‘รัฐบาลเพื่อไทย-แพทองธาร’ จะปฏิเสธความรับผิดชอบ ‘คดีตากใบ’ ไม่ได้

25 ต.ค. 2567 - 07:08

  • ‘อังคณา’ ชี้ ‘รัฐบาลเพื่อไทย-แพทองธาร’ จะปฏิเสธความรับผิดชอบ ‘คดีตากใบ’ ไม่ได้

  • ชวน ‘นายกฯ’ ลงใต้ ฟังความทุกข์ทรมานจากปากเหยื่อ-ครอบครัวผู้เสียชีวิต

  • เตือนระวังคนรู้สึกรัฐไม่จริงใจ-ไม่ให้ความเป็นธรรม อาจไปร่วมขบวนการก่อเหตุรุนแรง

Angkhana Neelapaijit-said-Paetongtarn-govt-SPACEBAR-Hero.jpg

เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์ได้ทั่วสารทิศสำหรับกรณี ‘คดีตากใบ’ และหนึ่งในผู้ที่ออกมาให้ความเห็นเรื่องนี้ได้อย่างน่าสนใจ นั่นก็คือ อังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) และประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา และอดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ

อังคณา ระบุว่า คดีตากใบที่คนเห็นกันอยู่ว่ามีผู้เสียชีวิต แต่สุดท้าย หากไม่สามารถนำตัวคนที่ถูกกล่าวหาหรือคนที่มีส่วนร่วมรับผิดชอบ เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้แม้แต่คนเดียว จะทำให้เกิดวัฒนธรรมลอยนวลพ้นผิดเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ที่สำคัญ ทำให้เห็นเลยว่า เวลาประชาชนทำผิดจะถูกจับกุมถูกลงโทษตามกฎหมาย แต่เมื่อเจ้าหน้าที่รัฐทำผิด ไม่เคยมีเจ้าหน้าที่รัฐคนไหนต้องรับผิด ซึ่งจะทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะตำรวจกับอัยการ

อังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภา (สว.)

คดีตากใบไม่ถูกนำขึ้นศาลตลอดสิบห้าปี หลังเสร็จสิ้นการไต่สวนการตาย เมื่อปี 2552 ที่ทำให้เห็นเลยว่า นโยบายรัฐบาลที่บอกว่า จะทำให้คนเท่าเทียมกันตามกฎหมาย มันไม่จริง เพราะมันทำให้เห็นเลยว่า หากคนทำผิดเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ คนเหล่านี้ไม่เคยถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเลย ที่จะทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่น ไม่ไว้ใจรัฐ

และจะส่งผลให้การที่ภาครัฐจะไปพูดคุยเพื่อสันติภาพ สันติสุข จะพูดคุยได้อย่างไร ในเมื่อรัฐยังไม่ให้ความเป็นธรรมกับเขาเลย

คดีตากใบ ก็จะเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ตอกย้ำความรู้สึกการไม่ได้รับความเป็นธรรม ของคนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งหลังจากนี้ เราคาดการณ์ไม่ได้เลยว่า จะมีคนที่อ้างว่า รัฐไม่จริงใจ รัฐไม่ให้ความเป็นธรรม ไปเข้าร่วมขบวนการในการที่จะก่อเหตุรุนแรงขึ้นอีกหรือไม่ ตรงนี้ไม่มีใครสามารถคาดการณ์ได้เลย รัฐอาจจะอ้างว่า เกิดเหตุรุนแรงที่ไหนก็จับไป แต่ส่วนตัวก็อยากจะบอกว่า ไม่ว่าจะจับอย่างไรก็จับไม่หมด ถ้าหากว่ารัฐบาลยังไม่สามารถสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจกับประชาชนได้ เหตุการณ์แบบนี้ก็จะเกิดขึ้นแล้วเกิดขึ้นอีก และความเป็นรัฐบาลปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ รัฐบาลวันนี้ก็คือ ไทยรักไทย เมื่อยี่สิบปีที่แล้ว จะปฏิเสธความรับผิดชอบ คงไม่ได้

อังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภา (สว.)

หากคดีตากใบหมดอายุความ อีกทางหนึ่งที่ญาติผู้เสียชีวิตทำได้ ก็คือไปฟ้องศาลระหว่างประเทศ เพราะอย่างประเทศในสหภาพยุโรป เช่น เยอรมนี หรือสวิสเซอร์แลนด์ อังกฤษ ที่จะมีศาลระหว่างประเทศ 

เช่น สมมติว่าญาติไปฟ้องว่ามีจำเลยคดีตากใบ เกี่ยวข้องกับการทำให้มีคนเสียชีวิต 78 คน แล้วหากศาลไต่สวนแล้วเห็นว่ามีมูล บุคคลดังกล่าว ก็จะเดินทางเข้าประเทศนั้นไม่ได้

เช่น หากไปฟ้องที่อังกฤษ จำเลยคดีตากใบ ที่อยู่ที่อังกฤษ ศาลอังกฤษสามารถจะลงโทษที่ประเทศอังกฤษได้โดยไม่จำเป็นต้องส่งเข้ามาที่ประเทศไทย อันนี้เป็นอีกกลไกหนึ่ง เพราะจะไปพึ่งศาลอาญาระหว่างประเทศไม่ได้ เพราะว่าเราไม่ได้มีการไปให้สัตยาบันกรุงโรม แต่จะมีศาลระหว่างประเทศ ที่หลายประเทศโดยเฉพาะคดีละเมิดสิทธิมนุษยชนที่กลุ่มประเทศในสหภาพยุโรป ให้ความสำคัญ

อังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภา (สว.)

เมื่อถามถึงกรณีที่ผ่านมา ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการเอาจริงเอาจังหรือไม่ ในการติดตามตัวจำเลยคดีตากใบที่ถูกศาลนราธิวาสออกหมายจับทั้ง 14 คน เพราะบางคนก็เป็นอดีตข้าราชการระดับสูง บางคนเป็นเพื่อนร่วมรุ่นตำรวจ เพื่อนอดีตเตรียมทหารกับ ทักษิณ ชินวัตร บางคนเป็นอดีต สส.พรรคเพื่อไทย

เรื่องนี้ นางอังคณา ระบุว่า ส่วนตัวมองว่าไม่ได้จริงจัง เพราะคดีที่ฟ้องศาล ทางญาติผู้เสียชีวิต เป็นผู้ฟ้องคดีเอง ซึ่งความผิดตามกฎหมาย คดีที่เป็นคดีอาญาแผ่นดิน อัยการต้องเป็นผู้ฟ้องคดี และยิ่งเป็นคดีที่เกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ อัยการต้องเป็นผู้ฟ้อง

อย่างก่อนหน้านี้ ก็บอกว่าหาสำนวนไม่เจอ (ตำรวจ) ก็ใช้เวลากว่าจะหาเจอ ญาติก็เลยยื่นฟ้องต่อศาลไปก่อน ซึ่งคดีที่ผู้ฟ้องหากไม่ใช่อัยการยื่นฟ้อง จะต้องมีการไต่สวนมูลฟ้องก่อน ที่ก็ใช้เวลา กว่าที่ศาลจะรับฟ้องคดี พอศาลรับฟ้องแล้ว พอจำเลยไม่มา ศาลก็ออกหมายจับ ซึ่งหลังจากคดีที่ประชาชนฟ้องแล้ว ทางอัยการถึงได้ฟ้องด้วย ซึ่งอัยการมาช้ามาก อันนี้พูดตรงๆ

อังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภา (สว.)

และหลังจากผ่านไปสิบห้าปี หลังศาลมีการไต่สวนการตาย เมื่อปี 2552 จนมาถึงปี 2567 เวลาผ่านไปสิบห้าปี สำนักงานอัยการสูงสุด ทำอะไร? เพราะเรื่องนี้ ญาติผู้เสียชีวิตมีการไปร้องตลอด มีการจัดกิจกรรมรำลึกเหตุการณ์ ทำบุญกันทุกปี แต่ว่ากระบวนการยุติธรรมกลับนิ่งเฉย มองไม่เห็นความทุกข์ยากหรือความยุติธรรมที่เขาควรจะได้รับ

อยากชวนนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ลงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อไปคุยกับแม่ๆ (ผู้เสียชีวิต) และคนที่รอดชีวิต โดยไม่ต้องมีทหาร ตำรวจตามไป เป็นการไปคุยประสาชาวบ้าน นายกฯ จะได้รู้ว่า คนเหล่านั้นเขาทุกข์ยากอย่างไร เพราะวันนี้ มีสิ่งหนึ่งที่สังคมได้เห็น ก็คือมีการสร้างอคติต่อเหยื่อ เช่น นักวิชาการ หรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ที่ออกมาพูดว่า การชุมนุมตากใบมีพวกบีอาร์เอ็นหนุนหลัง มีขบวนการจัดตั้ง ซึ่งสิ่งสำคัญที่รัฐต้องระลึกถึง ก็คือในการชุมนุม จะมีผู้ก่อเหตุ จะมีการจัดตั้ง อะไรก็แล้วแต่ ทว่าสิ่งที่ประชาชนถามหาในวันนี้ ทำไมคน 78 คนถึงต้องตาย เพราะหลักการชุมนุม รัฐมีหน้าที่ทำให้การชุมนุมเป็นไปโดยสงบ และรักษาชีวิตของผู้ชุมนุม คน 78 คน ต่อให้เขาจะถูกใส่ร้ายว่าเป็นคนไม่ดีหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่เขาจะต้องไม่ตายภายใต้การควบคุมของเจ้าหน้าที่รัฐ อันนี้คือหลักการสำคัญ

อังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภา (สว.)

ทั้งนี้ ไม่ใช่พอญาติมาเรียกร้องความเป็นธรรม มาส่งเรื่องขึ้นศาล แล้วก็มีเจ้าหน้าที่ระดับสูง มีนักวิชาการพยายามจะบอกว่า กรณีตากใบมีบีอาร์เอ็นเกี่ยวข้อง มีคนยุยงปลุกปั่น คน 78 คน ที่ถูกผลักขึ้นไปบนรถบรรทุกวันนั้น เขาขึ้นไปโดยที่ยังมีชีวิต แต่พอไปถึงค่ายอิงคยุทธฯ เขาหมดลมหายใจ

ตรงนี้คือสิ่งที่ต้องมีการมาตรวจพิสูจน์ว่า ใครจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ

ที่พูด ไม่ได้บอกว่าใครผิด แต่การเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม จะทำให้รู้ได้ว่าใครเป็นผู้สั่ง ใครทำอะไร ทำอย่างไร และทำไมถึงมีคนตายเยอะขนาดนี้ แล้วจะต้องรับผิดชอบอย่างไร ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกคนอยากรู้ความจริง เพราะเมื่อรู้ความจริง ก็จะนำไปสู่แนวทางที่เราจะได้ป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก

อังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภา (สว.)

แต่วันนี้ เรากลับพบว่า พวกญาติๆ ของผู้เสียชีวิต ถูกให้ร้ายว่าคนที่เสียชีวิตกลายเป็นคนไม่ดี ซึ่งไม่เกี่ยวกันเลย เพราะเขาจะเป็นคนดีหรือคนไม่ดี คุณก็ต้องเอาเขาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่ไม่ใช่อยู่ดีๆ เอาเขาใส่ขึ้นรถบรรทุกไปแล้วสุดท้ายเขาเสียชีวิต

ก็คิดว่านายกฯ แพทองธาร ไม่ควรจะรับฟังความเห็นของนักวิชาการ หรือเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงเพียงอย่างเดียว ถึงได้เรียกร้องให้นายกฯ ลงพื้นที่ไปฟัง พวกผู้หญิง พวกแม่ๆ พวกพี่น้องของผู้เสียชีวิตและคนที่เขารอดชีวิตว่าเขาทุกข์ทรมานแค่ไหน ซึ่งส่วนตัวก็ยินดีจะไปด้วย

อังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภา (สว.)

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์