‘ทักษิณ’ ปิ๊ก ‘เชียงใหม่’ ในสายตาคนตระกูล ‘บูรณุปกรณ์’

12 มีนาคม 2567 - 08:16

Analysis-of-Thaksin'-return-to-Chiang-Mai- Buranupakorn-SPACEBAR-Hero.jpg
  • จับตาปรากฏการณ์ ‘ทักษิณ’ กลับ ‘เชียงใหม่’ ในรอบ 17 ปี และมิติของซ้อนทับเรื่องการเมืองท้องถิ่น ผ่านสายตาของ ‘ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์’ อดีต สส.เพื่อไทย เมืองล้านนา

การกลับมาเยือน ‘เชียงใหม่’ รอบ 17 ปี ของ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ ในอีกวันสองวันข้างหน้านี้ คงหนีไม่พ้นเรื่องการเมือง ทั้งในมิติซ้อนทับด้านการเรียกศรัทธาจากแฟนคลับกลับคืน หลัง ‘เพื่อไทย’ ต้องเสียพื้นที่ส่วนใหญ่ให้กับ ‘พรรคก้าวไกล’ ในศึกเลือกตั้งใหญ่รอบที่ผ่านมา อีกประการที่ทุกฝ่ายจับตาคือ จะไปเกี่ยวข้องกับการสมัครรับเลือกตั้ง ‘นายกฯ อบจ.’ จังหวัดเชียงใหม่ ที่คาดการณ์จะถูกจัดขึ้นต้นปีหน้าหรือไม่ ? 

กรณีหลังถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะ ‘ท้องถิ่น’ ถือเป็นองคาพยพ ในการได้มาซึ่ง ‘ฐานเสียง’ ในการที่จะพิชิตเป้าสนามเลือกตั้งใหญ่ ที่จะเกิดขึ้นในปี 2570 ยิ่งจังหวัดเชียงใหม่ เปรียบเหมือนเคยเป็นฐานที่มั่น ให้กับพรรคตระกูลชินวัตรมาหลายครั้งแล้ว จึงจำเป็นต้อง ‘โหมโรง’ แต่เนิ่นๆ  

สำหรับนายกฯ อบจ. เชียงใหม่ คนปัจจุบันคือ ‘พิชัย เลิศพงศ์อดิศร’ ซึ่งมีสายสนับสนุนโดยตรงจากพรรคเพื่อไทย เห็นได้ชัดจากกรณีที่ ‘ทักษิณ’ เคยออกโรงวีดีโอคอลมาขอคะแนนจากชาวเชียงใหม่ ช่วงหาเสียงเลือกตั้ง อบจ.  เมื่อปี 2563 แต่สำหรับศึกเลือกตั้งในปี 2568 ยังเดาทางเพื่อไทยไม่ออก ว่าจะส่งลงป้องกันแชมป์อีกหรือไม่ เนื่องจาก ‘สว.ก๊อง’ ถูกสั่งฟ้องในคดีความ ‘บอสกระทิงแดง’ อยู่ 

ศึกเลือก ‘นายกฯ เล็ก’ รอบหน้าจึงดุเดือดพอสมควรสำหรับเพื่อไทย ในการพิจารณาว่าจะเอาใครลงสมัคร เพื่อสู้กับบ้านใหญ่ ‘ตระกูลบูรณุปกรณ์’ ที่มีหัวเรือใหญ่อย่าง ‘บุญเลิศ บูรณุปกรณ์’ อดีตนายกฯ อบจ. เชียงใหม่ ที่เคยได้รับการสนับสนุนจากพรรคเพื่อไทย ก่อนจะถึงคราวแตกหักกัน พร้อมๆ กับความสัมพันธ์ระหว่าง ‘จตุพร พรหมพันธุ์’ และ ‘นายห้างดูไบ’ (ณ ขณะนั้น) 

ดังนั้น ในช่วงจังหวะที่พรรคเพื่อไทยกำลังอยู่ในช่วงการวางหมากอยู่ จึงชวนอ่านความเห็นของ ‘ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์’ อดีต สส. เพื่อไทยจังหวัดเชียงใหม่ ที่มีข่าวหนาหูว่า จะเป็นตัวแทนของ ‘พ่อเลี้ยงบุญเลิศ’ ในการโรมรันศึกเลือกตั้งท้องถิ่น ซึ่งยังไม่รู้ว่าการขับเคี่ยวกับพรรคใหญ่ อย่างเพื่อไทย ‘อดีต สส. กุ้ง’ จะเลือกสู้ในฐานะของ ‘กลุ่มเชียงใหม่คุณธรรม’ หรือจะเป็นไปตามข่าวลือ ว่าจะลงในนามพรรคคนรุ่นใหม่อย่าง ‘พรรคก้าวไกล’

‘ทัศนีย์’ ยังยืนยันกับ SPACEBAR ว่า เรื่องการเลือกตั้งนายกฯ อบจ. ทุกอย่างยังอยู่ในกระบวนการตกตะกอนอยู่ ว่าสุดท้ายบ้านใหญ่บูรณุปกรณ์ จะเลือกส่งใครลงเข้าแข่งขัน หรือจะถูกวางตัวในฐานะกลุ่มการเมืองใด เพื่อชิงเมืองเชียงใหม่กลับคืนมา  

ส่วนความเห็นเรื่องทักษิณกลับเชียงใหม่เพื่อไหว้บรรพบุรุษ จะมีนัยถึงการเมืองท้องถิ่นหรือไม่ ทัศนีย์เชื่อว่า เป็นผลพวงมาจากการพ่ายแพ้อย่างยับเยินในศึกเลือกตั้งใหญ่รอบที่ผ่านมา โดยสาเหตุหลักมาจากความไม่มั่นใจของประชาชน ขณะที่เข้าสู่โค้งสุดท้ายการเข้าคูหา สวนทางกับพรรคก้าวไกล ที่หนักแน่นในอุดมการณ์ที่จะไม่ยอมจับมือกับ ‘พรรคสองลุง’ ทำให้ขณะนี้ที่คนแดนไกลกลับคืนสู่ประเทศ ย่อมต้อง ‘ออกโรง’ เพื่อเรียกขวัญกลับคืนมา 

เมื่อถามว่า สนามการเมืองจังหวัดเชียงใหม่ ในวันนี้ดูแตกต่างกับอดีต เพราะแต่เดิมเป็นพื้นที่ของคนเสื้อแดง แต่ปัจจุบัน ‘เสื้อแดง’ ถูกแบ่งเฉดหลากสี ไม่ว่าจะเป็นแดงเฉดส้ม หรือแดงเพื่อไทย การเดินทางกลับมาของทักษิณ จะเป็นการเรียกฟื้นศรัทธา ให้คนเชียงใหม่กลับมาให้การสนับสนุนพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่  

อดีต สส. เชียงใหม่ ให้ความเห็นว่า จังหวัดเชียงใหม่เป็นพื้นที่ของประชาชนสนใจการเมือง และร่วมต่อสู้ในขบวนการประชาธิปไตยมาโดยตลอด ซึ่งที่ผ่านมาทักษิณเปรียบเสมือนเป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่เห็นภาพชัดเจน ว่าถูกอำนาจจากรัฐประหารลิดรอนความเป็นธรรม ซึ่งคนเชียงใหม่ก็ออกมาต่อสู้ แต่ไม่ใช่เพื่อตัวบุคคล แต่เป็นอุดมการณ์ทางการเมือง 

“คิดว่าคนเสื้อแดงเชียงใหม่ไม่ได้ต่อสู้เพื่อคุณทักษิณ แต่ต่อสู้กับคณะปฏิวัติและกระบวนการที่ไม่ใช่ประชาธิปไตย คุณทักษิณเป็นเพียงผลพวงเท่านั้น เราไม่ได้ต่อสู้เพื่อใครบุคคลใดบุคคลหนึ่ง หาไม่ผลการเลือกตั้งปี 2566 พรรคเพื่อไทยคงไม่พ่ายแพ้ยับเยินแบบนี้”

ทัศนีย์ ยืนยันเรื่องอุดมการณ์ของเสื้อแดงฝ่ายประชาธิปไตยในจังหวัดเชียงใหม่ ผ่านตัวเธอเอง ว่า ในอดีตช่วงหลังการรัฐประหารปี 2549 เธอก็มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อน อยู่ในขบวนการคนเสื้อแดงมาโดยตลอด ซึ่งคาดว่ามวลชนที่ออกมาพร้อมๆ กัน อาจมีแนวคิดใกล้เคียงกัน คือมองเรื่องความบิดเบี้ยนของกระบวนการ ที่เกิดจากคณะปฏิวัติเป็นสำคัญ  

แต่ก็มีส่วนหนึ่งที่ออกมาเรียกร้อง ในฐานะของ ‘แฟนคลับทักษิณ’ อยู่บ้าง เนื่องจากทักษิณมีผลงานสร้างความเจริญให้กับประเทศ ในช่วงของรัฐบาลพรรคไทยรักไทย แต่จะมาผูกโยงกับปรากฏการณ์ ณ วันนี้ยังไม่ได้ ต้องติดตามสถานการณ์ต่อไป โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวของ ‘อดีตนายใหญ่’

ดังนั้นการเดินทางกลับเชียงใหม่ในรอบ 17 ปี ของทักษิณ อาจไม่ได้สร้างแรงกระเพื่อมให้กับ ‘เสื้อแดงสายประชาธิปไตย’ ให้กลับมาศรัทธาต่อพรรค เหมือนเฉกเช่นอดีตอีกต่อไปแล้ว

“พี่คิดว่าพี่น้องเสื้อแดงคิดได้ ใครจะไปรับคุณทักษิณก็เป็นเรื่องความชอบส่วนตัวไม่ผิดอะไร แต่ต้องไม่ลืมว่ากระบวนการยุติธรรมที่กำลังดำเนินการอยู่ต้องไม่สองมาตราฐาน ยังมีนักโทษทางการเมืองอีกเยอะที่ติดคุกอยู่ เราต้องให้ความยุติธรรมกับพวกเขาด้วย พี่รู้ว่าความรู้สึกเป็นเช่นไร เพราะเคยเผชิญมาแล้วถึงทราบ”

ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ กล่าว

เมื่อถามถึงสถานการณ์ของกลุ่มบูรณุปกรณ์ กับการเข้าแข่งขันเลือกตั้งนายกฯ อบจ. ทัศนีย์ ยืนยันอีกครั้งว่า ยังเป็นช่วงการตัดสินใจของกลุ่มอยู่ และอย่างที่ทราบกันดี ว่าการเลือกตั้งในปี 2563 ‘บุญเลิศ’ ถูกตั้งข้อครหาอย่างไม่เป็นธรรมจากพรรคเพื่อไทย เกี่ยวกับข่าวเท็จที่ไปเข้าร่วมสังฆกรรมกับ ‘พรรคพลังประชารัฐ’ ซึ่ง ณ คงต้องปล่อยให้กาลเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์การกระทำ ว่าไม่มีใครเป็นอย่างที่พรรคเคยกล่าวหาไว้ 

ในขณะที่พรรคเพื่อไทยเอง ก็ได้ไปจับมือกับพรรคสองลุงในการจัดตั้งรัฐบาล ส่วนตัวจึงตัดสินใจลาออกจากพรรคในเดือนกรกฎาคมปี 2566 และยืนยันทั้งหมดไม่ใช่เรื่องส่วนตัวกับเพื่อไทย แต่เมื่อกระบวนการที่เคยเดินมาด้วยกัน ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปนั่นเอง 

ท้ายที่สุด อดีต สส. เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ทักษิณและองคาพยพที่จะเดินทางไปจังหวัดใหม่ในช่วงกลางสัปดาห์นี้ จะไม่มีผลต่อคะแนนเสียงเลือกตั้ง เพราะเชื่อว่า ท้ายที่สุดในอีก 3 ปีกว่าๆ ประชาชนจะตัดสินใจจากการทำหน้าที่ของในฝ่ายบริหาร และ สส.ในฝ่ายนิติบัญญัติ  

โดยเฉพาะฐานเสียงที่เลือกพรรคก้าวไกล หากพรรคยังคงธำรงค์ไว้ซึ่งอุดมการณ์และคำมั่นสัญญา ก็จะยังกลับไปเลือกอีกในปี 2570

“พรรคการเมืองต้องมีกระดูกสันหลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่น้องเสื้อแดงจังหวัดเชียงใหม่ เราสู้เรื่องนี้มาตลอด จึงไม่เชื่อว่าเพียงแค่คนหนึ่งกลับมา แล้วจะเปลี่ยนใจพี่น้องประชาชนได้ การเมืองอยู่ที่การกระทำจริงๆ ค่ะ”

ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ กล่าวทิ้งท้าย

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์