อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้ากรณี ถูกตรวจสอบ ที่ดินสนามกอล์ฟของครอบครัว ที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของหน่วยราชการต่อหน่วยราชการ สื่อชอบไปเขียนว่าเป็นสนามกอล์ฟของอนุทิน ซึ่งไม่ใช่ เป็นของนิติบุคคล มีคนในครอบครัวบริหารจัดการมาเกือบ 20 ปีแล้ว ยืนยันว่าไม่ใช่สนามกอล์ฟของอนุทิน และอนุทินไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องอะไร
ทั้งนี้ คิดว่าการเมืองเปิดเกมเร็วหรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า ไม่เป็นไร สิ่งที่ยืนยันได้คือ ครอบครัวได้มาอย่างสุจริต ซึ่งขณะนั้น ที่ดินดังกล่าวไม่มีเอกสารสิทธิ์ใดๆ ทั้งสิ้น นอกจากโฉนด และ นส.3 มีการไปโอนที่กรมที่ดิน และเสียค่าโอนถูกต้อง ทำเอ็มโอยูกับเจ้าของเก่า เพื่อเข้าไปขอใช้สถานที่ ซึ่งทำทุกขั้นตอนถูกต้องตามกฏหมาย
อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมครม.อนุทินไม่ได้พูดคุยกับรมว.เกษตรและสหกรณ์เพื่อเคลียร์ใจกัน เพราะเป็นเรื่องระหว่างหน่วยงาน อนุทิน ระบุว่า ฟังยังสงสัยว่า ส.ป.ก.ไปออกที่ทับซ้อนกับนิคมสร้างตนเอง มีตัวย่อเต็มไปหมด และมีแผนที่ 1 ต่อ 3 แสนบ้าง 1 ต่อ 5 ล้านบ้าง เต็มไปหมด ส่วนตัวอ่านเรื่องนี้ 2 บรรทัดก็หลับแล้ว ดังนั้น ขอปล่อยให้เรื่องนี้เป็นไปตามกฏหมาย เพราะแต่ละหน่วยงาน มีผู้รับผิดชอบด้านกฎหมายอยู่แล้ว ถ้าผิดก็ต้องคืน แต่กรณีนี้ เราได้มาโดยสุจริต ไม่ใช่ได้มาแค่ใบกระดาษอะไรก็ไม่รู้ แล้วใช้อำนาจหน้าที่ไปออกโฉนด ยืนยันว่า ตอนที่ครอบครัวได้มา เปลี่ยนมือไปตั้งเท่าไหร่แล้ว เพราะฉะนั้น ไม่กังวล
เมื่อถามว่า ธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ระบุว่า ที่ไหว้อนุทิน เป็นการไหว้ตามหน้าที่ อนุทิน กล่าวว่า ผู้สื่อข่าวก็ไปสื่อสารกันแบบนี้ อนุทินพูดว่า เขามาไหว้อย่างสุภาพ นอบน้อม ซึ่งก็ชมเขานะ ไม่ได้ว่า และเขาก็ตั้งใจเดินเข้ามาไหว้ ไม่ใช่แค่เดินผ่าน ก็รับไหว้เขาอย่างดี ยังงงอยู่ว่าเป็นใคร แต่ทางผู้ช่วย ผบ.ตร. บอกว่าคือ ธนดล ถึงได้ร้องอ๋อ แต่สื่อกลับไปลงว่า เป็นการกระแทกแดกดัน เขาเลยเข้าใจผิด ก็บอกไปว่า มีอะไรให้ทำตามกฎหมายเต็มที่เลย และให้ความเป็นธรรมด้วย

รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึง การจัดดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาล วันที่ 25 ก.พ.ว่า จะจัดขึ้นที่โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล เขตบางรัก กรุงเทพฯ โดยพรรคภูมิใจไทย เป็นเจ้าภาพ จะมีการเชิญหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค ไปพรรคละ 2 คนเท่านั้น ซึ่งเป็นไปตามคำบัญชาของนายกฯ เพราะที่ผ่านมา คนเยอะ แต่มีเวลาจำกัดทำให้พูดคุยกันได้น้อย โดยบรรดาที่ปรึกษาพรรคการเมืองทุกพรรคร่วมรัฐบาล จะไม่ได้ไปด้วย ซึ่งนายกฯ เป็นเจ้าภาพ อนุทินเป็นเจ้ามือตามคิว
ส่วนจะเคลียร์ใจเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ และ เรื่องที่ดินต่างๆ หรือไม่นั้น ก็แล้วแต่นายกฯ
อนุทิน ยังกล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยจะยื่นญัตติขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยประเด็นรัฐสภา มีอำนาจวินิจฉัยร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทย และพรรคประชาชน โดยไม่ต้องทำประชามติ ให้ประธานรัฐสภาบรรจุระเบียบวาระในวันที่ 19 ก.พ.นี้เลยว่า พรรคภูมิใจไทยไม่มีปัญหา ถ้าเป็นขั้นตอนตามกฎหมายที่ถูกต้อง เราก็สนับสนุนอยู่แล้ว ทั้งนี้หากมีการบรรจุวาระ และเลื่อนการพิจารณาขึ้นมาพรรคภูมิใจไทยก็ร่วมโหวต
“ตรงนี้คุยกันแล้ว เราไม่ได้เป็นคนขวาง เดี๋ยวจะหาว่า เป็นภูมิใจขวางอะไรอีก เรากลัว แต่คนอื่นเขาไม่เคยโดน พวกเราโดนกันมาแล้ว”
— อนุทิน กล่าว
เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวพรรคเพื่อไทยก็กลัวเช่นกัน จึงทำสภาล่ม 2 ครั้งในการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 13-14 ก.พ. ที่ผ่านมา อนุทิน กล่าวว่า “อ้าว เห็นไหมก็กลัวกันทุกคน แต่เรากลัวก่อน”

รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดรามา ชาวอิสราเอล บุกอำเภอปายจังหวัดแม่ฮ่องสอน ถึงขั้นใช้โรงแรมเป็นโบสถ์ว่า อย่างที่นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ไป ซึ่งข่าวที่ออกมาจะถึงขั้น ห้ามคนไทยเข้าไปนั้น คงเป็นไปไม่ได้ ยกเว้นว่า เขาเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดิน แต่ถ้าเป็นร้าน หรือโรงแรม หรือที่สาธารณะที่เข้าไปได้ จะมาห้ามคนไทยหรือมาปักป้าย ห้ามคนไทยนั้น คงเป็นไปไม่ได้ ถ้าปัก เดี๋ยวพวกเราก็ไปเอาออก
“ขออย่ากังวลจนเกินไป บางทีข่าวมาหลายทอด อิสราเอลจะมายึดปาย เป็นไปไม่ได้หรอก แค่คิดก็ผิดแล้ว อย่าพึ่งเป็นกังวล นายกฯ สั่งการมาแล้ว ผู้ว่าราชการจังหวัด ก็รายงานมาว่า สถานการณ์ ไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิด แต่อาจจะมีคนไปปักหลัก เพราะชอบบรรยากาศ อย่างสมัยก่อนก็มีที่เกาะสมุย แต่ไม่มีหลอก ที่จะมามีอิทธิพลได้ ดูอย่างที่ภูเก็ต ช่วงต่างชาติที่พยายามจะมามีอิทธิพล พวกนี้แค่รู้จักเจ้าที่บ้านเมือง เขาคิดว่าตัวเองใหญ่ไปซะแล้ว ก็ต้องจัดการให้หมด ต้องทำมาหากินด้วยความสุจริต และจะให้การต้อนรับเขาเท่า ๆ กัน เราก็ให้เขาได้แค่นี้ แต่ถ้ามามีอิทธิพลบนประเทศเรานั้นเป็นไปไม่ได้ พวกเราไม่ยอมอยู่แล้ว”
— อนุทิน กล่าว
เมื่อถามว่า เป็นผลพวงมาจากฟรีวีซ่าหรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า ไม่เกี่ยว ฟรีวีซ่าอย่างไร ก็ต้องมีระยะของมันอยู่แล้วว่า อยู่ได้กี่วัน แต่ถ้าจะมาทำงานประกอบอาชีพ ก็ต้องขอสิทธิ์ ขอใบอนุญาต ไม่ต้องกังวล ทั้งนี้ต้องขอบคุณผู้ที่ให้ข่าวมา ทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เร่งเข้าไป สืบหาข้อเท็จจริง และก็พบว่าเป็นไปตามนั้น