https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/6QKfpfuTwKecM5uuQdwElD/4b8c50ff98afbb48d7cbf4101ac833df/Upakit-Pachariyangkun-Cry-Swear-SPACEBAR-Photo01
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/6w4fZD3VCcTw6Cpvwk7ix5/14c05c78242665f042a0d745807da51d/Upakit-Pachariyangkun-Cry-Swear-SPACEBAR-Photo02
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/45t4DeLc4SVVnRTKMu6hAG/3f1d0be8de5c39cade7f94fc68858ff0/Upakit-Pachariyangkun-Cry-Swear-SPACEBAR-Photo03
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/6HsxYPE9qNFEZoYlcTyaQI/201316264efe14901d4389e0e4fe9e2b/Upakit-Pachariyangkun-Cry-Swear-SPACEBAR-Photo04
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/4IaSaXvBst4Ezhz4J8QpFh/c466e7e2b5d44df831faf04d03221406/Upakit-Pachariyangkun-Cry-Swear-SPACEBAR-Photo05
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/eDrR04KvtymzpYMrOAljb/9dc5810b3c0d02bf80baaeacf194cfdf/Upakit-Pachariyangkun-Cry-Swear-SPACEBAR-Photo06
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/6rA8u5RXWWxEuufgia8yxA/b0285959729d63756f1c4753e3eca3a8/Upakit-Pachariyangkun-Cry-Swear-SPACEBAR-Photo07
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/7ztHRqo0YrluCMoETjh7Cl/c8a8ad9aacc23a9180c83b2ad8367f83/Upakit-Pachariyangkun-Cry-Swear-SPACEBAR-Photo08

Photo Story: ‘อุปกิต’ น้ำตานอง สาบานกลางสภาฯ

17 มีนาคม 2566 - 06:34

  • ‘อุปกิต’ น้ำตานอง ตกเป็นเหยื่อทางการเมือง ยกมือท่วมหัวสาบาน ไม่เคยเอี่ยวยาเสพติด ใครใส่ร้ายขอให้มีอันเป็นไป ยัน ไม่เป็นนายทุน ‘รวมไทยสร้างชาติ’ พร้อมให้ตรวจสอบสัญญาเช่าตึก ไม่รู้จัก ‘บิ๊กตู่’ เป็นการส่วนตัว จ่อฟ้องทุกคนที่ใส่ร้าย เชื่อทำเป็นกระบวนการจับมือ ‘ก้าวไกล’ สร้างหลักฐานเท็จฟ้องศาลฯ

https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/6QKfpfuTwKecM5uuQdwElD/4b8c50ff98afbb48d7cbf4101ac833df/Upakit-Pachariyangkun-Cry-Swear-SPACEBAR-Photo01
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/6w4fZD3VCcTw6Cpvwk7ix5/14c05c78242665f042a0d745807da51d/Upakit-Pachariyangkun-Cry-Swear-SPACEBAR-Photo02
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/45t4DeLc4SVVnRTKMu6hAG/3f1d0be8de5c39cade7f94fc68858ff0/Upakit-Pachariyangkun-Cry-Swear-SPACEBAR-Photo03
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/6HsxYPE9qNFEZoYlcTyaQI/201316264efe14901d4389e0e4fe9e2b/Upakit-Pachariyangkun-Cry-Swear-SPACEBAR-Photo04
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/4IaSaXvBst4Ezhz4J8QpFh/c466e7e2b5d44df831faf04d03221406/Upakit-Pachariyangkun-Cry-Swear-SPACEBAR-Photo05
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/eDrR04KvtymzpYMrOAljb/9dc5810b3c0d02bf80baaeacf194cfdf/Upakit-Pachariyangkun-Cry-Swear-SPACEBAR-Photo06
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/6rA8u5RXWWxEuufgia8yxA/b0285959729d63756f1c4753e3eca3a8/Upakit-Pachariyangkun-Cry-Swear-SPACEBAR-Photo07
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/7ztHRqo0YrluCMoETjh7Cl/c8a8ad9aacc23a9180c83b2ad8367f83/Upakit-Pachariyangkun-Cry-Swear-SPACEBAR-Photo08
อุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) แถลงข่าวกรณีที่ รังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล ออกกล่าวหา โดยเริ่มต้นกล่าวกับสื่อมวลชนว่า ขออภัยที่ออกมาชี้แจงล่าช้า เพราะเกรงว่าจะเสียรูปคดี ส่วนกรณีที่ รังสิมันต์ และสื่อบางสื่อได้ตัดสินว่าตนผิด เรื่องดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว จึงไม่ขอก้าวล่วงมากนัก 

ทั้งนี้ก่อนที่จะชี้แจงเรื่องข้อกล่าวหาต่างๆ อุปกิต ได้พูดถึงกรณีที่ลูกเขยถูกจับกุมในคดียาเสพติดและฟอกเงิน โดยเจ้าหน้าที่อ้างว่า มีพฤติกรรมหลบหนี ทั้งที่ลูกเขยอยู่ที่บ้านพักซอยสุขุมวิท 69 ซึ่งเป็นบ้านพักของตนเอง และลูกเขยของตนได้พักอาศัยอยู่ที่บ้านนั้นมานานแล้ว ซึ่งในขณะจับกุม ลูกเขยก็ได้เดินเล่นกับลูกเล็กอยู่ นั่นก็คือหลานของตนเอง  

เมื่ออุปกิตพูดถึงเรื่องดังกล่าว ก็ถึงขั้นร้องไห้ออกมา เพราะรู้สึกสงสารหลาน โดยระบุว่า หากตนเป็นคนที่มีอิทธิพลอย่างที่มีการกล่าวอ้าง ลูกเขยคงไม่ต้องอยู่ในคุกมา 7 เดือน เพราะหากตำรวจอยากช่วยตน ก็มีอำนาจจับกุมแล้วประกันตัวได้ และหากจะช่วยกันก็ช่วยตั้งแต่วันนั้นแล้ว แต่ลูกเขยอยู่ในคุกมา 7 เดือน หลานเล็กๆ ของตนก็ร้องไห้ทุกวัน แม่ของหลาน ก็โทรมาร้องไห้ทุกวัน แต่ตนก็ช่วยอะไรไม่ได้เลย  

จากนั้น อุปกิต ได้ชี้แจงยืนยันว่า ตนไม่ใช่ผู้ถือหุ้นหรือเป็นกรรมการบริษัท อัลลัวร์กรุ๊ป จำกัด และตำรวจก็ไม่ได้ช่วยแยกคดีนี้ออกมาเป็นอีกคดีหนึ่ง ทั้งหมดเป็นคดีนอกราชอาณาจักร 

ส่วนกรณีที่มีการกล่างอ้างว่า มีตำรวจที่ทำคดีดังกล่าวถูกโยกย้าย อุปกิต ยืนยันว่า ตนไม่มีอำนาจหรือกดดันให้ใครย้ายตำรวจคดีนี้ แต่ตำรวจที่ถูกย้ายเป็นการย้ายไปตามวงรอบ และไม่มีผลงานในช่วง 3-4 เดือน มีแค่คดีนายทุนมินลัตคดีเดียว อีกทั้งการย้ายครั้งนี้ เป็นการย้ายไปในตำแหน่งที่ใกล้เคียงกัน ไม่ใช่ย้ายเพราะการลงโทษ หากตนมีอิทธิพลจริง ก็คงย้ายออกไปไกลๆ ขณะเดียวกัน ตำรวจชุดนี้ ไม่ได้รับผิดชอบคดีดังกล่าวมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้ ซึ่งถ้าตำรวจจะช่วยตน ก็ช่วยตั้งแต่วันแรกแล้วที่มาจับกุมลูกเขยของตน 

ส่วนกรณี รังสิมันต์ โจมตีทำให้ตนเองเสียหายอย่างมากนั้น อุปกิต กล่าวว่า กรณีการออกหมายจับแล้วยกเลิกหมายจับในวันเดียวกันนั้น เนื่องจากมีการตกแต่งคำพูดในแชทโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจเพื่อนำมาปั้นเป็นหลักฐาน ให้ตนมีความผิด  

ส่วนกรณีที่มีการกล่าวหาว่า ตนนำเงินที่ค้ายาเสพติดมาฟอกผ่านการธุรกิจจำหน่ายระหว่างไทยกับเมียนมานั้น อุปกิต ชี้แจงว่า คงไม่มีใครไม่มีใครคิดนำเงินค่าไฟฟ้าที่ถูกกฎหมาย ไปเปลี่ยนให้เป็นเงินผิดกฎหมาย เพื่อไปฟอกผ่านการโอนเงินจ่ายค่าไฟฟ้า จึงยืนยันว่า ไม่ได้นำไปฟอกกับคนโอนเงินเพื่อจ่ายค่าไฟฟ้า  

ขณะที่คดีของทุนมินลัต ก็ยังไม่ได้สิ้นสุดกระบวนการยุติธรรม กลับนำคดีนี้มาปั่นกระแสเพื่อประโยชน์ทางการเมือง โดยที่ตนไม่มีโอกาสที่จะชี้แจงหรือรักษาสิทธิตนเอง จึงขอตั้งข้อสังเกตว่า มีทฤษฎีสมคบคิดหรือไม่ และ พ.ต.ท.มานะพงษ์ วงศ์พิวัฒน์ สารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจนครบาลพญาไท มีความสัมพันธ์กับพรรคก้าวไกลหรือไม่ พร้อมกันนี้ตั้งข้อสังเกตว่า มีความพยายามปั้นหลักฐานต่างๆ ไปฟ้องต่อศาลฯ ผ่านกระบวนการที่มีความเชื่อมโยงกันจากหลายฝ่าย ทั้งนักวิชาการ นักเคลื่อนไหว นักการเมือง สื่อมวลชน และตำรวจ  

นอกจากนี้ ยังตั้งข้อสังเกตว่า มีการเมืองอยู่เบื้องหลังหรือไม่ เพราะการเผยแพร่เอกสารหลุดจาก พ.ต.ท.มานะพงษ์ และพรรคการเมืองฝั่งตรงข้ามขั้วรัฐบาลออกมาโหนกระแส ตนและครอบครัวจึงขอความเป็นธรรม เพราะตนและครอบครัวตกเป็นเหยื่อทางการเมือง ใช้ประโยชน์เพื่อการหาเสียง ตนยังเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ไม่มีใครก้าวก่าวและแทรกแซงได้ โดยเฉพาะตนเอง  

อุปกิต เปิดเผยอีกว่า วันนี้ ตนเองและทนายความจะเดินทางไปยื่นฟ้อง พ.ต.ท.มานะพงษ์ และผู้ที่เกี่ยวข้องในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบในวันนีั (17 มี.ค.) 

อุปกิต กล่าวอีกว่า สำหรับสื่อมวลชนที่ได้ฟ้องแล้ว และกำลังจะยื่นฟ้อง เนื่องจากทำให้ตนเสียหาย ทั้งที่ยังไม่มีการตัดสินว่าตนผิด ดังนั้น ใครที่ล้ำเส้นตน กล่าวหาตน ตนจะปกป้องสิทธิด้วยการฟ้อง หากตนชนะคดีเหล่านี้ ขอบริจาคเงินให้การกุศลทั้งหมด เพราะตนต้องการเพียงกอบกู้ชื่อเสียงและเกียรติยศของตน 

หลังการแถลงเสร็จสิ้น อุปกิตได้ยกมือพนม พร้อมกล่าวสาบานทั้งน้ำตาว่า “ผมขอสาบานต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดในสากลโลก ผมและครอบครัวไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจยาเสพติดอย่างที่โดนกล่าวหา ไม่คิดจะทำ และไม่มีวันทำ แต่หากใครใส่ร้ายกล่าวหาผมและครอบครัว ขอให้ท่านเหล่านั้นและครอบครัวประสบความวิบัติและมีอันเป็นไป” 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ชาคริส กาจกำจรเดช คือใคร อุปกิจ กล่าวว่า ชาคริส คือคนที่เคยเช่าอัลลัวร์ และเป็นหุ้นส่วน 15% ของอัลลัวร์เมื่อก่อนที่ตนเคยทำอยู่  

เมื่อถามอีกว่า มีการตั้งข้อสังเกตถึงการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเท็จเนื่องจากรังสิมันต์ ตั้งข้อสังเกตว่า อุปกิตไม่ได้ซื้อขายหุ้นหุ้นอัลลัวร์ให้ชาคริสจริง ซึ่ง อุปกิต ยอมรับว่า เป็นความสะเพร่าของตน เพราะตนจะขายให้กับชาคริส ก่อนมารับตำแหน่ง ส.ว. ขณะเดียวกัน การถือหุ้นไม่ได้ผิดกฎหมาย แต่ไม่อยากให้มีข้อครหา จึงเซ็นสัญญาซื้อขาย เพราะตั้งใจจะขายให้กับ ชาคริส แต่ปรากฎว่า สัญญาเป็นโมฆะ แล้วโอนให้กับลูกเขย จากนั้นขายให้กับแอ็ดดี้เป็นเงินสด และตนตั้งใจว่าจะยื่นชี้แจงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินหลังจากออกจากตำแหน่ง ส.ว.ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก และไม่ได้ซีเรียสเรื่องสัญญา  

อุปกิต ยังยืนยันอีกว่า ตึกที่ทำการพรรครวมไทยสร้างชาตินั้น พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ติดต่อขอเช่าโดยแจ้งว่า ใช้เป็นออฟฟิศส่วนตัว ยืนยันว่าได้ทำสัญญาเช่าถูกต้องตามกฎหมาย และไม่ทราบมาก่อนว่า จะเปลี่ยนเป็นที่ทำการพรรค พร้อมยินดีให้ตรวจสอบสัญญาเช่าและย้ำว่า ไม่ได้รู้จัก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นการส่วนตัว แต่คิดว่าที่ถูกได้รับเลือกให้เป็น ส.ว. เพราะมีความชำนาญด้านการต่างประเทศและการไฟฟ้า โดยยืนยันได้ว่า ตนเองไม่ได้เป็นผู้สนับสนุนพรรครวมไทยสร้างชาติอย่างที่ถูกกล่าวหา ดังนั้นจึงตั้งข้อสังเกตได้ว่า ตนเองตกเป็นเหยื่อทางการเมืองอย่างแน่นอน

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์