หลักการ ‘นิรโทษ’ ต้องไม่กระทบ ม.112

16 ธ.ค. 2566 - 06:18

  • ‘ราเมศ’ ยัน ‘ปชป.’ ยึดหลักการเดิมนิรโทษกรรม ต้องไม่กระทบ ‘ม.112 -คดีทุจริต’

  • ชัดเจน ‘ก้าวไกล’ เอื้อประโยชน์พวกพ้องสุดท้ายขัดแย้ง

amnesty-democrat-not-article-112-conflict-SPACEBAR-Hero.jpg

ราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงร่างกฎหมายนิรโทษกรรมฉบับพรรคก้าวไกลว่า ในส่วนหลักการของพรรคประชาธิปัตย์ เคยย้ำจุดยืนหลายครั้งแล้วว่า หากเจตนารมณ์ของร่างกฎหมายมีผลกระทบต่อคดีความผิดมาตรา 112 ด้วย พรรคไม่เห็นด้วย รวมถึงคดีทุจริต ที่คดีเหล่านี้หากมีการนิรโทษกรรมย่อมมีผลกระทบต่อความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายเพราะต้นเหตุที่แท้จริงเกิดขึ้นจากพฤติกรรมของคนไม่ใช่เป็นคดีทางการเมืองที่เกิดจากการชุมนุม และข้อเท็จจริงที่ชัดเจนซึ่งเป็นเจตนารมณ์ชัดของร่างกฎหมายนิรโทษกรรมฉบับดังกล่าว ซึ่งชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ผู้เป็นเจ้าของร่างกฎหมายนั้นด้วย ก็ยืนยันแล้วว่า การนิรโทษกรรมครั้งนี้จะครอบคลุมถึงผู้ที่กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ด้วย 

ราเมศ กล่าวต่อว่า ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์ยืนยันหลักการนี้ชัดเจนตลอดมาว่า ไม่เห็นด้วย หากมีการพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา จุดยืนของพรรคก็ไม่เห็นด้วยและชัดเจนว่า กระบวนการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน ก็มีประชาชนที่ไม่เห็นด้วยถึง 71% ดังนั้นเสียงสะท้อนจากประชาชนเหล่านี้ ผู้แทนปวงชนชาวไทยที่ทำหน้าที่ในสภาก็มีความจำเป็นต้องนำมาประกอบในการพิจารณา

“การนิรโทษกรรม ก็ต้องพิจารณาด้วยความรอบคอบเพราะจะเป็นจุดเริ่มต้นของความขัดแย้ง และเมื่อผู้ที่ยกร่างกฎหมายนิรโทษกรรมยอมรับว่าให้ รวมถึงผู้ที่มีคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ด้วย ก็ชัดเจนว่า เขาเห็นถึงประโยชน์ที่พรรคและพวกของเขาจะได้รับอยู่แล้ว สุดท้ายประเด็นเหล่านี้ก็จะกลายเป็นประเด็นความขัดแย้งอย่างไม่มีที่สิ้นสุด” ราเมศ กล่าว

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์