นันทนา นันวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา (สว.) แกนนำกลุ่มพันธุ์ใหม่ ให้สัมภาษณ์ถึงการยื่นร่างข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา (ฉบับที่...) โดยทางกลุ่มได้เสนอจำนวน 2 ฉบับ คือ ฉบับแรก เสนอโดยนายประพาส ปิ่นตบแต่ง สว. และคณะ ว่าด้วยการเสนอแก้ไขเกี่ยวกับคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญประจำวุฒิสภา และฉบับที่ 2 เสนอโดยนายเทวฤทธิ์ มณีฉาย และคณะ เพื่อแก้ไขให้เปิดเผยบันทึกการลงมติการออกเสียงของสมาชิกผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์หรือสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศให้ประชาชนรับทราบทั่วไป เพื่อให้เกิดความโปร่งใส
สว.นันทนา กล่าวต่อว่า ร่างแก้ไขข้อบังคับดังกล่าวได้ยื่นต่อประธานวุฒิสภาแล้ว และทราบว่าบรรจุไว้ในระเบียบวาระ ที่คาดว่าจะมีการประชุมวุฒิสภาเพื่อพิจารณาในวันที่ 5 สิงหาคม นี้ ส่วนกรณีที่มีข้อเสนอจากนายสรชาติ วิชย สุวรรณพรหม สว.ให้วุฒิสภาพิจารณาแก้ไขข้อบังคับโดยกรรมาธิการเต็มสภาและผ่าน 3 วาระรวดนั้น ตนเห็นด้วยต่อการพิจารณาแก้ไขข้อบังคับที่ไม่ยืดเยื้อและไม่ใช้เวลามาก แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจะมีแนวทางพิจารณาเป็นอย่างไรและรอบคอบหรือไม่ ดังนั้นต้องขอเวลาพิจารณาอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับร่างข้อบังคับการประชุมวุฒิสภาฉบับของ สว.พันธุ์ใหม่ เสนอให้มี กมธ.จำนวน 26 คณะ ซึ่งเท่ากับจำนวนคณะ กมธ.ของ สว.ชุดที่ผ่านมา ทั้งนี้พบว่ามี กมธ.ที่คงชื่อเดิมไว้ทั้งหมด 13 คณะ และมีที่ปรับใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับความรู้ความเชี่ยวชาญของ สว.กลุ่มอาชีพ เช่น กมธ.การเกษตร ปศุสัตว์ ประมง กมธ.ประชาสังคม ผู้สูงอายุ คนพิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และคนไร้รัฐและผู้มีปัญหาสถานะบุคคล กมธ.แรงงานและผู้ประกอบอาชีพอิสระ เป็นต้น
นอกจากนี้พบว่ามีการเปลี่ยนชื่อของ กมธ.บางคณะเพื่อให้ครอบคลุมกับปัญหา เช่น กมธ.การพาณิชย์ การอุตสาหกรรม และวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม กมธ.กระจายอำนาจ การปกครองท้องถิ่น การป้องกันและบรรเทาภัยพิบัติและสาธารณภัย เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ยังพบว่ามีการบัญญัติให้มี กมธ.วิสามัญศึกษาการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ โดยมีหน้าที่และอำนาจศึกษาวิเคราะห์บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ผลการบังคับใช้ ประเด็นและแนวทางแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้กำหนดให้มีการรับฟังความเห็นของประชาชนด้วย ซึ่งกำหนดให้มี กมธ.ไม่เกิน 25 คน และให้มีบุคคลภายนอกร่วมเป็นกมธ.ในสัดส่วนครึ่งหนึ่ง
ทั้งนี้พบว่ามีบทบัญญัติที่กำหนดสเปคประธาน กมธ. ไว้ใน ข้อ 78 วรรคสอง ด้วยว่า ให้ประธาน กมธ.แต่ละคณะจำเป็นต้องสอดคล้องกับกลุ่มอาชีพที่มาของ สว.เป็นอันดับแรก หรือเป็นผู้มีประสบการณ์ตรงเชิงประจักษ์และเป็นที่ยอมรับของสังคมสาธารณะ โดยให้ กมธ.แต่ละคณะเลือกประธาน กมธ.กันเอง และ สว.จะเป็น กมธ.เกิน 2 คณะไม่ได้