ธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ชี้แจงผู้สื่อข่าวกรณีการเสนอชื่อ วิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ชิงตำแหน่งรองประสภาผู้แทนราษฏร คนที่ 1 และขั้นต่อไปจะเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีหรือไม่ว่า ในวันอังคารที่ 11 กรกฎาคม จะมีการประชุม ส.ส.ของพรรค เข้าใจว่าจะมีการพูดคุยกันในเรื่องนี้ พร้อมยอมรับการส่งชื่อ วิทยา ไปเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม นั้นทราบอยู่แล้วว่า เสียงสู้อีกฝ่ายไม่ได้ แต่ต้องการแสดงจุดยืนของพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ไม่เห็นด้วยกับพรรคที่มีจุดยืนแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112
“เราไม่ได้แค่จะงดออกเสียง แต่ต้องส่งคนไปแข่ง เพื่อแสดงจุดยืนให้ชัดเจน เพื่อให้ประชาชนที่เห็นด้วยกับจุดยืนของพรรค ได้ทราบรายละเอียด ส่วนการจะเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีแข่งด้วยหรือไม่นั้น ถ้ามองย้อนไปก็จะส่งกันทุกพรรค ฉะนั้น ครั้งนี้ก็ไม่แน่ เพราะแต่ละพรรคจะมีการหารือกันภายในก่อน และอาจจะมีการหารือกันนอกรอบกับพรรคร่วมรัฐบาลด้วย ว่ามีแนวคิดหรือมองอย่างไร แต่ในพรรคเราก็ต้องคุยกันก่อน ทุกอย่างต้องเป็นมติพรรค” ธนกร ระบุ
อย่างไรก็ตาม ธนกร ยอมรับว่า ในการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เนื่องด้วยมี ส.ส.เกิน 25 คน ก็ต้องมองในหลายด้านด้วย เนื่องจากพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นพรรคขนาดเล็ก ก็ต้องทำตัวเล็กๆ ดีกว่า แต่ในกติกาสามารถเสนอชื่อได้ แต่จะเสนอหรือไม่ ต้องหารือกันก่อน ส่วนประเด็น 105 เสียง ที่เลือก วิทยา ถือว่าสัญญาณจากรัฐบาลขั้วปัจจุบันยังดีอยู่ ซึ่งตอนแรกตนเข้าใจว่าจะได้สัก 40-50 เสียง แต่พอได้ถึง 100 เสียง ก็รู้สึกดีที่มี ส.ส.เป็นร้อยคนสนับสนุน วิทยา
“เราเป็นพรรคขนาดเล็ก มี ส.ส. 36 คน แต่มีเสียงสนับสนุนเป็นร้อยคน ถือว่าดีมากแล้ว ฉะนั้น การทำงานในอนาคตเราต้องไปต่อ คิดว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ ไปต่อได้” ธนกร ระบุ
เมื่อถามต่อว่า ขณะนี้มองภาพว่ามีโอกาสที่พรรครวมไทยสร้างชาติ จะเป็นฝ่ายค้านได้หรือไม่นั้น ธนกร กล่าวว่า ตนยังไม่ได้มองตรงนั้น แต่เราพร้อมทำทุกหน้าที่ การเมืองยังมีอีกหลายขั้นตอน ซึ่งดูแล้วก็ไม่ง่ายจากที่เราคิด ดูดินฟ้าอากาศอย่างที่ สมศักดิ์ เทพสุทิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เคยบอก แล้วมันก็ไม่ง่าย ส่วนจะเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองขึ้นได้ใช่หรือไม่นั้น ตนเองไม่ทราบ
“กลไกหลายอย่าง แค่ขั้นตอนก็เยอะ และยังมีเรื่องร้องเรียนต่างๆ ผมคิดว่าเหนื่อยเหมือนกัน แต่อยากให้ตั้งรัฐบาลเร็วๆ เป็นกำลังใจให้ละกัน” ธนกร ระบุ
นอกจากนี้ ธนกร ยังมองว่า การงดออกเสียงของพรรคภูมิใจไทย ไม่ได้เป็นการสงวนท่าทีเพื่อรอการจัดตั้งรัฐบาล เพราะถือเป็นพรรคร่วมที่ใกล้ชิดกันมาก
“ตนคิดว่า อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นคนที่เราเชื่อมั่น คุ้นเคยกัน และมีความสัมพันธ์ที่ดีมาโดยตลอด กับท่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์ พรรครวมไทยสร้างชาติ เราเข้าใจกัน” ธนกร ระบุ
ธนกร กล่าวต่อไปว่า ขณะเดียวกัน เราก็ไม่ได้ประสานอะไรมาก คุยกันหน้างานเลย ซึ่งก็ได้เสียงจากบางพรรคมาอาจจะไม่ครบ แต่บางพรรคก็ครบ ต้องขอบคุณ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่โหวตให้ รวมถึงพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคชาติไทยพัฒนา
“เราไม่ได้แค่จะงดออกเสียง แต่ต้องส่งคนไปแข่ง เพื่อแสดงจุดยืนให้ชัดเจน เพื่อให้ประชาชนที่เห็นด้วยกับจุดยืนของพรรค ได้ทราบรายละเอียด ส่วนการจะเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีแข่งด้วยหรือไม่นั้น ถ้ามองย้อนไปก็จะส่งกันทุกพรรค ฉะนั้น ครั้งนี้ก็ไม่แน่ เพราะแต่ละพรรคจะมีการหารือกันภายในก่อน และอาจจะมีการหารือกันนอกรอบกับพรรคร่วมรัฐบาลด้วย ว่ามีแนวคิดหรือมองอย่างไร แต่ในพรรคเราก็ต้องคุยกันก่อน ทุกอย่างต้องเป็นมติพรรค” ธนกร ระบุ
อย่างไรก็ตาม ธนกร ยอมรับว่า ในการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เนื่องด้วยมี ส.ส.เกิน 25 คน ก็ต้องมองในหลายด้านด้วย เนื่องจากพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นพรรคขนาดเล็ก ก็ต้องทำตัวเล็กๆ ดีกว่า แต่ในกติกาสามารถเสนอชื่อได้ แต่จะเสนอหรือไม่ ต้องหารือกันก่อน ส่วนประเด็น 105 เสียง ที่เลือก วิทยา ถือว่าสัญญาณจากรัฐบาลขั้วปัจจุบันยังดีอยู่ ซึ่งตอนแรกตนเข้าใจว่าจะได้สัก 40-50 เสียง แต่พอได้ถึง 100 เสียง ก็รู้สึกดีที่มี ส.ส.เป็นร้อยคนสนับสนุน วิทยา
“เราเป็นพรรคขนาดเล็ก มี ส.ส. 36 คน แต่มีเสียงสนับสนุนเป็นร้อยคน ถือว่าดีมากแล้ว ฉะนั้น การทำงานในอนาคตเราต้องไปต่อ คิดว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ ไปต่อได้” ธนกร ระบุ
เมื่อถามต่อว่า ขณะนี้มองภาพว่ามีโอกาสที่พรรครวมไทยสร้างชาติ จะเป็นฝ่ายค้านได้หรือไม่นั้น ธนกร กล่าวว่า ตนยังไม่ได้มองตรงนั้น แต่เราพร้อมทำทุกหน้าที่ การเมืองยังมีอีกหลายขั้นตอน ซึ่งดูแล้วก็ไม่ง่ายจากที่เราคิด ดูดินฟ้าอากาศอย่างที่ สมศักดิ์ เทพสุทิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เคยบอก แล้วมันก็ไม่ง่าย ส่วนจะเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองขึ้นได้ใช่หรือไม่นั้น ตนเองไม่ทราบ
“กลไกหลายอย่าง แค่ขั้นตอนก็เยอะ และยังมีเรื่องร้องเรียนต่างๆ ผมคิดว่าเหนื่อยเหมือนกัน แต่อยากให้ตั้งรัฐบาลเร็วๆ เป็นกำลังใจให้ละกัน” ธนกร ระบุ
นอกจากนี้ ธนกร ยังมองว่า การงดออกเสียงของพรรคภูมิใจไทย ไม่ได้เป็นการสงวนท่าทีเพื่อรอการจัดตั้งรัฐบาล เพราะถือเป็นพรรคร่วมที่ใกล้ชิดกันมาก
“ตนคิดว่า อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นคนที่เราเชื่อมั่น คุ้นเคยกัน และมีความสัมพันธ์ที่ดีมาโดยตลอด กับท่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์ พรรครวมไทยสร้างชาติ เราเข้าใจกัน” ธนกร ระบุ
ธนกร กล่าวต่อไปว่า ขณะเดียวกัน เราก็ไม่ได้ประสานอะไรมาก คุยกันหน้างานเลย ซึ่งก็ได้เสียงจากบางพรรคมาอาจจะไม่ครบ แต่บางพรรคก็ครบ ต้องขอบคุณ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่โหวตให้ รวมถึงพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคชาติไทยพัฒนา
