Photo Story: ญาติวีรชน35 จ่อยื่นถอด ‘บิ๊กตู่-ครม.’ ปม กม.อุ้มหาย

ญาติวีรชน35 นัด 6 มิ.ย. ยื่น ‘ป.ป.ช.’ถอดถอน ‘บิ๊กตู่-ครม.’ ปมออก พ.ร.ก.เลื่อนบังคับใช้กฎหมายอุ้มหาย ไม่ชอบด้วยรธน. ‘อดุลย์’ ฉะ ‘วิษณุ’ ใช้ตรรกะวิบัติยุบสภาแล้วไม่ต้องรับผิดชอบ ลุยเอาผิดทุกช่องทาง ขณะ ‘พิภพ’ จี้สปิริต ‘บิ๊กตู่’ ลาออกรักษาการนายกฯ ก่อนทิ้งทวนอำลาการเมือง  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมด้านหลัง อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ถ.ราชดำเนิน กทม. คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 และเครือข่ายภาคประชาชน นำโดย ‘อดุลย์ เขียวบริบูรณ์’ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35ฯ ‘พิภพ ธงไชย’ ประธานที่ปรึกษาญาติวีรชนฯ ‘พ.ต.อ.วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร’ เลขาธิการสถาบันเพื่อการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม (สป.ยธ.) ‘บุญแทน ตันสุเทพวีรวงศ์’ ประธานคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) และ ‘เมธา มาสขาว’ เลขาธิการ ครป. ร่วมกันแถลงเตรียมยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.ให้ถอดถอน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ ครม.ทั้งคณะ ในวันอังคารที่ 6 มิ.ย.นี้ เวลา 09.30 น. กรณี ‘จงใจฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ’ เป็นการฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรงในการออก พ.ร.ก.เลื่อนการใช้ พ.ร.บ.ป้องกันการทรมานฯ 4 มาตราออกไปโดยไม่มีอำนาจทำได้ ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าดำเนินการไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ 

อดุลย์ กล่าวว่า การออกพ.ร.ก.เลื่อนบังคับใช้กฎหมายอุ้มหายดังกล่าว นอกจากเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ยังสร้างความเสียหายโดยตรงกับประชาชน แทนที่จะได้รับการคุ้มครอง ซึ่งรัฐบาลมีหน้าที่ต้องส่งเสริมสนับสนุน กลับขัดขวางการบังคับใช้ และ ที่ผ่านมาญาติวีรชน 35 ได้เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างผู้บัญชาตำรวจแห่งชาติที่ต้องแสดงความรับผิดชอบ 

อดุลย์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า รัฐบาลไม่ต้องรับผิดชอบ เพราะได้ยุบสภาฯ แล้วว่า ต้องยอมรับว่าวิษณุเป็นนักกฎหมายที่เก่งกาจ แต่ตนไม่เชื่อว่า จะมีนักกฎหมายที่เก่งกาจจริง แต่ไร้ซึ่งจริยธรรม และคำอธิบายที่ออกมา ทำให้เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ที่แย่มาก ถือเป็นตรรกกะวิบัติ นี่คือการเหลิงแก่อำนาจ ยืนยันว่า เราจะเดินหน้าฟ้องร้องในทุกช่องทางที่ทำได้ต่อไป 

ด้านพิภพ กล่าวว่า การที่ศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่า กรณีรัฐบาลออก พ.ร.ก.เลื่อนบังคับใช้กฎหมายอุ้มหายดำเนินการไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ หากอยู่ภาวะการเมืองปกติ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องลาออกหรือถูกให้ออก แต่ประเทศไทย อาจมีความไม่ปกติเป็นปกติอยู่เป็นประจำ และย้ำว่าสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ ไปเบรกการบังคับใช้กฎหมาย โดยใช้ข้ออ้างที่ไม่มีเหตุผลว่าตำรวจไม่พร้อม ทั้งที่ถ้าเป็นรัฐบาลที่มีประสิทธิภาพ เมื่อกฎหมายเข้าสภาก็ต้องสั่งการตำรวจให้เตรียมพร้อมแล้ว พร้อมชี้ให้เห็นอีกว่า เรื่องคนหายเป็นเรื่องใหญ่สำหรับประเทศไทยและของโลกด้วย

“วันนี้ไหนๆ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ลาการเมืองแล้ว ไม่มีโอกาสกลับมาอีก เพราะคะแนนเสียงน้อย เป็นการบอกว่า หมดเวลาแล้วสำหรับทหาร ถ้าจะแสดงความเป็นประชาธิปไตย ก็ควรลาออกจากรักษาการนายกฯ เพราะศาลรัฐธรรมนูญมีคำตัดสินแล้วว่าการชะลอบังคับใช้ดังกล่าว ได้ทำผิด และตลอดวันที่เลื่อนนั้น ไม่รู้ว่า มีกรณีการอุ้มหายกี่ราย ดังนั้น ความเร่งรีบในการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพ จึงหมายถึง ความเป็นความตายของประชาชน” พิภพ กล่าว 

ขณะที่ พ.ต.อ.วิรุตม์ ระบุว่า เรื่องนี้ไม่ใช่การเคลื่อนไหวเฉพาะญาติวีรชน35 แต่ประชาชนทุกคนต้องร่วมกัน พิทักษ์ความศักดิ์สิทธิ์ของรัฐธรรมนูญ และให้ตระหนักว่า ได้มีนักการเมืองจงใจใช้อำนาจฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ   

“ประเด็นอยู่ที่ว่า เจตนาฝ่าฝืน หรือโง่ ไม่รู้เรื่อง แต่ยังไงก็เลวพอๆกัน ไม่ควรเป็นรัฐบาล แต่ถ้าดูจากพฤติการณ์เห็นว่ามีเจตนาฝ่าฝืน และเป็นประเด็นที่ ป.ป.ช. ต้องไต่สวน และไม่ต้องใช้เวลานาน เพราะศาลรัฐธรรมนูญได้ชี้ออกมาแล้ว เพื่อนำไปสู่กระบวนการฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง และนำไปสู่การหยุดปฏิบัติหน้าที่” พ.ต.อ.วิรุตม์ กล่าว 

ส่วนเมธา ได้เรียกร้องให้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ แสดงความรับผิดชอบต่อเรื่องดังกล่าวด้วยการลาออก หรืออย่างน้อยออกมาขอโทษประชาชน โดยระบุว่า ผู้ที่รับผิดชอบสูงสุด คือ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรี, วิษณุ ผู้ที่ผลักดันอนุมัติ และ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่นำเสนอต่อรัฐบาล นี่เป็นความผิดสำเร็จแล้ว จากนี้จะติดตามการพิจารณาของ ป.ป.ช. และหากเพิกเฉยก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป