เคลียร์ ‘สนามกอล์ฟ’ ของ ‘อนุทิน’ ออกเอกสารสิทธิถูกต้อง
พรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการออกเอกสารที่ดิน น.ค.3 ในพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำตะคอง ว่า ข้อมูลจริงๆ อยู่ที่ผู้จัดนิคม ในส่วนที่กรมที่ดินเกี่ยวข้องด้วย พื้นที่ที่กรมที่ดินได้ออกโฉนดไปมีทั้งหมด 4,500 แปลง เป็นพื้นที่กว่า 25,000 ไร่ รวมถึงได้มีการออก น.ส.3 ก. ประมาณ 217 แปลง 2,600 กว่าไร่ รวมทั้งหมดประมาณ 4,700 แปลง ที่มีการออกเอกสารสิทธิ์ตามอำนาจหน้าที่ของกรมที่ดิน ถ้าคิดเป็นพื้นที่ทั้งหมดก็ไม่ถึง 30,000 ไร่ ประมาณ 28,000 ไร่
ส่วนที่ดินในพื้นที่สนามกอล์ฟปากช่อง และพื้นที่แข่งรถของ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย คาบเกี่ยวกับพื้นที่ ส.ป.ก. กี่ไร่ และมีการออกโฉนดแล้วกี่ไร่ พรพจน์ ยืนยันว่า เอกสารสิทธิที่ออกโดยกรมที่ดิน ทั้งโฉนดและ น.ส.3 ก. ดำเนินการตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องในขณะนั้น เป็นโฉนดและเอกสารสิทธิที่ถูกต้องตามกฎหมาย
ในส่วนของสนามกอล์ฟและสนามแข่งรถ เป็นพื้นที่ของการนิคมฯที่มีการจัดนิคมฯ เอกสารสิทธิที่ออกมา ออกมาโดยพื้นฐานของ น.ค. 3 ที่นิคมฯได้ดำเนินการ ซึ่งหลักเกณฑ์พิจารณาในการออกเอกสารสิทธิ ถ้ามี น.ค.3 มา กรมที่ดินจะถือว่ามีการรับรองจากภาครัฐ ซึ่งมีแนวทางในการดำเนินการอยู่ โดยจะต้องสอบถามไปยังผู้จัดนิคมฯ ว่ามีการใช้ประโยชน์เช่นเดิมหรือไม่ ยินยอมให้ออกโฉนดได้หรือไม่
ถ้ามีหลักฐานยืนยันมา กรมที่ดินก็ยืนยันตามกฎหมายในการออกเอกสารสิทธิ ดังนั้นยืนยันว่าที่ดิน 4,500 แปลง ที่เป็นโฉนดที่ดิน กับ 217 แปลงที่เป็นน.ส. 3 ก. กรมที่ดินออกเอกสารสิทธิตามแนวทางในการดำเนินการระหว่างกรมที่ดินและผู้จัดตั้งนิคมฯอย่างถูกต้อง
สำหรับกรณีที่อาจถูกมองว่าเป็นการฟอกขาวที่ดินให้เอกชน พรพจน์ กล่าวว่า ต้องไปดูที่มาของการจัดตั้งนิคมฯ โดยพื้นที่ที่เป็นปัญหาอยู่ในเขตที่มีการขยาย ซึ่งทำถูกต้องตามกฎหมายตามที่นิคมฯ ได้ดำเนินการ เพียงแต่มีพื้นที่คาบเกี่ยวกับ ส.ป.ก. ซึ่งมีความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เมื่อปี 2548 ว่าถ้ามีการจัดนิคมฯ เข้าไปในพื้นที่ ส.ป.ก. ไม่สามารถทำการปฏิรูปเพื่อการเกษตรกรรมได้ ดังนั้นมีความจำเป็นที่ ส.ป.ก. จะยกที่ให้การจัดตั้งนิคมฯตามวัตถุประสงค์
พร้อมยืนยันว่าในการจัดพื้นที่ซ้ำซ้อน กรมที่ดินไม่ได้ลอยตัวเพียงแต่กรมที่ดินไม่ได้เกี่ยว เพราะในพื้นที่ซ้ำซ้อนเป็นพื้นที่นิคมฯกับ ส.ป.ก. จึงต้องเคลียร์ตรงนี้ เเละกรมที่ดินเป็นปลายทางในการออกเอกสารสิทธิ์ตามหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
ส่วนกรณีที่มีการระบุว่า หาก ส.ป.ก.มาทวงพื้นที่คืน จะทำให้เกิดข้อพิพาทระหว่า งส.ป.ก. กับกรมที่ดินด้วย พรพจน์ กล่าวว่า จะเป็นอีกขั้นตอนหนึ่ง ขั้นแรกคือ ต้องบอกว่าทำไมถึงมีการจัดนิคมฯให้ประชาชนผู้ยากไร้มีสิทธิทำกินในที่ดินของนิคมฯ ถ้าบอกว่า น.ค.3 ที่มาจากนิคมฯไม่ถูกต้อง ก็ต้องไล่มาถึงกรมที่ดินในการเพิกถอนเอกสารสิทธิ ซึ่งมีหลายกรณีที่ น.ค.3 ไม่ถูกต้อง กรมที่ดินก็ทำตามขั้นตอน จึงต้องพิสูจน์ทราบว่าก่อนว่าน.ค.3 ที่มายื่นถูกต้องหรือไม่
ในกรณีที่ดินที่ถูกเพิกถอนใครจะเป็นผู้รับผิดชอบเยียวยาเอกชน พรพจน์ กล่าวว่า ถ้ามีการเพิกถอนถือเป็นคำสั่งทางปกครอง ประชาชนก็จะต้องอุทธรณ์ผู้ออกคำสั่ง นั่นคือฟ้องกรมที่ดิน
กรณีที่ดินสนามกอล์ฟปากช่องของ อนุทิน มองว่าไปถึงขั้นเพิกถอนหรือไม่ พรพจน์ กล่าวว่า ยัง ต้องพิสูจน์ทราบให้ได้ก่อน ว่า น.ค.3 ที่เป็นพื้นฐานของการออกเอกสารสิทธิถูกต้องหรือไม่
ซึ่งเรื่องนี้มีรายละเอียดพอสมควรและไม่ได้เพิ่งเกิดปัญหา ประชาชนหลายพันครัวเรือนมีปัญหาเรื่องพวกนี้อยู่ หากความเชื่อมั่นในโฉนดที่ออกมา มีการถามไปที่ผู้จัดตั้งนิคมว่าจะมีแนวทางชัดเจนอย่างไร ซึ่งจริงๆแล้วก็มีการหารือกัน ว่าจริงๆต้องไปที่สำนักงานคณะกรรมการที่ดินแห่งชาติที่เป็นผู้จัดวางนโยบาย เพื่อดูภาพรวมของการจัดที่ดิน ซึ่งถ้ามาจริงๆส่งผลกระทบต่อประชาชนเยอะ
ในฐานะข้าราชการหนักใจหรือไม่ เพราะดูเหมือนต้องรับจบ ทั้งปัญหาที่ดินอัลไพน์ เขากระโดง และสนามกอล์ฟปากช่อง พรพจน์ ยืนยันว่า ทุกอย่างทำตามพื้นฐานของกฎหมายและข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ถ้าเป็นข้อเท็จจริงที่คลาดเคลื่อนไปก็พร้อมรับ แต่ตอนนี้ขอยืนยัน ว่าแนวทางในการออกเอกสารสิทธิ ในแต่ละยุคแต่ละสมัยมีระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องไม่เหมือนกัน แต่กรมที่ดินดำเนินการถูกต้องตามที่ต้องทำ ตามวิสัยที่ข้าราชการที่ดีพึงกระทำ
พรพจน์ กล่าวอีกว่า เรื่องนี้ต้องไปดูต้นเรื่องที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพราะมีประวัติศาสตร์อยู่ ผู้ที่เดือดร้อนจริงๆคือประชาชน ในการทำธุรกรรมในพื้นที่บริเวณนี้ ซึ่งเรื่องพวกนี้ไม่เคยหารือในกรมที่ดิน เพราะผู้เกี่ยวข้องจริงๆคือผู้จัดตั้งนิคม ถ้าถามกรมที่ดินอย่างเดียว หรือกระทรวงมหาดไทย อาจจะไม่ครบถ้วน เพราะเกี่ยวพันหลายหน่วยงาน
ก่อนย้ำระเบียบการออกโฉนดว่าถ้ามี น.ค.3 กรมที่ดินออกโฉนดได้อย่างเดียว เพียงแต่เพื่อความชอบธรรมก็มีแนวทางปฏิบัติ ให้สอบถามไปยังผู้จัดนิคมก่อน หากได้รับการยืนยัน กรมที่ดินก็ออกโฉนดให้ ไม่สามารถปฏิเสธประชาชนได้ เพียงแต่หลังโฉนด ไม่ได้มีการสลักว่าต้องทำประโยชน์อย่างไร แต่มีพื้นฐานว่าเปลี่ยนมาจาก น.ค.3 แค่นั้นเอง ซึ่งอาจจะเป็นหน้าที่ของกรมที่ดิน ที่ต้องประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจเรื่องการเปลี่ยนแปลง ซึ่งตนได้แถลงข่าวไปแล้ว และการทำงานของกรมที่ดิน
‘วราวุธ’ เปิดไทม์ไลน์ตั้ง ‘นิคมสร้างตนเองลำตะคอง’
วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการจัดสรรที่ดินนิคมสร้างตนเองลำตะคอง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ให้ชาวบ้านเข้าทำกิน แต่ถูกตั้งข้อสังเกตมีการขยายพื้นที่ทับซ้อนจนมีการออกเอกสารสิทธิ์ให้เอกชนครอบครอง ว่า แต่ละนิคมสร้างตนเองจะมีจุดกำเนิดที่แตกต่างกัน อย่างที่นิคมฯควนขนุน จ.พัทลุง ก็จะมีประวัติความเป็นมาของตัวเอง หรือพื้นที่นิคมฯ ลำตะคองที่เป็นข่าวอยู่ขณะนี้ตั้งขึ้นมาตั้งแต่ก่อนที่จะมีกระทรวง พม. ที่จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2545 แต่นิคมฯ ลำตะคองตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี 2515 โดยคำสั่งของคณะปฏิวัติในขณะนั้น
"แต่ละห้วงการดูแลของพื้นที่นิคมฯ จะแตกต่างกันไป แต่จะอยู่ภายใต้กรมประชาสงเคราะห์ ของกระทรวงมหาดไทย ดังนั้น การกำหนดพื้นที่หรือแม้แต่การออกใบ น.ค. 1 หรือ น.ค. 3 ซึ่งเป็นเอกสารสิทธิในที่ดิน จะเป็นการดูแลของกรมประชาสงเคราะห์ ไทม์ไลน์แต่ละช่วงเวลานั้นจะมีความชัดเจนว่า มีการประกาศเป็นพื้นที่นิคมฯหรือเมื่อปี พ.ศ 2538 ได้มีการขยายพื้นที่เพิ่มจากเดิม 280,000 ไร่ เพิ่มอีก 46,000 ไร่ ตามคำตัดสินของคณะกรรมการตรวจสอบแนวเขตที่ดินนิคมสร้างตนเองลำตะคอง จังหวัดนครราชสีมา" วราวุธ กล่าว
นอกจากนี้ ต้องไปดูในมิติของคำสั่งนั้นว่าใช้อำนาจหรือมีแนวทาง หรือมีต้นสายปลายเหตุอย่างไร แต่วันนี้ขอยืนยันว่าการทำงานของกระทรวง พม. นั้น ทุกอย่างมีเอกสาร สามารถไล่เรียงตามห้วงเวลาได้เสมอ เพียงแต่ว่าการที่จะออกโฉนดหรือออกใบอนุญาตให้คนเป็นเจ้าของกรรมสิทธินั้นๆ ไม่ใช่หน้าที่ของกระทรวง พม. คงต้องเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ซึ่ง กระทรวง พม. นั้น ออกได้เพียงแค่ใบ น.ค. 1 หรือ น.ค.3 และตลอดระยะเวลาที่ผมมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีนั้นเรายังไม่มีการออกใบ น.ค. 3 ให้กับพี่น้องประชาชน คงจะต้องไปดูว่าในแต่ละพื้นที่นั้น เอกสารสิทธิที่ออกมานั้นได้ออกมาในห้วงวันที่เวลาใด เป็นอำนาจหน้าที่ของใคร แต่กระทรวง พม. ขอยืนยันว่าทำงานโปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้ตามเอกสาร ตามแต่ละห้วงเวลาได้