‘มหาดไทย’ ยุค ‘สิงห์ไร้สี-ไร้เขี้ยว’ ขอให้ ‘เนวิน-อนุทิน’ คุมได้ก็พอ

9 ต.ค. 2567 - 09:25

  • เข้ายุค ‘มหาดไทย’ ใต้เงา ‘ภูมิใจไทย’ สูตรทำการเมืองแบบ ‘ไม่สุดโต่ง’ เน้นทางสายกลาง ที่มา ‘มหาดไทย’ ยุค ‘สิงห์’ ไร้สี-หลากสี-ไร้เขี้ยว ขอให้ ‘เนวิน-อนุทิน’ คุมได้ก็พอ

  • ตั้งแต่ให้ ‘อรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์’ นั่งปลัด มท. เรียกว่าชะตาฟ้าลิขิต ตามมาด้วยโยกย้ายใหญ่ ต.ค.67 จัดขุนพลสายตรง ‘บ้านใหญ่บุรีรัมย์’ คุมกรมเกรดเอ จัดทัพรับศึก ‘เลือกตั้งใหญ่-ท้องถิ่น’

Anutin-Newin-Ministry-Interior-SPACEBAR-Hero.jpg

จากในอดีตมีคำของผู้นำจีนที่ว่า “ไม่ว่าแมวขาวหรือแมวดำ ขอเพียงจับหนูได้ก็คือแมวที่ดี” ถูกกล่าวโดย ‘เติ้งเสี่ยวผิง’ เป็นผู้ปฏิวัติและรัฐบุรุษชาวจีน เมื่อ ค.ศ.1962 ที่ต้องการฟื้นคืน ‘อุตสาหกรรมเกษตร’ โดยย้ำถึงการใช้สูตรที่ไม่ตายตัว ไม่สุดโต่งตายตัว

ประโยคดังกล่าวถูกปรับใช้และถูกนำมาใช้มองสถานการณ์ต่างๆ ซึ่งไทยก็ได้รับอิทธิพลทางความคิดนี้มาเช่นกัน เมื่อนำมาอ่านปรากฏการณ์โยกย้าย ‘มหาดไทย’ ล็อตล่าสุด 25 ตำแหน่ง ก็จะพบว่า_เป็นวิธีการทำการเมืองแบบ ‘บ้านใหญ่บุรีรัมย์-ตระกูลชิดชอบ’ ที่มาทำ ‘พรรคภูมิใจไทย’ ที่ถูกมองเป็น ‘พรรคสายกลาง’ ไปได้กับทุกขั้วสายอำนาจ_

ในรั้ว ‘มหาดไทย’ เป็นแหล่งรวม ‘สิงห์’ ที่จบจากสถาบันต่างๆ ซึ่ง ‘สิงห์’ เป็นสัญลักษณ์ของกระทรวง หรือที่เรียกว่า ‘ตราราชสีห์’ แต่สิงห์ที่จะได้เติบโตใน มท. มีอยู่ 2 สิงห์เป็นหลัก คือ สิงห์แดง ที่จบจาก คณะรัฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ และ สิงห์ดำ ที่จบจากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ แต่ในบางยุคก็มีสิงห์อื่นๆ ได้เติบโตขึ้นมา เช่น สิงห์ขาว คณะรัฐศาสตร์ ม.เชียงใหม่ และ สิงห์ทอง คณะรัฐศาสตร์ ม.รามคำแหง 

แต่ในยุค บ้านใหญ่บุรีรัมย์ คุมกระทรวงมหาดไทย โดยมี ‘อนุทิน ชาญวีรกูล’ เป็น รองนายกฯและรมว.มหาดไทย จะพบว่า ภท. ใช้สูตรทำการเมือง มาปรับใช้กับการแต่งตั้งโยกย้าย ‘บิ๊กมหาดไทย’ จึงเป็นที่มาของคำว่า ‘สิงห์’ สีอะไรไม่สำคัญ ขอเพียง ‘ครูใหญ่เนวิน’ คุมได้ก็คือ ‘สิงห์’ ที่ดี

การแต่งตั้งโยกย้ายล่าสุด หลัง ครม. เห็นชอบ พบว่า ‘ไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์’ โยกจาก อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ไปเป็น อธิบดีกรมการปกครอง ที่เรียกว่าเป็น กรมเกรดเอ ของ มท. ทั้งคู่ หากย้อนดูโปว์ไฟล์พบว่า ‘ไชยวัฒน์’ จบการศึกษาคณะนิติศาสตร์ ม.รามคำแหง ไม่ได้เป็นสิงห์สายใด แต่เป็นสายตรง ‘บ้านใหญ่บุรีรัมย์’ เพราะเคยเป็น ‘ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์’ มาก่อน จากนั้นมาเป็นอธิบดี ปภ. และมาเป็นอธิบดีกรมการปกครอง 1 ปี ก่อนเกษียณฯ 30ก.ย.68

นอกจากนี้ยังมี ‘นฤชา โฆษาศิวิไลซ์’ ขยับจาก ‘ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์’ ชึ้นเป็นอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) โดย ‘นฤชา’ เป็นสิงห์แดง จบจากคณะรัฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ เป็นสายตรง ‘บ้านใหญ่บุรีรัมย์’ อีกหนึ่งคน

ขณะที่ ‘ขจร ศรีชวโนทัย’ พ้นจากอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ถูกโยกไปเป็น รองปลัด มท. สำหรับ ‘ขจร’ เป็นเพื่อนร่วมรุ่น สิงห์ดำ รัฐศาสตร์ จุฬาฯ กับ ‘เก่ง-สุทธิพงษ์ จุลเจริญ’ อดีตปลัด มท. ที่เกษียณฯ 30 ก.ย.67 ทั้งนี้ชื่อของ ‘ขจร’ ถูกกล่าวพาดพิงในคลิปเสียง ‘บ้านป่ารอยต่อ’ แม้จะเป็นเพื่อน วปอ.61 กับ ‘อนุทิน’ ก็ตาม

ภาสกร บุญญลักษม์ พ้นจาก ผู้ว่าฯ ปทุมธานี ขึ้นเป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) โดย ‘ภาสกร’ จบคณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ที่มีความใกล้ชิดกับ อนุทิน รมว.มหาดไทย ซึ่ง ปภ. ถือเป็นกรมเกรดเอ ของ มท.

การแต่งตั้งโยกย้าย มท. เกิดขึ้นหลังงานวันเกิด ‘เนวิน ชิดชอบ’ ครูใหญ่แห่ง ภท. เพียง 4 วัน ที่สนามช้างอารีน่า จ.บุรีรัมย์ พบว่ามีผู้บริหารระดับสูง มท. หลายคนไปร่วมงานนำโดย ปลัดป็อบ-อรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์  ปลัด มท. , ไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ ที่ขยับเป็น อธิบดีกรมการปกครอง , ขจร ศรีชวโนทัย ที่โดนโยกไปเป็นรองปลัด มท. เป็นต้น 

ส่วน สยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) , ชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าฯ นครราชสีมา และ พรพจน์ เพ็ญพาสน์ อธิบดีกรมที่ดิน แม้ไปร่วมงานวันเกิดเนวิน แต่ยังไม่ได้ขยับตำแหน่งใดๆ

ย้อนไปที่ ปลัดป็อบ-อรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์  จากอธิบดีกรมการปกครอง ขึ้นเป็น ‘ปลัดมหาดไทย’ สายตรง ‘อนุทิน’ แต่ไม่ใช่สายตรง ‘บ้านใหญ่บุรีรัมย์’ ที่ต้องแยกจุดนี้ออกจากกัน เพราะ ‘อรรษิษฐ์’ เติบโตตามเส้นทางราชการตามปกติ ไม่มี ‘เครือข่ายอำนาจ’ เท่าใดนัก

แต่ชะตาชีวิตเปลี่ยนเมื่อ 2 ปีก่อน ช่วงเปลี่ยนจาก ‘อธิบดีกรมพัฒนาชุมชน’ มาเป็น ‘อธิบดีกรมการปกครอง’ เพราะทำงานเข้าตาหลายฝ่าย ไม่มีแข็งข้อ-มีเงื่อนไขเท่าใดนัก ทำให้ ‘ชีวิตติดปีก’ ในช่วงนั้น เรียกว่า ‘ชะตาฟ้าลิขิต’

ช่วงเป็น ‘อธิบดีกรมการปกครอง’ ก็อยู่กับ ‘อนุทิน’ ที่เข้ามารับเก้าอี้ รมว.มหาดไทย พอดี เรียกว่ารู้มือกัน ในยุคที่ ‘อนุทิน’ กับ ‘ปลัดเก่ง’สุทธิพงษ์ จุลเจริญ อดีตปลัด มท. มี ‘ระยะห่าง’ กับ ‘อนุทิน’ พอสมควร ทำให้ ‘อรรษิษฐ์’ เป็นมือเป็นไม้ให้กับ ‘อนุทิน’ อย่างมาก

แม้ว่า ‘อรรษิษฐ์’ จะเป็น ‘สิงห์ดำ’ รุ่น 42 จบรัฐศาสตร์ จุฬาฯ เกษียณฯปี 74 นั่งยาว 7 ปี แต่ในอดีตไม่ได้วางเครือข่ายไว้เท่าใดนัก หากเทียบกับ ‘ปลัด มท.’ คนก่อนๆ ทำให้ ‘อรรษิษฐ์’ เปรียบเป็น ‘สิงห์ไร้เขี้ยว’

เรียกว่า ‘มหาดไทย’ ยุคนี้ เป็นยุค ‘สิงห์หลากสี-ไร้สี’ เลือกคนที่ ‘ใช้งานได้-คุมได้’ เป็นหลัก แต่ในอีกแง่การโยกย้าย มท. ครั้งนี้ ก็มีการมองว่าเป็นวาง ‘ขุนพล’ เพื่อรองรับ ‘เลือกตั้งใหญ่’ อีก 3 ปีข้างหรือไม่ หรือที่ใกล้ที่สุด คือ ‘เลือกตั้งท้องถิ่น’ ที่จะเกิดขึ้นช่วงต้นปี 68

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์