สุรชาติ บำรุงสุข นักวิชาการด้านความมั่นคง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการเจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์ (30 เม.ย.2567) ต่อการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (รมว.ต่างประเทศ) ภายหลังการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ของรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สุรชาติ กล่าวว่า ในมิติของตำแหน่งที่มองว่า รมว. ต่างประเทศต้องควบกับรองนายกรัฐมนตรี นั้น มองว่าการเจรจาระหว่างประเทศของกระทรวงการต่างประเทศ ไม่ผูกติดกับตำแหน่งรองนายกฯ อีกทั้งตำแหน่งรองนายกฯ ที่ผูกกับ รมว.ต่างประเทศ ไม่ใช่ข้อได้เปรียบการเจรจา โดยตำแหน่งรองนายกฯ ในความรับผิดชอบต้องคุมบอร์ดต่างๆ ดังนั้นการควบตำแหน่งอาจไม่เหมาะ เพราะ รมว.ต่างประเทศเรื่องใหญ่ต้องเดินทางบ่อย
สุรชาติ กล่าวต่อว่า “ตำแหน่งรองนายกฯ ควบกับ รมว.ต่างประเทศ นั้น ที่ผ่านมาเกิดขึ้นในรัฐบาลรัฐประหาร เพราะเขาส่งทหารเข้ามาคุมราชการ ดังนั้นหากยึดว่าต้องควบนั้นอาจทำให้กลายเป็นตำแหน่งพิเศษทางการเมืองไทยได้ นอกจากนั้นทุกยุค รมว.ต่างประเทศไม่มี สส.หรือ มุ้งของตนเอง และมาโดยอำนาจของนายกฯ”
สำหรับสเปคของบุคคลที่จะดำรงตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ ตามงานวิจัยปริญญาเอกที่ศึกษามา มี 12 ข้อ ประกอบด้วย
1.มีความรู้และเข้าใจการเมืองระหว่างประเทศ เพื่อไม่แสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม
2.ต้องนำนโยายของรัฐไปปฏิบัติได้จริง
3.ต้องขับเคลื่อนนโยบายได้ รวมถึงผลักดันนโยบายรักษาผลประโยชน์ของรัฐไทยในเวทีสากล
4.ดำเนินการลดทอนปัญหา ผลประทบเชิงลบต่อรัฐในเวทีสากล
5.ต้องควบคุมระบบราชการภายในกระทรวงให้ได้ การเป็น รมว.ต้องไม่ถูกหลอก
6.ประสานกับนายกฯ และทำงานเป็นทีมกับนายกฯได้
7.นายกฯ ต้องฟังและเชื่อใจ รมว.ต่างประเทศที่ดำเนินนโยบาย เพราะเป็นงานนอกบ้าน
8.ต้องเข้าใจระบบราชการ กฎระเบียบ และสิ่งที่เป็นปัญหาอุปสรรคต่อการดำเนินนโยบาย
9.มีทีมในการทำงาน เพราะงานต่างประเทศทำส่วนเดียวหรือคนเดียวไม่ได้
10.ต้องสร้างความมั่นใจให้กับรัฐบาลในการผลักดันนโยบายของประเทศในเวทีโลก
11.ต้องกล้าคิดตัดสินใจดำเนินนโยบาย และผลักดันนโยบาย
12.สร้างความศรัทธาในหน่วยงานในฐานะเจ้ากระทรวง ไม่ใช่ต้องให้บุคลากรรัก 100% แต่ต้องสร้างศรัทธา พากระทรวงไปสู่อนาคต
สุรชาติ กล่าวด้วยว่า นโยบายต่างประเทศแยกไม่ออกจากนโยบายความมั่นคง เพราะมีความทับซ้อนในหลายเรื่อง เช่น วันนี้ปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างเรากับเมียนมา หรือท่าทีของไทยต่อสงครามที่เมียนมา ตกลงเป็นนโยบายต่างประเทศหรือนโยบายความมั่นคง
“ผมคิดว่าลึกๆ ถือว่าเป็นนโยบายความมั่นคงระหว่างประเทศ ทั้งนี้ขณะนี้มีโจทย์ใหญ่อีกชุด คือ สงครามเย็น หรือ การแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์ รมว.ต่างประเทศต้องเล่นให้เป็น โดยช่วง 10 ปีหลังรัฐประหาร ถึง ปี 66 บทบาทของกระทรวงลดหายไปจากจอเรดาร์โลก ดังนั้น รมว.ใหม่ต้องผลักดันมากขึ้นเพราะสถานการณ์เวทีโลกเข้มข้น และส่วนหนึ่งเราไม่เกี่ยวแต่เกี่ยวด้วยเงื่อนไขในสถานการณ์โลก เช่น ฉนวนกาซาที่คนไทยส่วนหนึ่งยังไม่ได้กลับ ปัญหาในทะเลแดง เป็นต้น” สุรชาติ กล่าว