อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าสมาชิกพรรคภูมิใจไทยถูกคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือกกต.ออกหมายเรียก ชี้แจงกรณี ‘คดีฮั้วเลือกสว.’ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้พูดคุยกับสมาชิก เพราะไม่ได้มีปัญหาอะไร และทุกคนก็ให้สัมภาษณ์หมดแล้วว่า พร้อมที่จะให้การและชี้แจง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีดังกล่าวเป็นเรื่องการเมืองหรือไม่ อนุทินถึงกับหัวเราะ ก่อนกล่าวต่อว่า “ผู้สื่อข่าวก็คิดเองได้ ใครๆ ก็ประเมินถูก” และเมื่อถามย้ำว่า แสดงว่ามองว่าเป็นเรื่องการเมืองจริงๆใช่หรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า เชื่อมาตั้งนานแล้ว ใครๆ ก็เชื่อ ซึ่งเรื่องนี้อนุทินไม่เกี่ยว แต่หากคิดในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ไม่ได้คิดในฐานะรัฐมนตรีหรือหัวหน้าพรรค แต่คิดในฐานะเป็นคอการเมือง
อนุทิน ระบุว่า หากจะต้องการอะไรจากพรรคภูมิใจไทยก็ไม่มี เพราะภูมิใจไทยไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องสว.
“สื่อมวลชนน่าจะอ่านประกาศที่ผมเคยสั่งห้ามสมาชิกพรรคภูมิใจไทยข้องเกี่ยวกับการเลือกสว. ที่ลงวันที่ไว้เมื่อ 30 เมษายน 2567 ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งสว. 2 เดือน เหตุใดจึงไม่ตีแผ่หนังสือนี้อีกครั้งว่า ผมสั่งห้าม ขอให้สื่อช่วยนำหนังสือดังกล่าวมาลงซ้ำหน่อย แฟร์ๆ กับผม ขณะที่เรื่องของคนอื่นนำมาพูด เกี่ยวกับพรรคผม”
— อนุทิน กล่าว
อนุทิน ยังกล่าวย้ำว่า ขออย่ามายัดเยียด เพราะอนุทินต้องการออกห่าง ไม่ยุ่งเกี่ยวตั้งแต่ปีมะโว้แล้ว อย่ามาคิดมโนอะไร แต่ถ้ากกต.สงสัย ก็ถามอนุทิน และทุกคนก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือดี ทั้งนี้ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเหตุใดจึงเจาะจงมาที่สมาชิกพรรคภูมิใจไทยเป็นหลัก แสดงว่าคงต้องมีดีอะไรบางอย่างมั้ง จึงมีคนพยายามเจาะยาง
เมื่อถามว่า กกต.ยังออกหมายใหม่ เรียกเรื่องอาจไม่จบ อาจจะมีการพาดพิงถึงรัฐมนตรีและสมาชิกคนอื่นของพรรคภูมิใจไทยอีก อนุทิน กล่าวว่า ก็ไม่เกี่ยวกับพรรคภูมิใจไทย
สำหรับความคืบหน้ากรณีที่ สุขสมรวย วันทนียกุล สส.อำนาจเจริญ พรรคภูมิใจไทย เตรียมยื่นฟ้อง กุสุมาลวตี ศิริโกมุท สว.สำรอง และอดีตสส.เพื่อไทย พาดพิงว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการฮั้ว สว. ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนใดว่า เวลาพบผู้สื่อข่าว อนุทินบ่นให้ผู้สื่อข่าวฟังตลอดว่าขั้นตอนการเลือกสว.เป็นอย่างไร จนป่านนี้ยังไม่รู้ว่าเลือกเข้ามากันอย่างไร เพราะอนุทินไม่เกี่ยว ไม่ได้สนใจ เลือกระดับอำเภอ จังหวัดประเทศ และไขว้ ไม่รู้สักอย่าง ซึ่งเมื่อไม่เกี่ยวข้อง ก็ไม่ได้สนใจ แต่หากมีการพาดพิงสมาชิกในพรรคภูมิใจไทย ก็จะมีการฟ้องร้อง ในความผิดตรงไหนหมิ่นประมาทก็ฟ้องร้องหมิ่นประมาทตรงไหนแจ้งความเท็จ ก็ฟ้องร้องแจ้งความ ตรงไหนละเมิดก็ฟ้องละเมิด เพราะเราเป็นพรรคการเมืองอยู่ดีๆจะให้คนอื่นมาด้อยค่าได้อย่างไร เพราะพรรคภูมิใจไทย มีคนเลือกเข้ามาได้สส. 70 กว่าคน มีคะแนนสส.บัญชีรายชื่อเป็นล้านเสียงคน จึงต้องรักษาคุณค่าของ ให้สมกับที่ประชาชนไว้ใจเลือก
อนุทิน ยังกล่าวย้ำว่า เมื่อกรรมาธิการเรียกสุขสำรวยไปชี้แจงก็ไป แต่คนที่กรรมาธิการไม่ได้เรียกแล้วไป ก็เป็นเรื่องแปลก พร้อมย้ำว่า เป็นเรื่องการเมืองอยู่แล้วเพราะเริ่มตั้งแต่จุลภาคมาเป็นมหภาค
ส่วนได้คุยนอกรอบกับนายกรัฐมนตรีแล้วหรือไม่ถึงกรณีดังกล่าว อนุทิน กล่าวว่า ไม่ได้พูดคุยกัน และไม่เคยคุย เพราะเรื่องนี้ไม่เกี่ยว ส่วนเมื่อวานก็เป็นงานเลี้ยงประธานาธิบดีอินโดนีเซีย นายกรัฐมนตรีก็ถ่ายวีดีโออนุทินร้องเพลง
ผู้สื่อข่าวถามแซวว่า สังคมออนไลน์วิจารณ์ว่า อนุทินไม่ได้ไปทำตาแต่ไปทำหน้าแทน อนุทิน ถึงกับหัวเราะก่อนกล่าวต่อว่า คงไม่ได้เครียด อโหสิกับคนคิดไม่ดี และขอให้ทุกคนมีความสุขความเจริญ สัพเพ สัตตา อะเวรา ส่วนที่ไม่เครียดก็ไม่ใช่ว่ามีแผนรับมือทางการเมือง เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด และมั่นใจว่าทีมงานของพรรคภูมิใจไทยไม่ได้เป็นดังข้อกล่าวหา และไม่เป็นไปตามบทวิเคราะห์ ของคอการเมืองและกูรู เพราะมันก็เหมือนดูก่อนบ่ายคลายเครียด กลายเป็นเรื่องตลกไปไม่ได้เป็นสาระ ก่อนกล่าวถึงท้ายว่า “ตอนนี้ไม่มีใครพูดถึงเรื่องแก้ปัญหาและความเดือดร้อนของประชาชนเลย”
หัวพรรคภูมิใจไทย ยังกล่าวถึงกรณีที่ ไพศาล พืชมงคล นักกฎหมายและนักวิจารณ์การเมือง โพสต์ข้อความผ่าน เฟซบุ๊คส่วนตัวว่า ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีชมอนุทินมีความจริงจังจริงใจ สนิมสนมไว้วางใจพิเศษกับ นายกฯ ว่า ยังไม่ได้พบกับทักษิณเลย พบกันครั้งล่าสุดเมื่อ 11 เมษายน 2568 ที่ผ่านมาก่อนช่วงเทศกาลสงกรานต์ เดือนกว่าแล้วที่ยังไม่ได้เจอ เพราะแต่ละฝ่ายมีภารกิจ และขอบคุณทักษิณ หากพูดเช่นนั้นจริงๆ
“เรื่องที่สื่อฯ ถาม ยอมรับว่าเป็นความจริง เพราะตั้งใจทำงานกับนายกรัฐมนตรี ทุ่มเทสุดหัวใจ เพราะท่านตั้งใจทำงาน และเสียสละ รวมไปถึงเป็นหัวหน้ารัฐบาลที่พวกผมสังกัดอยู่ทุกวันนี้ ในเรื่องงานของฝ่ายบริหารผมเต็มที่ ไม่มีอะไรซ่อนเร้น มีแต่แว่นตาไม่มีมีด”
— อนุทิน กล่าว
เมื่อถามว่า การที่เดี๋ยวทักษิณชม เดี๋ยวทักษิณเหน็บ เป็นเพราะอะไร อนุทิน กล่าวว่า “ส่วนใหญ่ชม” สื่อมวลชนจึงถามต่อว่า อนุทิน เป็นจำเลยรักหรือไม่ อนุทินถึงกับหัวเราะ ก่อนให้สื่อถามเรื่องงานดีกว่า