‘ทักษิณ’ กลับ ‘เชียงใหม่’ นัยการเมืองในบทบาท ‘นักสู้พันธุ์ข้าวนึ่ง’

11 มีนาคม 2567 - 09:59

Analysis-of-Thaksin'-return-to-Chiang-Mai-SPACEBAR-Hero.jpg
  • อ่านปรากฏการณ์ 'ทักษิณ' กลับเชียงใหม่ทำเช็งเม้ง และบทบาทการเป็น 'ขุน' ของกระดานหมาก 'เพื่อไทย' ในฐานะ 'นักสู้พันธุ์ข้าวนึ่ง'

ประเด็นการเยือน ‘เชียงใหม่’ ของ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ ในวันที่ 14 - 16 มีนาคมนี้ กลายเป็นวาระประจำสัปดาห์ ที่ใครต่อใครต่างเฝ้าติดตาม พร้อมเชื่อว่า หาได้เป็นการหวนคืนถิ่นกำเนิด เพื่อคำนับบรรพชน (แบบปกติ) แต่เป็นการส่งสัญญาณบางอย่าง ในแบบฉบับ ‘นักสู้พันธุ์ข้าวนึ่ง’

‘สู้แรก’ คือสู้กับ ‘โรคภัยไข้เจ็บ’ เพราะตั้งแต่ ‘ทักษิณ’ ถูกนำตัวเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลตำรวจ และแพทย์วินิจฉัยว่า ป่วยหนักด้านระบบทางเดินหายใจ อันมีผลพวงมาจากเชื้อโควิด -19 ก็ถูกสังคมตั้งคำถามต่อเนื่อง กรณีการได้มาซึ่ง ‘อภิสิทธิ์’ เหนือนักโทษอื่นๆ  

หากทักษิณ ป่วยจริงตามอาการที่หมอแสดงความกังวล การเดินทางไปเชียงใหม่รอบนี้ เขาต้องสู้กับปัญหาสุขภาพ จากมลภาวะต่างๆ ที่อยู่ในระดับวิกฤติ ตามข้อมูลของหน่วยงานสำรวจสภาพอากาศหลายๆ แห่ง ที่ยืนยันว่า ‘รุนแรง’ ไม่ว่าจะเป็นฝุ่น pm 2.5 หรือปัญหาควันไฟจากป่าช่วงหน้าร้อน  

‘สู้ที่สอง’ คือการต่อสู้กับกระแสวิพากษ์วิจารณ์สต่อเนื่อง จากกรณีได้รับพิจารณาให้ ‘พักโทษ’ กลับ ‘บ้านจันทร์ส่องหล้า’ ในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์

ถึงแม้การเดินทางกลับภูมิลำเนาในจังหวัดเชียงใหม่จะ ‘ไม่เข้าเกณฑ์ห้าม’ ของกรมคุมประพฤติ แต่ไม่ได้ใครคาดเดาได้ ว่าจะไม่เป็นการเอิกเกริก เข้าทำนอง 'โรดโชว์' มิเช่นนั้นคงหลีกเลี่ยงสายธารความเห็นของประชาชนและนักการเมืองได้ยาก 

แม้นผู้นำรัฐบาล ในฐานะ ‘คนเพื่อไทย’ อย่าง รองนายกฯ อ้วน ‘ภูมิธรรม เวชยชัย’ จะดักคอสื่อว่า การเดินทางกลับบ้านเกิดของ ‘นายใหญ่’ หาใช่เรื่องการเมือง แต่เป็นเรื่องปกติของผู้ที่จาก ‘บ้าน’ กว่า 17 ปี จะจัดงานเช็งเม้งใหญ่ที่บ้านเกิดก็ตาม 

แต่เมื่อนักการเมืองพูดว่า ‘ไม่ใช่เรื่องการเมือง’ ล้วนเป็นเรื่องการเมือง จนเกิดการวิเคราะห์ต่อว่า ปรากฏการณ์ ‘กลับเชียงใหม่’ ของทักษิณ จะส่งผลอะไรกับทางการเมืองบ้าง ? 

การเดิน ‘ขุน’ ผ่านนครพิงค์

หากมองการเมืองเป็นเกมกระดาน ‘หมากรุก’ ที่ผ่านมา ‘พรรคเพื่อไทย’ เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลมาแล้วเกือบ 6 เดือน ไม่ว่าจะเดิน ม้า เรือ โคน หรือเบี้ย ก็ดู ‘ไม่เข้าเป้า’ เป็นข้อครหาว่า ‘ไม่มีผลงานโบว์แดง’ เป็นชิ้นเป็นอันสักทีเดียว  

โดยเฉพาะนโยบายเรือธง อย่าง ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ ก็ยังลูกผีลูกคนอยู่รอมร่อ ขณะเดียวกัน ในส่วนขั้นตอนกระบวนการยุติธรรมของ ‘ทักษิณ’ กลับเดินหน้า เป็นไปอย่างสะดวกโยธิน 

จึงมีการคาดการณ์ไปว่า ความเคลื่อนไหวของ ‘บิ๊กบอส’ และเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวสู่นครเวียงพิงค์ คือการเดินเกมครั้งสำคัญของเพื่อไทย เป็นจังหวะการขยับ ‘ขุน’ ซึ่งมีบทบาทสำคัญที่สุดของกระดานหมากเกมนี้เพราะ ‘จังหวัดเชียงใหม่’ ถือเป็นเมืองแห่งสัญลักษณ์ของ ‘คนเสื้อแดง’ มาโดยตลอด  

ในแง่แรงศรัทธาถือเป็นถิ่นกำเนิดของ สองพี่น้องอดีตนายกรัฐมนตรี ‘ทักษิณ - ยิ่งลักษณ์’ อีกทั้งเป็น ‘เมืองหลวงพรรคตระกูลชินวัตร’ ที่ไม่ว่าจะเลือกตั้งครั้งไหน ย่อมชนะแบบถล่มทลาย ‘แดงทั้งจังหวัด’ จึงไม่แปลกใจ หากการเดินทางกลับเมืองเกิดของ ‘ลูกข้าวนึ่ง’ (คนนี้) จะเป็นกลายที่จับตา 

หากจำแนกแยกเป็น ข้อๆ คงเห็นได้เห็นภาพในมิติซ้อนทับ อยู่ 3 ประการ 

  1. พรรคเพื่อไทยกำลังเข้าสู่ห้วงตอบคำถามหนักหน่วงจากสังคม ดังนั้นการปรากฎตัวที่เชียงใหม่ของ ‘ทักษิณ’ อาจสร้างแรงตกกระทบถึงทำเนียบรัฐบาล และอาคารรัฐสภา ทั้งในด้านคุณและโทษ เพราะเข้าใกล้สู่ ‘แมตซ์สุดท้าย’ ของการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 153 โดยสมาชิกวุฒิสภา  
  2. ปูทางการเลือกตั้ง ‘อบจ.’ ที่คาดการณ์ไว้ว่า จะถูกจัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า ท่ามกลางอุณหภูมิการเมืองที่แปรเปลี่ยนไป ซึ่งยากทำนาย ‘ว่าเพื่อไทยจะกลับมาได้ง่าย’ 
  3. ในทางการเมือง การที่ ‘บิ๊กบอสตัวจริง’ ของพรรคเพื่อไทย เลือกเดินทางมาที่จังหวัดเชียงใหม่ เป็นเพราะต้องการ ‘ฟื้นศรัทธา’ ของพี่น้องประชาชน หลังต้องสูญเสียที่มั่นล้านนา ในศึกเลือกตั้งใหญ่ ปี 2566 ให้กับ ‘พรรคก้าวไกล’ ไป 5 เขต และ ‘พลังประชารัฐ’ อีก 1 เขต มีครอบครองอยู่ในมือเพียง 2 เขต เท่านั้น ในศึกเลือกตั้งใหญ่ ปี 2566 

เหตุผลเหล่านี้  ทำให้คอการเมือง ไม่เชื่อตามที่คำบอกของ ‘ภูมิธรรม’ ที่ยืนยันว่า เป็นการไหว้เช็งเม้ง ในรอบ 17 ปี อย่างปราศจากเรื่องการเมือง  

ยิ่งเปิดกำหนดการของ ‘นายกรัฐมนตรี’ ดูแล้ว ก็ช่างประจวบเหมาะอย่างยิ่ง สำหรับ ‘การพบเจอ’ เพราะ ‘เศรษฐา ทวีสิน’ เอง ก็มีแพลนเดินทางไปตรวจราชการและติดตามปัญหาฝุ่น pm 2.5 ที่จังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 15 - 17 นี้ด้วย เป็นนัยทางการเมืองที่สื่อออกมาได้อย่างเด่นชัด ซึ่งไม่ว่า จะ ‘เจอ’ หรือ ‘ไม่เจอ’ กัน ก็ล้วนถูกพูดถึงในทุกแง่มุม 

โดยเฉพาะวันศุกร์ที่ 15 มีนาคม ซึ่งเป็นวันคาบเกี่ยวที่ ‘นายกฯ’ และ 'อดีตนายกฯ‘ จะเข้า ‘เหยียบนคร’ ในวันเดียวกัน 

ดังนั้น สิ่งที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิดคือ ปรากฏการณ์ทั้งจากคนการเมือง และภาคประชน ที่จะมาให้การต้อนรับทักษิณ นับตั้งแต่เครื่องแตะพื้นที่สนามบิน จนถึงวันโบกมืออำลาเมืองเหนือ กลับสู่ที่มั่นปัจจุบัน 

เกมกระดานหมาก ‘การเดินขุน’ อาจเปลี่ยนสถานการณ์จากหน้าไปหลังมือได้ อยู่ที่จะเดินเพื่อ ‘เก็บเบี้ย’ หรือ ‘เก็บขุนพล’ แต่ที่แน่ๆ ‘นักสู้พันธุ์ข้าวนึ่ง’ คงต้องทำงานหนัก เพราะกลับเชียงใหม่ในวันที่ ‘เสื้อแดง’ ถูกแบ่งเฉด และการตระบัตย์สัตย์ของเพื่อไทย ในคราวจัดตั้งรัฐบาล ยังคงฝังใจผู้คนอยู่อย่างยากจะลืม…

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์