ปรับ ครม.หลังสงกรานต์แค่เขย่าเก้าอี้ใหม่ ‘ปชป.-ทสท.’ เป็นแม่สายบัวแต่งตัวรอเก้อ

12 เมษายน 2567 - 05:13

Adjust-the-Cabinet-after-Songkran-by-simply-shaking-up-the-chairs-SPACEBAR-Hero.jpg
  • ปรับ ครม.หลังสงกรานต์แค่เขย่าใหม่ 3 พรรคหลัก

  • ดึง ‘พิชัย ชุณหวชิร’ นั่งขุนคลังตัวจริง ‘นายกฯเศรษฐา’ ควบคุมกลาโหม ‘บิ๊กทิน’ ต้องลุกจากเก้าอี้

  • ส่วน ‘ปชป.-ทสท.’ เป็นแม่สายบัว แต่งตัวรอเก้อ

กระแสข่าวการปรับ ครม.เศรษฐา กลับมาร้อนแรงขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะสาดน้ำสงกรานต์ดับร้อน ที่แม้แต่นักการเมืองผู้หยั่งรู้เรื่องดิน ฟ้า อากาศ ทางการเมืองอย่าง ‘สมศักดิ์ เทพสุทิน’ ยังออกมายอมรับว่า 

“วันนี้ดูแล้วกระแสข่าวการปรับ ครม.รุนแรงขึ้น ดังนั้น จะต้องจับตาดูอะไรเป็นอะไร และใครจะไปอยู่ที่ตรงไหนอย่างไร”

แม้สมศักดิ์ จะบอกส่วนตัวยังไม่ทราบเรื่องปรับ ครม.ที่จะมีขึ้น แต่ก็ย้อนอดีตสมัยที่ยังเป็นพรรคไทยรักไทยให้ฟังว่า จะมีการปรับบ่อย เพื่อแก้ปัญหาในขณะนั้น

“อาจจะเป็นไปตามที่มีข่าวออกมา รวมถึงอีกกระแสหนึ่ง มีการโหมมาในลักษณะนี้จะมีข้อเท็จจริงหรือไม่ก็ต้องติดตามดู” ผู้หยั่งรู้การเมืองชี้ชวนให้ติดตามดูกันเอาเอง

ก่อนหน้านี้ช่วงเดินสายลงพื้นที่ภาคใต้ 2 คืน 3 วัน นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ได้ตอบคำถามเรื่องกระแสการปรับครม.หลังสงกรานต์ไว้สั้นๆ ว่า “เหรอครับ” เป็นการตอบแบบตัดบท ที่ทำให้ชวนคิดตาม เพราะต่างไปจากทุกครั้งที่มักจะไม่ค่อยประหยัดถ้อยคำในเรื่องนี้สักเท่าไหร่

จากการตรวจสอบหลายๆ ทาง พบว่ากระแสข่าวการปรับ ครม.หลังสงกรานต์ มีเค้ามากกว่าพายุฤดูร้อนจะพัดถล่มหลายพื้นที่ของประเทศไทยเสียอีก เพราะหลังนโยบายเรือธง “แจกเงินหมื่น” หลุดจากสันดอนได้ ก็จะต้องมีการปรับ ครม.เพื่อเก็บแต้ม ขับเคลื่อนงานด้านเศรษฐกิจ แก้ปัญหาปากท้องให้ประชาชนอย่างจริงจัง

โดยเฉพาะกระทรวงการคลัง ที่นายกฯ เศรษฐา นั่งควบอยู่ จะปล่อยให้ลอยไปลอยมาเหมือน 7 เดือนที่ผ่านมาอีกไม่ได้ ต้องมี ‘ขุนคลัง’ ตัวจริงเสียงจริง พร้อมกับหาคนมาเป็นแม่งานเรื่องดิจิทัลวอลเล็ตอย่างจริงจัง ไม่ใช่โยนลูกกันไปมา และบางครั้งก็ขัดขากันเสียเองอย่างที่ผ่านมา

เอาเป็นว่า การปรับ ครม.หลังสงกรานต์จะมีขึ้นค่อนข้างแน่ ระหว่างวันที่ 18-19 เมษายนนี้ แต่จะเป็นการปรับกันเองภายในเฉพาะ 3 พรรคหลัก คือ เพื่อไทย พลังประชารัฐ และรวมไทยสร้างชาติ ส่วนที่มีข่าวจะนำพรรคฝ่ายค้านมาเสริมแกร่งให้เป็นรัฐบาล 336 เสียงนั้น พักเอาไว้ก่อน

ทำให้ทั้งพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) เป็นแม่สายบัวแต่งตัวรอเก้อ โดยเฉพาะพรรคการเมืองหลังที่ถึงขั้นปรับเปลี่ยนกันภายในเงียบๆ ให้ ‘อุดมเดช รัตนเสถียร’ ขึ้นมาทำหน้าที่รักษาการหัวหน้าพรรคมาระยะหนึ่งแล้ว ก็คงต้องรอรถไฟขบวนต่อไป

การปรับ ครม.แบบเขย่ากันภายในเพื่อไทยหนนี้ เป้าใหญ่อยู่ที่กระทรวงการคลัง ที่ต้องสังคายนากันเสียใหม่ ตามข่าวจะเอา ‘พิชัย ชุณหวชิร’ ที่เป็นชื่อเดียวในโผมาตลอด มานั่งว่าการทำหน้าที่ขุนคลังอย่างเต็มตัว พร้อมกับเติม ‘เผ่าภูมิ โรจนสกุล’ ขึ้นชั้นมาเป็น รมช.คลัง คุมเรื่องเงินดิจิทัลโดยเฉพาะ 

ส่วน ‘จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์’ ยังอยู่ต่อ แต่ ‘กฤษฎา จีนะวิจารณะ’ สัดส่วนจากพรรครวมไทยสร้างชาติ จะต้องลุกออกจากเก้าอี้ไป เพราะผู้นำทางจิตวิญญาณต้องการให้เพื่อไทย คุมกระทรวงการคลังเบ็ดเสร็จเพียงพรรคเดียว

ขณะที่รัฐมนตรีที่อยู่ในข่ายต้องลุกจากเก้าอี้ไป มีตั้งแต่ ‘บิ๊กทิน’ สุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ไชยยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ เกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย พวงเพ็ชร ชุณละเอียด รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรวมทั้ง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข ก็อยู่ในข่ายด้วยเช่นกัน

สำหรับเหตุผลการปรับเปลี่ยน นอกจากเรื่องของสมบัติผลัดกันชมและเสนาบดีต่างตอบแทนแล้ว บางคนมีปัญหาเรื่องปล่อยให้มีรัฐมนโทในกระทรวง มีหลังบ้านมาจุ้น บางรายก็ทำงานไม่เป็น 7 เดือนผลงานไม่ออก ไม่มีอะไรที่เป็นโล้เป็นพายให้เห็น

นอกจากนั้น เพื่อไทยยังเล็งโยกสลับเก้าอี้กันระหว่าง ‘เสริมศักดิ์ พงษฺพานิช’ รมว.วัฒนธรรม กับ ‘สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล’ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬาด้วย ส่วนนายกฯ เศรษฐา ก็ไปนั่งควบเก้าอี้ว่าการกระทรวงกลาโหม โดยปล่อยให้ทีมงานเดิมที่มีอยู่ปัจจุบันขับเคลื่อนงานกันไป

ส่วนอีกสองพรรค พลังประชารัฐ ยังงัดข้อกันระหว่าง ‘ป.แป้ง’ กับ ‘ป.ป้อม’ โดยฝ่ายแรกต้องการดัน ‘ไผ่ ลิกค์’ ต่อ แต่ฝ่ายหลังส่งรายชื่อ ‘ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์’ เข้าประกวด ในขณะที่รวมไทยสร้างชาติ แค่เปลี่ยนตัวเอา ‘กฤษฎา จีนะวิจารณะ’ ออกและส่ง ‘เสี่ยเฮ้ง’ สุชาติ ชมกลิ่น คืนทำเนียบฯ อีกครั้ง

ทั้งหมดที่ว่ามา โดยเฉพาะในพรรคเพื่อไทย ที่ต่างก็มีสังกัดโดยเฉพาะ ‘เจ๊เล็ก-เจ๊ใหญ่’ จึงมีการต่อสายวิ่งกันฝุ่นตลบเพื่อรักษาพื้นที่ของตัวเอง สุดท้ายต้องรอวัดใจผู้นำจิตวิญญาณที่จะเป็นคนเคาะคนสุดท้าย

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์