กระทรวงมหาดไทย (22 เมษายน 2567) อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (รมว.มหาดไทย) ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์การสู้รบระหว่างทหารเมียนมาและฝ่ายต่อต้านอย่างต่อเนื่อง ในพื้นที่สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับ อ.แม่สอด จ.ตาก ว่า ในด้านความมั่นคงทางการทหาร ทราบว่าฝ่ายทหารไทยจะสร้างความเชื่อมั่นให้คนในพื้นที่ ทหารไทยพยายามที่จะปกป้องไม่ให้ชายแดนไทยถูกรุกล้ำอธิปไตย และเชื่อว่าจะไม่ถูกรุกราน
ในส่วนของรัฐบาล ทางกระทรวงมหาดไทย ได้เตรียมความพร้อมต่อสถานการณ์นี้ โดยได้รับรายงานจากผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ในเรื่องการรองรับผู้ลี้ภัยว่า มีการสู้รบถล่มเป็นพื้นที่ แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน ผู้ลี้ภัยจึงต้องหาพื้นที่ปลอดภัยที่สุดโดยการข้ามชายแดนมายังฝั่งไทย ซึ่งเราต้องช่วยเหลือไม่ว่าจะเป็นที่จังหวัดตาก หรือพื้นที่ที่มีชายแดนติดกัน ที่ผู้ลี้ภัยจะเข้ามาชั่วคราวและอยู่ภายใต้การดูแลของรัฐบาลไทย ที่เรากำลังดำเนินการอยู่เป็นแผนเผชิญเหตุ ที่เตรียมไว้อยู่แล้วทุกจังหวัดที่มีพื้นที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน
เมื่อถามว่า มีความกังวลหรือไม่เมื่อได้รับรายงานจากหน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่ อนุทิน กล่าวว่า ตนไม่อยากให้มีความไม่สงบในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นในประเทศไทยหรือประเทศเพื่อนบ้าน เพราะไทยก็ได้รับผลกระทบ ซึ่งเราต้องดูแลตามหลักมนุษยธรรม เพราะพวกเขามีอันตราย แต่ยืนยันว่าต้องควบคุมสถานการณ์ให้ได้ ทั้งนี้การช่วยเหลือต่างๆ เป็นภารกิจที่รัฐบาลได้เตรียมการไว้อยู่แล้ว
เมื่อถามว่าหากมีผู้อพยพเข้ามาในไทยมากกว่า 10,000 คน กระทรวงมหาดไทยจะมีมาตรการดูแลอย่างไร อนุทิน กล่าวว่า สถานการณ์ดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นทั้งเดือนหรือทั้งปี มีการสู้รบกันเป็นระยะ ซึ่งได้รับรายงานจากผู้ว่าราชการจังหวัดตากว่าผู้ลี้ภัยไม่ได้ลักลอบเข้ามาในประเทศไทย อีกทั้งอยู่ภายใต้การควบคุม เพราะเรามีการลงทะเบียนผู้อพยพทุกคน ด้วยงบประมาณที่มีจำกัด จึงต้องเปิดรับความช่วยเหลือจากหน่วยงานอื่นๆ ทั้งระดับนานาชาติที่ต้องช่วยกันดูแลผู้ลี้ภัยตามหลักมนุษยธรรม
"มั่นใจว่าทางฝั่งเมียนมาจะเคารพอธิปไตยของประเทศไทย และความรุนแรงต่างๆ จะไม่รุกล้ำเข้ามาในฝั่งประเทศไทย มีข้อตกลงค้ำอยู่"
