









ณ ที่ทำการพรรครวมไทยสร้างชาติ วันนี้ ‘พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา’ แคนดิเดตนายกฯ ลำดับที่ 1 และ ‘พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค’ หัวหน้าพรรค นำทีมเศรษฐกิจ แถลงข่าวเปิดนโยบายชุดใหญ่ภายใต้กิจกรรม ‘ประชาชนจะได้อะไรจากนโยบาย รทสช.’ โดย ‘บิ๊กตู่’ ในฐานะ ประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค ได้กล่าวว่า เป็นความตั้งใจของพรรคในการสานต่อโครงการต่างๆ ที่รัฐบาลปัจจุบันได้ดำเนินการไปแล้ว ซึ่งปรากฏผลชัดเจนว่า ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และสามารถช่วยให้คลายความเดือดร้อนช่วงวิกฤติลงได้
ดังนั้น พรรคพร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนอีกหลายโครงการเพื่อแก้ไขปัญหาของประเทศ ทั้งระบบเศรษฐกิจมหภาคเพื่อเพิ่มศักยภาพให้ประเทศ และเศรษฐกิจจุลภาคแก้ปัญหาปากท้อง ตลอดจนความเป็นอยู่ผู้คนทุกกลุ่มทุกอาชีพและทุกช่วงวัยตั้งแต่แรกเกิดถึงวัยชรา ลดความเหลื่มล้ำ สร้างสังคมที่เท่าเทียมให้เกิดขึ้นในประเทศ และจะเป็นการตอบคำถามว่าประชาชนจะได้อะไรจากนโยบายของพรรครวมไทยสร้างชาติได้ โดยนโยบายแต่ละด้านล้วนมาจากแนวคิด ‘ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ’ อาทิ นโยบายหาเงินเข้าประเทศ 4 ล้านล้านบาท ต่อยอดไอเดีย EEC เพิ่มระเบียงเศรษฐกิจอีก 4 ภาค
สำหรับ นโยบายบัตรสวัสดิการพลัสให้เงิน 1 พันบาทต่อเดือน ซึ่งทำต่อโครงการคนละครึ่งภาค 2 เดินหน้าเราเที่ยวด้วยกัน โดยมีการยืนยันว่า ‘บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ’ ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2559 โดยพลเอกประยุทธ์ ที่สำคัญคือประชาชนสามารถใช้บัตรนี้ไปกู้เงินฉุกเฉินได้อีก 10,000 บาท ซึ่งไม่เคยมีใครทำมาก่อน และยังมีโครงการคนละครึ่ง ที่ยืนยันว่าพลเอกประยุทธ์เป็นคนคิดขึ้นมาเองด้วย
ขณะที่ พีระพันธ์ กล่าวในงานแถลงข่าวว่า นโยบายของพรรคติสะท้อนมาจากหลายส่วน หลายคนบอกว่ารวมไทยสร้างชาติเป็นพรรคเกิดใหม่ แต่เราเป็นพรรคใหม่ที่มีบุคลากรที่มากคุณภาพและประสบการณ์ ทั้งนี้การกำหนดนโยบายจึงคำนึงถึงวุฒิภาวะ และความรับผิดชอบต่อบ้านเมือง ไม่ได้คิดกำหนดนโยบายเพื่อให้ได้คะแนนเสียง หรือนโยบายเกทัพ แค่รับผิดชอบต่อการเมือง และสถานะทางเศรษฐกิจของประเทศ
โดยมีการกำหนดนโยบายที่แก้ปัญหาให้กับประชาชนทุกช่วงวัย พร้อมนำความรู้และประสบการณ์ของ พลเอกประยุทธ์ ในฐานะประธานกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค มากำหนดแนวทางของนโยบายพรรค ยกตัวอย่างนโยบายเด็กเล็ก ดูแลเด็กแรกเกิดจนถึงอายุ 10 ปี เมื่อเด็กโตขึ้นก็ให้โอกาสทางการศึกษาตอบสนองต่อความต้องการของตลาดแรงงาน และนโยบายแก้ปัญหาหนี้สินอย่างเป็นธรรมและเหมาะสม
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พลเอกประยุทธ์ ในวันนี้สวมรองเท้าผ้าใบเหมือนเตรียมไปออกกำลังกาย ซึ่งตามกำหนดการจะเดินทางไปยังสนามกีฬาไทยญี่ปุ่นดินแดง เพื่อหาเสียงในช่วงเย็นต่อไป
ดังนั้น พรรคพร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนอีกหลายโครงการเพื่อแก้ไขปัญหาของประเทศ ทั้งระบบเศรษฐกิจมหภาคเพื่อเพิ่มศักยภาพให้ประเทศ และเศรษฐกิจจุลภาคแก้ปัญหาปากท้อง ตลอดจนความเป็นอยู่ผู้คนทุกกลุ่มทุกอาชีพและทุกช่วงวัยตั้งแต่แรกเกิดถึงวัยชรา ลดความเหลื่มล้ำ สร้างสังคมที่เท่าเทียมให้เกิดขึ้นในประเทศ และจะเป็นการตอบคำถามว่าประชาชนจะได้อะไรจากนโยบายของพรรครวมไทยสร้างชาติได้ โดยนโยบายแต่ละด้านล้วนมาจากแนวคิด ‘ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ’ อาทิ นโยบายหาเงินเข้าประเทศ 4 ล้านล้านบาท ต่อยอดไอเดีย EEC เพิ่มระเบียงเศรษฐกิจอีก 4 ภาค
สำหรับ นโยบายบัตรสวัสดิการพลัสให้เงิน 1 พันบาทต่อเดือน ซึ่งทำต่อโครงการคนละครึ่งภาค 2 เดินหน้าเราเที่ยวด้วยกัน โดยมีการยืนยันว่า ‘บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ’ ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2559 โดยพลเอกประยุทธ์ ที่สำคัญคือประชาชนสามารถใช้บัตรนี้ไปกู้เงินฉุกเฉินได้อีก 10,000 บาท ซึ่งไม่เคยมีใครทำมาก่อน และยังมีโครงการคนละครึ่ง ที่ยืนยันว่าพลเอกประยุทธ์เป็นคนคิดขึ้นมาเองด้วย
ขณะที่ พีระพันธ์ กล่าวในงานแถลงข่าวว่า นโยบายของพรรคติสะท้อนมาจากหลายส่วน หลายคนบอกว่ารวมไทยสร้างชาติเป็นพรรคเกิดใหม่ แต่เราเป็นพรรคใหม่ที่มีบุคลากรที่มากคุณภาพและประสบการณ์ ทั้งนี้การกำหนดนโยบายจึงคำนึงถึงวุฒิภาวะ และความรับผิดชอบต่อบ้านเมือง ไม่ได้คิดกำหนดนโยบายเพื่อให้ได้คะแนนเสียง หรือนโยบายเกทัพ แค่รับผิดชอบต่อการเมือง และสถานะทางเศรษฐกิจของประเทศ
โดยมีการกำหนดนโยบายที่แก้ปัญหาให้กับประชาชนทุกช่วงวัย พร้อมนำความรู้และประสบการณ์ของ พลเอกประยุทธ์ ในฐานะประธานกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค มากำหนดแนวทางของนโยบายพรรค ยกตัวอย่างนโยบายเด็กเล็ก ดูแลเด็กแรกเกิดจนถึงอายุ 10 ปี เมื่อเด็กโตขึ้นก็ให้โอกาสทางการศึกษาตอบสนองต่อความต้องการของตลาดแรงงาน และนโยบายแก้ปัญหาหนี้สินอย่างเป็นธรรมและเหมาะสม
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พลเอกประยุทธ์ ในวันนี้สวมรองเท้าผ้าใบเหมือนเตรียมไปออกกำลังกาย ซึ่งตามกำหนดการจะเดินทางไปยังสนามกีฬาไทยญี่ปุ่นดินแดง เพื่อหาเสียงในช่วงเย็นต่อไป