เรียกได้ว่าสร้างความปั่นป่วนใน ‘กระดานการเมือง’ ไปตามๆ กัน ภายหลัง ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุถึงการ ‘ปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.)’ ซึ่งพาดพิงไปถึงเก้าอี้ ‘กระทรวงมหาดไทย’ ที่อยู่ในความดูแลของพรรคภูมิใจไทย และ ‘กระทรวงเกษตรและสหกรณ์’ ที่อยู่ในความดูแลของพรรคกล้าธรรม
นับแต่นั้นประเด็นร้อน ‘ปรับ ครม.’ ก็ถูกพูดถึงและวิพากษ์วิจารณ์กันไม่เว้นแต่ละวัน ซึ่งหลายคนได้วิเคราะห์ไว้อย่างน่าสนใจ หนึ่งในนั้นคือ รศ.ดร.สุขุม นวลสกุล อดีตอธิการบดี มหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้ให้ความเห็นถึงกระแสการ ‘ปรับ ครม.’ เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ ว่า “เป็นสิ่งที่มีโอกาสเกิดขึ้น, เพราะ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พูดไปแล้ว มีการเอ่ยชื่อทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงมหาดไทย ซึ่งอยู่ในการกำกับของพรรคร่วมรัฐบาล ถ้าไม่ทำจะถือว่าหงอ”
การปรับ, โดยเฉพาะการพยายามจะเอากระทรวงมหาดไทย เพราะ ทักษิณ เชื่อว่าจะใช้เป็นกลไกในการเลือกตั้งได้ และอีกอย่าง คือ ‘กฎหมายการพนัน’ ก็อยู่ในมือของกระทรวงมหาดไทย ถ้า ‘เพื่อไทย’ ได้เข้าไปดูแล เรื่องของ ‘กาสิโน’ น่าจะไปต่อได้สะดวกขึ้น ซึ่งพรรคร่วมฯ ก็อาจจะยอมให้ปรับ
— รศ.ดร.สุขุม นวลสกุล
รศ.ดร.สุขุม กล่าวต่อไปว่า “แต่อย่าลืมว่าเรื่องกาสิโนต้องเข้าสภาฯ และยังมีอีกหลายขั้นตอน จุดนั้นพรรคร่วมฯ จะได้โอกาสเอาคืน เพราะอย่าลืมว่า มีแต่พรรคเพื่อไทยที่สนับสนุนกาสิโน ในขณะที่พรรคร่วมฯ ยังสงวนท่าที และมีบางพรรคอย่างประชาชาติปฏิเสธไปแล้ว ขณะที่เลขาธิการพรรคภูมิใจไทยก็บอกว่า ส่วนตัวเขา, เขาไม่เอา”
“เมื่อเรื่องเข้าสภาฯ ในวันที่พรรคร่วมไม่พอใจพรรคเพื่อไทย นี่คือโอกาสโหวตคว่ำ แถมยังได้คะแนนจากมวลชนด้วย เพราะคนไทยจำนวนมากไม่เอากาสิโน มีข้อสงสัยมาตลอดว่า ทำไมต้องผลักดันนโยบายที่สุ่มเสี่ยงขนาดนี้”
รศ.ดร.สุขุม กล่าวว่า “ล่าสุดมีข่าวปรับใหญ่ ผมมองว่าเป็นการเด้งรับโดยพรรคร่วมฯ อย่างรวมไทยสร้างชาติและกล้าธรรม เพราะ สุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ หวังคัมแบ็กมานั่งรัฐมนตรี ส่วนพรรคกล้าธรรม อยากดัน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า มานั่งเป็นรัฐมนตรีตัวจริง ซึ่งความต้องการเหล่านี้ พรรคเพื่อไทยจะทำให้ได้ไหม ตรงนี้ยังเป็นคำถาม เพราะ ทักษิณไม่มีแผนดัน ร.อ.ธรรมนัส แต่กลับคิดจะดึงมาดูแลเองมากกว่า”
พร้อมมองว่า “การปรับ ครม. มีสถานการณ์ที่ซับซ้อนมากๆ และถ้าปรับได้จริงในแบบที่คุณทักษิณอยากให้เป็น เท่ากับรัฐบาลไปต่อลำบาก”
สรุปคือ ถ้าปรับ ครม. ในสถานการณ์แบบนี้ หรือเป็นการปรับแบบเอาตัวเองเป็นใหญ่ ถือว่ารัฐบาลมีความขัดแย้งกันแล้ว ถึงจะปรับได้ แต่ก็สร้างความไม่แน่นอนให้กับรัฐบาล เมื่อเพื่อไทยดันเรื่องกาสิโนเข้ามา โอกาสถูกตีตกมีสูงมาก และรัฐบาลที่อยู่กันอย่างระหองระแหง ปลายทางคือยุบสภา แล้วเพื่อไทยพร้อมยุบไหม ผมว่า คะแนนนิยมของพรรคเพื่อไทยไม่ดีเลย ที่หวังจะแก้ปากท้อง ก็ยังมองไม่เห็นตรงนั้น
— รศ.ดร.สุขุม นวลสกุล
วิเคราะห์ฉากทัศน์ปมยึด ‘มหาดไทย’ รัฐบาลส่ออยู่ไม่ถึงปี 70?
อีกหนึ่งคนที่วิเคราะห์ถึงกระแสข่าวการ ‘ปรับ ครม.’ ไว้ได้น่าสนใจคือ ผศ.ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ซึ่งเผยผ่านโซเชียลมีเดีย ว่า
ทำงานไม่เป็นแต่อยากได้มหาดไทย
งานนี้คุณทักษิณ และพรรคเพื่อไทย เอาจริงแน่ๆ เพราะคิดว่าถ้าไม่รีบริบยึดเก้าอี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยตอนนี้แล้วจะทำตอนไหน มาประเมินและวิเคราะห์ความเป็นไปได้กัน
1.ข้ออ้างว่า ทุกวันนี้กระทรวงมหาดไทยทำงานไม่เต็มที่ ต้องให้โอกาสพรรคเพื่อไทยบ้าง ผมมองว่า เป็นข้ออ้าง เพราะคุณทักษิณและเพื่อไทย มองเห็นความน่าสะพึงกลัวการเติบโตและเครือข่ายของพรรคภูมิใจไทยต่างหาก ในทางการเมือง ถ้าพรรคภูมิใจไทยห่วยจริง เพื่อไทยต้องยิ้มมุมปากปล่อยให้ทำงาน เพราะเห็นแล้วไม่มีผลงาน ยิ่งไม่ต้องเรียกคืนเลย
2.ข้อเสนอให้แลกกับกระทรวงสาธารณสุข, กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี), กระทรวงพาณิชย์, กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากับกระทรวงมหาดไทยของภูมิใจไทยนั้น เป็นการแก้ปัญหาที่ลงตัวของพรรคเพื่อไทย ด้วยเหตุผลดังนี้
2.1 แลกสาธารณสุขสมศักดิ์ เทพสุทิน ก็ข้ามไปนั่ง มท.1 สมใจเหมือนตอนที่หาเสียงกับคนสุโขทัยตอนปีเลือกตั้ง 66 ไว้
2.2 ถ้าแลกดีอี ของคุณประเสริฐ จันทรรวงทอง คุณประเสริฐน่าจะเป็นตัวเต็งนั่งมหาดไทย เอ่อ ไม่ทราบว่าส่งสติกเกอร์สวัสดีวันจันทร์แล้วทำอะไรเป็นอีกบ้าง นอกจากอยากคุมกระทรวงเกรดเอ ตรงนี้ผมบ่นเฉยๆ นะครับ ไม่ได้ว่าคุณประเสริฐ
2.3 พาณิชย์ และท่องเที่ยว เพื่อไทยเล็งจะปรับออกอยู่แล้ว คุณเอาไปเลย
3.ทฤษฎีสมคบคิดของอดีตเลขาธิการพรรคใหญ่ กับพรรคผู้กอง เพื่อปล่อยข่าวว่าเพื่อไทยจะเอากระทรวงเกษตรด้วย เพื่อเป็นข้ออ้างในการลวง ทั้งๆที่ความเป็นจริง เพื่อไทยจำเป็นต้องพึ่งบริการการขึ้นเกมดูดของพรรคผู้กอง มิกล้าทำอะไรบุ่มบ่ามอย่างนั้นแน่ คือเป้าจริงกะเล่นงานภูมิใจไทยอย่างเดียว
4.คุณทักษิณและเพื่อไทย มองแล้วว่าภูมิใจไทยไม่กล้าจับมือกับพรรคประชาชน เพราะท้ายที่สุดแกนนำพรรคประชาชนจะโดนสอยในคดี ปปช. เดี๋ยวก็พรรคแตกไล่ดูดตามหลังไปอยู่พรรคผู้กองก็ได้ เชื่อว่าภูมิใจไทยกลัวเป็นฝ่ายค้าน
ผศ.ดร.วันวิชิต ยังวิเคราะห์ถึง ‘ความสุ่มเสี่ยง’ ต่อประเด็นยึดคืน ‘กระทรวงมหาดไทย’ ไว้อีกว่า
1.การบีบพรรคคภูมิใจไทยที่เป็นตัวแทนพรรคอนุรักษ์นิยมที่เข้มแข็งที่สุดตอนนี้ เท่ากับเพื่อไทยโดดเดี่ยวตัวเอง
2.พรรคภูมิใจไทยไม่ได้มีแค่ 69 เสียงในพรรคร่วมรัฐบาล
3.วุฒิสภาเร่งเกมเอาคืนเพื่อไทยและคุณทักษิณทุกมิติ
4.สถานการณ์นอกสภา ทั้งปัญหาชายแดนทั่วทุกภูมิภาค ร้อนกดดันรัฐบาล ไหนว่าคุณทักษิณมีความสัมพันธ์อันดีกับเพื่อนบ้านไง ทำไมสถานการณ์ไม่ดีขึ้น ตรงนี้ถึงคราวน็อกได้เลย ถ้าแสดงจุดยืนเรื่องผลประโยชน์ของชาติไม่เป็น
5.ฝ่ายอนุรักษ์นิยมสิ้นสุดความอดทน รอเช็กบิลแบบสุดซอย, แพทยสภา, องค์กรอิสระ ฯลฯ
6.ถ้าคุมหาดไทย การปรับโยกย้ายข้าราชการอย่างไม่เป็นธรรมนำไปสู่การร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน โดยเฉพาะปลัดกระทรวงที่มีอายุราชการถึงปี 74
7.ต่อไปเพื่อไทยจะเหลือพันธมิตรแค่กล้าธรรม, ประชาชาติ เพราะเห็นใครมีผลงานก็จะยึดคืนไม่เป็นไปตามข้อตกลงชั้นแรกในการร่วมรัฐบาล
ผศ.ดร.วันวิชิต ทิ้งท้ายด้วยว่า “รัฐบาลไม่น่าไปถึงปี 70”