ย้ำจุดยืน ‘ภท.’! ‘อนุทิน’ ชี้ กม. นิรโทษกรรมต้องไม่แตะ 112

13 ธันวาคม 2566 - 10:09

Anutin-reiterates-the-Bhumjaithai-Party-stance-The-amnesty-does-not-touch-Section-112-SPACEBAR-Hero.jpg
  • ‘อนุทิน’ เผยรอหารือพรรคร่วมรัฐบาล ปมออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม

  • ย้ำจุดยืน ‘ภูมิใจไทย’ ชัดเจนต้องไม่แตะ ม.112 ถ้ามีเลิกคุยกัน

ทำเนียบรัฐบาล (13 ธันวาคม 2566) อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (รมว.มหาดไทย) ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์กรณีนายนิกร จำนง ประธานคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับแนวทางในการทำประชามติ เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 เสนอแนะให้มีการเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ในนามพรรคร่วมรัฐบาล ว่า “พรรคภูมิใจไทยมีจุดยืนชัดเจนว่าเราไม่แตะมาตรา 112” 

เมื่อถามว่าคดีทุจริตที่เกิดขึ้นในช่วงมีความวุ่นวายทางการเมืองจะนำมาพิจารณาด้วยหรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า เดี๋ยวรอว่าจะมีการหารือในพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ แต่จุดยืนภูมิใจไทยเหมือนเดิมคือเราไม่มีปัญหากับมาตรา 112 ในปัจจุบัน 

เมื่อถามย้ำว่าคดีความต่างๆ สามารถพูดคุยกันได้ใช่หรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า ขอหารือกันก่อน ต้องดูว่าแก้ ม.112 หรือไม่ ถ้าแก้ก็ไม่ได้

เมื่อถามว่าเห็นด้วยกับพรรคเพื่อไทย (พท.) หรือไม่ที่เสนอตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาเพื่อศึกษาก่อน อนุทิน กล่าวว่า ยังไม่ได้คิดเรื่องนี้ 

ถามอีกว่ารัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ มีการผลักดันเรื่องนิรโทษกรรมจนรัฐบาลมีปัญหา กังวลหรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า “โอ๊ยนานไปแล้ว จำไม่ได้ ตอนนั้นผมยังไม่เข้าการเมืองเลยมั๊ง เอาปัจจุบันดีกว่า” 

หัวหน้าพรรค ภท.ให้กำลังใจ ปชป.บอกทุกพรรคมีอุปสรรคทั้งนั้น ไม่คิดเป็นคู่แข่งน่ากลัวในอนาคต

อนุทิน ยังให้สัมภาษณ์กรณีพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) มีสมาชิกไหลออกจำนวนมาก หากจะมาร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทยจะรับหรือไม่ ว่า พรรคภูมิใจไทยเรายังไม่คิดเรื่องนี้ เวลาใครมีปัญหาหรืออะไรถ้าเป็นพรรคพวกกันเราก็ต้องแสดงความเห็นใจ ส่งกำลังใจไปให้อะไรที่เราช่วยเหลือได้ก็ควรต้องช่วย 

เมื่อถามว่าดูปัญหาของพรรคประชาธิปัตย์แล้ว เสียดายหรือไม่เพราะเป็นพรรคที่เป็นสถาบันทางการเมืองมายาวนาน อนุทิน กล่าวว่า มันไม่มีองค์กรไหนที่ตั้งขึ้นมาแล้วไม่มีอุปสรรคหรือผ่านฉลุยไปตลอด ไม่มีหรอก พรรคใหญ่หรือพรรคเล็กก็ล้วนแล้วแต่ประสบอุปสรรคทั้งนั้น เพียงแต่ผู้บริหารแต่ละพรรคจะฟันฝ่าอุปสรรคใช้ประสบการณ์ บารมี ความสามารถ ในการก้าวข้ามไปได้อย่างไร 

เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรค ปชป.จะถือเป็นคู่แข่งที่สำคัญของพรรคภูมิใจไทยในอนาคตหรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า _“ผมสนิทกับท่านเฉลิมชัย รักกันมากด้วย ทำงานร่วมกันมาในรัฐบาลตั้ง 4 ปี เพราะฉะนั้นผมต้องให้กำลังใจท่าน เราต่างคนต่างทำหน้าที่ เราไม่ได้มองเป็นคู่แข่งกัน บทบาทหน้าที่ในการหาเสียงเลือกตั้งก็เป็นบทบาทของแต่ละพรรค ไม่มีนายเฉลิมชัย ก็มีคนอื่นอีก อย่าไปคิดว่าเป็นคู่แข่งกันเลย”

อนุทิน เปิดเผยด้วยว่า ได้โทรไปแสดงความยินดีกับนายเฉลิมชัย แล้วหลังได้ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค ปชป. 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามกระเซ้าว่าได้พูดคุยชักชวนมาร่วมรัฐบาลด้วยกันหรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า “โอ้ยไม่มี อย่าเพิ่งเลย ให้ท่านได้บริหารจัดการให้เรียบร้อยก่อน”

ลั่น! จัดการเด็ดขาด แก้หนี้ต้องไม่มีข่มเหงรังแกผิดกฎหมาย

วันเดียวกัน อนุทิน ให้สัมภาษณ์ถึงการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบที่ยังคงมีเจ้าหนี้ข่มขู่ลูกหนี้ไม่ให้ลงทะเบียนกับรัฐบาล ว่า มีทั้งเจ้าหนี้ข่มขู่ลูกหนี้ และลูกหนี้เบี้ยวเจ้าหนี้ กระทรวงมหาดไทยจะไม่ให้เกิดการข่มขู่รังแกกันเกิดขึ้น การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบในส่วนของกระทรวงมหาดไทยคือการไกล่เกลี่ยเจรจา ไม่ให้เกิดการกลั่นแกล้งรังแกกันเท่านั้น ไม่ใช่เป็นการหาเงินใหม่มาให้ 

“ผมยังยืนยันว่าคนเป็นหนี้ก็ต้องใช้หนี้ ไม่ใช่ไปตีความว่าไม่ต้องใช้หนี้แล้ว แต่ถ้าลูกหนี้คนไหนขาดส่ง และเจ้าหนี้ไปพังร้านเขาอย่างนี้ไม่ได้ ต้องดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด หรือกรณีถ้าลูกหนี้จ่ายดอกเบี้ยเกินเงินต้นไปแล้วหลายสิบเท่าอย่างนี้ก็ต้องให้มีการเจรจาไกล่เกลี่ยให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หากฝ่ายเจ้าหนี้ไม่ยอมทั้งที่เก็บรายได้มาเยอะแล้ว ก็ต้องเข้าข่ายผิดกฎหมาย ซึ่งจะมีกรมสรรพากร กระทรวงการคลังเข้าไปดูเรื่องของภาษีด้วย”

อนุทิน กล่าวต่อว่า คณะกรรมการที่นายกรัฐมนตรีตั้งมา แสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์ของนายกฯ ที่ต้องการใช้กลไกรัฐสร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ โดยมีตนเองเป็นประธาน จะปราบปรามป้องกันไม่ให้มีการทำผิดกฎหมายเรื่องหนี้นอกระบบ 

“เราต้องทำให้เกิดความเป็นธรรม เป้าหมายของเราก็คืออย่าไปข่มเหงรังแกกัน อย่าทุบตีทำร้ายกันถ้ามีการกระทำเหล่านี้ถือว่าผิดกฎหมายก็จะเอากฎหมายเข้าไปปกป้องเพื่อความปลอดภัยของประชาชน”

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์