‘พรรคภูมิใจไทย’ ประชุมกรรมการบริหารพรรคและ สส.ของพรรค ก่อนเปิดการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันพรุ่งนี้ (3 ก.ค.) ซึ่งประเด็นที่ต้องติดตามคือ กระแสข่าว ‘อนุทิน ชาญวีรกูล’ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เสนอตัวเป็น ‘นายกฯ ชั่วคราว’

แต่ ‘อนุทิน’ ออกมาปฏิเสธแล้ว โดยระบุแบบสงสัยว่า มีกระแสข่าวได้อย่างไร จนถึงเวลานี้ยังไม่มีเวลาดูคลิป ซึ่งเมื่อวานนี้ ได้เห็นคลิปว่า มีการเสนอชื่อ ‘อนุทิน’ ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีชั่วคราว ก็งงว่า ไปเสนอตัวเมื่อไหร่ ทุกอย่างมันยังไม่ใช่เวลา ไม่รู้ว่าเป็นการทำ IO ของใครหรือไม่ เช่นเดียวกับกรณีที่ ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน และผู้นำฝ่ายค้าน ระบุว่า พรรคภูมิใจไทย ประสานเสนออนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรีชั่วคราว ก็ได้สอบถามคนในพรรคว่าใครเป็นผู้ประสานไป ซึ่งไม่มีใครทราบเรื่อง จึงขอปฏิเสธกระแสข่าวนี้

เมื่อถามว่า ณัฐพงษ์ได้รับสัญญาณมาจากพรรคภูมิใจไทย อนุทิน กล่าวว่า ถ้าเป็นเรื่องของพรรคภูมิใจไทย เรื่องส่งสัญญาณต้องฟังอนุทิน จะไปพูดข้ามพรรคกันไม่ได้ ส่วนความเป็นไปได้ที่อนุทินจะได้นั่งนายกรัฐมนตรีนั้น ตอนนี้ประเทศไทยยังมีนายกรัฐมนตรีอยู่ เพียงแต่หยุดปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ ดังนั้น อย่าไปพูดให้เกินเลยไปมากกว่านี้ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากประเทศมาถึงทางตัน พร้อมหรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า “ยังไม่ถึง” คำว่าพร้อมคือ พร้อมอะไร พร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีหรือเปล่า? พูดมาไม่รู้กี่ครั้งแล้วว่า อนุทินเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย

ทั้งนี้ หากให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีชั่วคราวและจับมือพรรคประชาชน อนุทิน กล่าวว่า ชั่วคราวไม่มี เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรีชั่วคราวหรือถาวรใดๆ ทั้งสิ้น ทุกอย่างมีกลไกลของรัฐสภา เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ
ส่วนเงื่อนไขของพรรคประชาชน ที่ระบุว่าจะยกมือโหวตให้ แต่ไม่ร่วมรัฐบาลโดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องแก้รัฐธรรมนูญนั้น อนุทิน กล่าวว่า พรุ่งนี้จะเป็นวันแรกที่จะได้พบกับณัฐพงษ์ เพราะวันพรุ่งนี้จะเป็นวันที่สภาฯ เปิด และในวันพรุ่งนี้พรรคประชาชนในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ได้ประสานมาว่า พรรคภูมิใจไทยในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้านน้องใหม่ จะมีโอกาสได้พบกันก่อนที่จะมีการเปิดประชุม ซึ่งได้นัดกันไว้ในช่วงเช้า โดยยืนยันว่า อนุทินจะไปหา เพราะเป็นผู้นำฝ่ายค้าน

ส่วนเจตนาที่มีโมเดลที่ออกมา เพราะเป็นไปได้ใช่หรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า ขออนุญาตกลับไปฟังคลิปก่อน วันนี้ออกมาจากบ้านตั้งแต่เช้า เลยยังไม่มีโอกาสได้ดูคลิป ได้แต่ฟังคนอื่นเล่ามา เล่าไม่เหมือนกันสักคน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า อนุทินได้มีการพูดคุยกับณัฐพงษ์หรือไม่ เนื่องจากณัฐพงษ์ระบุว่ามีการพูดคุยกันอยู่ตลอด อนุทิน กล่าวว่า ส่วนตัว ไม่เคยคุยกัน นอกจากเป็นการทักทายกันในสภาฯ แต่ไม่เคยมีการพูดคุยกันเป็นเรื่องเป็นราว แต่ครั้งนี้ได้ทำงานในฝั่งเดียวกัน

ทั้งนี้ การจะเป็นนายกรัฐมนตรี ต้องรอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญสิ้นสุดหรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า ใครจะเป็นนายกฯ ต้องได้รับเสียงสนับสนุน เกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร และยืนยันว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับพรรคร่วม
อนุทิน ยังกล่าวถึงการประเมินเสถียรภาพของรัฐบาลว่า เคยพูดไปแล้ว ให้ไปย้อนดูข่าวก่อนหน้านี้ พูดอย่างที่เคยพูดว่ารัฐบาลนี้ เป็นรัฐบาลที่เคยแข็งแกร่งมาก สนับสนุนมีเสียงสนับสนุน ถึง 320 เสียง เรื่องนี้ก็ให้ไปถามนายกรัฐมนตรี
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า “ถ้าเป็นนายกฯหนู จะแข็งแรงหรือไม่” อนุทิน กล่าวว่า รอให้ถึงวันนั้นก่อน
ขณะที่ความเห็นถึงการจะลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็มีเพียงแค่สองทางเท่านั้น คือยุบสภาฯ กับรัฐบาลถึงทางตัน แล้วใครคือผู้ระบุว่า ถึงเวลาทางตันแล้ว ว่ากันไปตามสถานการณ์ และยิ่งพูดในฐานะพรรคภูมิใจไทย ยิ่งพูดไม่ได้ เพราะได้พรรคร่วมรัฐบาลแล้ว
อย่างไรก็ตาม มีการส่งส่งสัญญาณมาหรือไม่ หลังจากที่หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีแต่ คดีที่ ณัฐพร โตประยูร ยื่นยุบพรรคภูมิใจไทย ไทยกลับถูกยกฟ้อง อนุทินกล่าวว่า คำถามนี้หาคุกมาให้ผม เรื่องนี้ตอบไม่ได้ เพราะเป็นการละเมิดอำนาจศาล คำพิพากษาของศาลเราไม่สามารถมีความเห็นได้

นอกจากนี้ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ยังกล่าวถึงการส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ โดยยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทยจะส่งผู้สมัครอย่างแน่นอน ขณะนี้อยู่ระหว่างหารือกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง ส่วนจะต้องคุยกับพรรคประชาชนหรือไม่ เนื่องจากเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านโดยมีคะแนนมาเป็นลำดับที่ 3 อนุทิน กล่าวว่า ปล่อยไปตามธรรมชาติดีกว่า แล้วแต่สะดวก
เมื่อถามว่า อายุรัฐบาลเหลือน้อยแล้ว การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้จะชกเต็มหมัดหรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า ไม่ได้คำนึงถึงอายุรัฐบาล เราก็ทำหน้าที่ตามครรลอง ในเมื่อเราเคยส่งผู้สมัครเขตนั้น ซึ่งเป็นญาติกับ ไตรศุลี ไตรสรณกุล อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และเมื่อมีเหตุจำเป็นให้พื้นที่ว่างลง เราก็จำเป็นต้องส่ง

ส่วนผลการเลือกตั้งจะชี้วัดเรตติ้งของพรรคการเมืองได้หรือไม่นั้น อนุทิน กล่าวว่า อย่าไปสร้างเงื่อนไข ทั้งนี้ สถานการณ์เป็นบวกกับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่นั้น ยืนยันว่า เราทำหน้าที่ เมื่อมีการเลือกตั้ง สส. ในเขตที่เรามั่นใจว่า มีฐานคะแนน เราก็ส่ง และเปิดโอกาสให้รับใช้ประชาชน

หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ยังกล่าวถึงกรณีที่วันนี้ ภูมิธรรม เวชยชัย ระบุว่า หากปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จะเดินหน้าตรวจสอบคดีเขากระโดงว่า ตรวจสอบมาตั้งแต่สมัยอยู่ที่กระทรวงมหาดไทย โดยตรวจสอบทั้งจากนักร้องฝ่ายอิสระ ฝ่ายค้าน รวมถึงฝ่ายรัฐบาลด้วยกันเอง ซึ่งไม่เคยมีข้อยกเว้น เรื่องนี้ กรมที่ดินก็ได้อธิบายขั้นตอน และการดำเนินการอย่างชัดเจนแล้ว และทุกอย่างก็เป็นไปตามกฏหมายทุกประการ โดยผู้ที่เกี่ยวข้องคือ กรมที่ดินกับการรถไฟแห่งประเทศไทย และไม่ทราบว่า ขณะนี้การรถไฟแห่งประเทศไทยได้ใช้สิทธิ์ในการฟ้องกรมที่ดินแล้วหรือยัง เพราะเป็นเรื่องหน่วยงานต่อหน่วยงาน ไม่มีเรื่องของบุคคลเข้าไปเกี่ยวข้อง พร้อมย้ำว่า ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ และเรื่องนี้ได้มีการสรุปและดำเนินการก่อนที่จะเข้าเป็นรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย
เมื่อถามกังวลว่า อธิบดีกรมที่ดินจะถูกกดดันหรือไม่นั้น อนุทิน ระบุว่า ตอนนี้ ไม่ทราบแล้ว