.21 รอ. ขับไล่ทหารเวียดนาม ภายใต้การบัญชาการของ พ.ท.ณรงค์เดช นันทโพธิ์เดช จนได้เป็น ‘นักรบเหรียญรามา’ 

โดย ‘บิ๊กตู่’ อยู่ที่ ร.21 รอ. จนขึ้นเป็น ‘ผู้การกรม’ ก่อนจะย้ายมาโตที่ พล.ร.2 รอ. ถิ่นบูรพาพยัคฆ์ จนขึ้นเป็น ‘ผบ.กองพล’ ขยับเข้า กทม. ขึ้นเป็น ‘แม่ทัพภาคที่ 1’ ขึ้นตำแหน่ง 5 เสือ ทบ. ก่อนขึ้นเป็น ผบ.ทบ.  

เส้นทางราชการของ ‘บิ๊กตู่’ ดูราบเรียบกว่า ‘พี่ป้อม-พี่ป๊อก’ เพราะพี่ๆ กรุยทางไว้ให้เรียบร้อย โดยเฉพาะ ‘บิ๊กป้อม’ ที่กรำศึกต้องเจอกับ ‘ฤทธิ์การเมือง’ ทำให้ ‘บิ๊กป้อม’ มีความใกล้ชิดนักการเมือง ผ่านสายสัมพันธ์กับ ‘บ้านจันทร์ส่องหล้า’ ของ ‘คุณหญิงอ้อ’ พจมาน ดามาพงศ์ ที่แนบชิดกับ ‘บิ๊กป้อม’ ที่สำคัญในยุคนั้นได้แรงหนุนจาก ‘บิ๊กเหวียง’ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร ที่ขณะนั้นเป็น รมต.กลาโหม สมัยรัฐบาลทักษิณ 1 โดย พล.อ.เชษฐา ได้พบกับ ‘บิ๊กป้อม’ ตั้งแต่สมัย พล.อ.เชษฐาเป็น เสธ.พล.ร.2 รอ. ส่วน พล.อ.ประวิตร เป็น ผู้บังคับกองพัน 

สำหรับ ‘บิ๊กเหวียง’ เป็นนายทหารสายผสม ‘บูรพาพยัคฆ์-วงศ์เทวัญ เพราะ เข้ารับราชการหลังจบจาก ร.ร.นายร้อย จปร. ที่ ร.1 พัน.2 รอ. ก่อนจะไปเป็น เสธ.พล.ร.2 รอ. ถิ่นบูรพาพยัคฆ์ เรียกว่าเป็น ‘บูรพาพยัคฆ์ตัวพ่อ’ และได้ขึ้นเป็น ผบ.ทบ. ด้วย 

การที่ ‘บิ๊กป้อม’ ขึ้นเป็น ผบ.ทบ. เริ่มทำให้ทหารสายบูรพาพยัคฆ์ เติบโตใน ทบ. หนึ่งในนั้น คือ ‘บิ๊กป๊อก’ พล.อ.อนุพงษ์ โดยมีจุดพลิกผันสำคัญ คือ เหตุการณ์รัฐประหาร 19 ก.ย. 2549 ที่แม้ว่า ‘บิ๊กป๊อก’ ขณะเป็น แม่ทัพภาคที่ 1 จะเป็น เพื่อน ตท.10 กับ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ แต่ก็ต้องตัดสินใจนำกำลังทำ รปห. ร่วมกับ ‘บิ๊กบัง’ พล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน ผบ.ทบ. ในยุคนั้น ที่เป็นหัวหน้า คมช. ทำการรัฐประหาร ทำให้ ‘บิ๊กป๊อก’ ได้ขึ้นเป็น ‘ผู้ช่วย ผบ.ทบ.’ และขึ้นเป็น ผบ.ทบ. ต่อจาก พล.อ.สนธิ ด้วย 

เส้นทางราชการของ ‘บิ๊กป๊อก’ ต้องกรำศึกกับ ‘คนเสื้อแดง’ ในเก้าอี้ ผบ.ทบ. ยุครัฐบาลสมัคร-สมชาย เรื่อยมาถึง รบ.อภิสิทธิ์ ก่อนส่งต่อให้ ‘บิ๊กตู่’ นั่งเป็น ผบ.ทบ. ยาว 4 ปี ในยุค รบ.ยิ่งลักษณ์ ชนิดที่ทำให้ ‘ขั้วทักษิณ’ ตายใจ ด้วยท่าทีของ ‘บิ๊กตู่’ ที่เอาใจ ‘ยิ่งลักษณ์’ ผ่านภาพที่ออกผ่านหน้าสื่อต่างๆ รวมทั้ง ‘ยิ่งลักษณ์’ ก็เอาใจกองทัพ ที่กองทัพขออะไรก็มักจะได้ แต่สุดท้ายเป็นเพียง ‘เกมหลอก’ เท่านั้น นำมาสู่เหตุการณ์ ‘สะดุดขาตัวเอง’ ผ่านร่าง กม.นิรโทษสุดซอย การเกิดขึ้นของ กปปส. อันนำมาสู่เหตุการณ์รัฐประหาร 22 พ.ค. 2557 ที่ ‘บิ๊กตู่’ หัวหน้า คสช. ที่ขึ้นเป็น นายกฯ ด้วยตัวเอง 

สำหรับ ‘บิ๊กตู่’ เรียกว่า ‘ฉีกกฎปฏิวัติ’ ที่ขึ้นเป็น นายกฯ อยู่ในอำนาจลากยาว ตั้งพรรคทหารขึ้นมา ชื่อว่า ‘พรรคพลังประชารัฐ’ เพื่อสืบทอดอำนาจผ่านการเลือกตั้ง ผ่าน รธน.60 ที่ร่างในยุค คสช. โดยมี ‘บิ๊กป้อม’ เป็นคน ‘สร้างนั่งร้าน’ ให้ แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่ ‘บิ๊กป้อม’ โดน ‘เด็ดปีก ริบอำนาจ’ มีอำนาจลดลงจากยุค รบ.เลือกตั้ง ไม่ได้คุมตำรวจ-หน่วยงานต่างๆ ทำให้บรรดาขุนพลรอบกาย ‘บิ๊กป้อม’ ขยับเขย่าเก้าอี้ ‘บิ๊กตู่’ ถึงขั้นเกิดขบวนการ ‘ล้มนายกฯ’ กลางสภาฯ มาแล้ว 

แต่งานนี้ ‘บิ๊กตู่’ ไหวตัวทัน นำมาสู่ ‘ความหวาดระแวง’ กันเอง ถือเป็นจุดเริ่มการ ‘แยกพรรค’ ออกมา นำมาสู่การเกิดขึ้นของ ‘พรรครวมไทยสร้างชาติ’ ที่ในวันนี้ ‘บิ๊กตู่’ ประกาศนำทัพเรียบร้อย กลายเป็น ‘พรรคคู่แข่ง’ กับ พปชร. กลายเป็นว่า ‘พี่ป้อม-น้องตู่’ แข่งกันเอง แม้ ‘บิ๊กตู่’ จะเป็น นายกฯ มาแล้ว 8 ปี และสามารถอยู่ได้อีกเพียง 2 ปี ตาม รธน.60 ก็ตาม 

เมื่อ ‘ทหารเสือฯ’ ยังไม่คิด ‘ลงหลังเสือ’ แต่กำลัง ‘เปลี่ยนหลังเสือ’!

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์