แม้ว่า ‘บิ๊กแดง’พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ จะเกษียณฯ จาก ผบ.ทบ. มาแล้ว 4 ปีกว่า และได้รับโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุมัติรับโอนข้าราชการทหารและข้าราชการพลเรือนสามัญ บรรจุเป็นข้าราชการในพระองค์ฝ่ายพลเรือน ตำแหน่ง ‘รองเลขาพระราชวังระดับ 11’ และได้รับโปรดเกล้าฯ เป็น ‘รองผู้อำนวยการทรัพย์สินพระมหากษัตริย์’
ดังนั้นกระแสข่าวที่เกิดขึ้นกับ พล.อ.อภิรัชต์ ในขณะนี้ จึงต้องรอการยืนยัน ‘อย่างเป็นทางการ’ เท่านั้น แต่เมื่อมีกระแสข่าวออกมา ก็ทำให้ พล.อ.อภิรัชต์ ถูกจับตาทางการเมืองอีกครั้ง
ซึ่งเมื่อปี 2566 ที่มีกระแสข่าวเรื่อง ‘ดีลลับ’ ต่างๆ ชื่อของ พล.อ.อภิรัชต์ ตกไปอยู่ใน ‘ดีลลับ’ ผ่านปรากฏการณ์ ‘ดีลลับลังกาวี’ ภายหลังมีการเปิดเผยเที่ยวบินไปยังเกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซีย โดยมี ‘บิ๊กแก้ว’พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ขณะเป็น ผบ.ทหารสูงสุด ร่วมเดินทางไปด้วย ช่วงวันที่ 5-7 พ.ค.66 ก่อนจะมีการเลือกตั้งใหญ่ในไทย 14 พ.ค. 66
น่าสนใจว่าเอกสารเที่ยวบินถูกเปิดเผยผ่านเพจ CSI LA กลางเดือน ก.ค.66 หลังเหตุการณ์ผ่านมาแล้ว 2 เดือน พร้อมอ้างว่า พล.อ.อภิรัชต์ บินไปพบกับ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ อดีตนายกฯ
ต่อมามีรายงานข่าวระบุเป็น ‘บุคคลใกล้ชิด พล.อ.อภิรัชต์’ ออกมาชี้แจงว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ ทางการเมือง และไม่ได้ไปพบเจออดีตนายกฯ ตามที่มีข่าวปรากฏในโซเชียลฯ
"แต่ไปเพื่อพบปะกับแกนนำกลุ่มก่อความไม่สงบจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามที่มีการนัดหมายไว้ว่าต้องการพบ เพื่อคลี่คลายปัญหาและสนับสนุนให้การเจรจาเดินหน้าไปได้ด้วยดี โดยเป็นการประสานในการเปิดช่องทางการติดต่อสื่อสารอีกช่องทางหนึ่ง สำหรับการประสานงานในการแก้ปัญหา อีกทั้งในขณะนี้การดำเนินการของคณะพูดคุยชะลอออกไป เพราะทางกลุ่มเคลื่อนไหว รอมีรัฐบาลใหม่ก่อน" แหล่งข่าวบุคคลใกล้ชิด ระบุ
นอกจากนี้แหล่งข่าวยังระบุว่า พล.อ.อภิรัชต์ สมัยเป็น ‘พันเอก’ เคยเป็น ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจที่ 24 จ.สตูล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ อ.ธารโตและ อ.เบตง จ.ยะลา มีสายข่าวอยู่ในฝั่งมาเลเซีย เมื่อครั้งเป็น ผบ.ทบ. เคยเดินทางไปอาเจะห์ ประเทศอินโดนีเซีย เพื่อศึกษาแนวทางการแก้ปัญหา ยังคงติดตามสถานการณ์มาตลอด แต่ไม่ได้เปิดเผย ผ่านการใช้ ‘คอนเน็กชันส่วนตัว’ ทำให้ประสานพูดคุยกันได้
ต่อมาราว 1 สัปดาห์ มีคำสั่งสำนักพระราชวัง ที่ 310/2566 เรื่องลงโทษข้าราชการในพระองค์ฝ่ายพลเรือน ให้ปฏิบัติหน้าที่เวรโทษ โดยมีข้อความระบุว่า พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายพลเรือน ตำแหน่งรองเลขาธิการพระราชวัง (6) ระดับ 33 อัตราเงินเดือน 107,450 บาท ได้กระทำผิดวินัย กรณีไม่ปฏิบัติตามระเบียบของราชการ กล่าวคือ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ปฏิบัติหน้าที่เกินขอบเขตความรับผิดชอบ และมิได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาทรงทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท
สำนักพระราชวัง ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทำดังกล่าวของ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ เป็นความผิดวินัยฐานไม่ปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการ ตามข้อ 4 (35) ภาคผนวกที่ 12 แห่งระเบียบส่วนราชการในพระองค์ ว่าด้วยการบริหารข้าราชบริพารในพระองค์ พ.ศ. 2560 และแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2565 และอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 35 แห่งพระราชกฤษฎีกาจัดระเบียบราชการและการบริหารงานบุคคลของราชการในพระองค์ พ.ศ. 2560
จึงเห็นสมควรได้รับโทษ ให้ปฏิบัติหน้าที่ ‘เวรโทษ’ มีกำหนด 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 17 ก.ค. ถึง 15 ส.ค. 2566 ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ‘เวรโทษ’ ให้ฝึกทบทวนตามสภาพร่างกาย
นับจากนั้นมา พล.อ.อภิรัชต์ ก็โลว์โปร์ไฟล์ตัวเองมากยิ่งขึ้น ไม่ปรากฏอยู่ในภาพข่าวเท่าใดนัก จนมาถึงปี 2567 พล.อ.อภิรัชต์ ในฐานะอดีต ผบ.ทบ. ได้ไปร่วมงานเลี้ยงรับรอง ‘วันกองทัพบก’ 19ม.ค.ที่ผ่านมา ที่หอประชุม ทบ. แห่งใหม่ ซึ่งภายในงานก็มีอดีต ผบ.ทบ. ไปร่วมงานหลายคน เช่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท องคมนตรี พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ องคมนตรี พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี เป็นต้น
ล่าสุด พล.อ.อภิรัชต์ ปรากฏในภาพข่าว พล.อ.เดวิด เฮอร์ลีย์ ผู้สำเร็จราชการแห่งเครือรัฐออสเตรเลีย และ ลินดา เฮอร์ลีย์ ภริยา เยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ภายในงานพระราชทานเลี้ยงอาหารค่ำ เมื่อ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา
การปรากฏกระแสข่าวถึง พล.อ.อภิรัชต์ จึงถูกนำไปเชื่อมโยงทางการเมือง ซึ่ง พล.อ.อภิรัชต์ อยู่ในสถานะที่ไม่สามารถออกมาชี้แจงได้ ทำให้ต้อง ‘นิ่ง-โลว์โปร์ไฟล์’ เพื่อสยบกระแสข่าวแทน
ในขณะนี้สถานการณ์ทางการเมืองภาพใหญ่ถูกโฟกัสที่ ‘บ้านจันทร์ส่องหล้า’ ภายหลัง ‘ทักษิณ ชินวัตร’ ได้รับ ‘พักโทษ’ ครบ 1 สัปดาห์พอดี ที่ขยับตัวเองมากขึ้น ผ่านการเปิดบ้าน นำร่องโดยการให้ ‘ฮุน เซน’ อดีตนายกฯ กัมพูชา เข้าพบ ตามมาด้วย ‘เศรษฐา ทวีสิน’นายกฯ เข้าพบ อีกทั้ง ‘แพทองธาร’ ก็อยากให้ สส.เพื่อไทย ได้เข้าพบด้วย
จึงทำให้มีการมองข้ามช็อต โดยการนำ ‘กระแสข่าวเก่า’ ปลุกขึ้นมาอีกครั้ง ผ่านการชูชื่อ ‘พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค’ หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ขึ้นเป็นนายกฯ กระแสข่าวดังกล่าวเป็น ‘ดีลเดิม’ ก่อนที่ ‘เศรษฐา ทวีสิน’ จะได้เป็นนายกฯ ซึ่งโปร์ไลฟ์ของ ‘พีระพันธุ์’ เป็นเพื่อนรุ่นพี่ ‘บิ๊กแดง’ ตั้งแต่สมัยเรียน ร.ร.เซนต์คาเบรียล
อีกทั้งมีกระแสข่าวที่พยายามให้ ‘บิ๊กตู่’พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี กลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้ง ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่าง ‘บิ๊กตู่-บิ๊กแดง’ ก็มีความใกล้ชิดกัน อีกทั้งช่วงที่ พล.อ.อภิรัชต์ เป็น ผบ.ทบ. ก็ออกตัวปกป้อง พล.อ.ประยุทธ์-รัฐบาล อย่างตรงไปตรงมา และชนกับ ‘ขั้วตรงข้าม’ อย่างชัดเจน
ท่ามกลางกระแสข่าว ‘เปลี่ยนตัวนายกฯ’ ที่ไม่เคยหายไป นับตั้งแต่ ‘เศรษฐา’ ขึ้นเป็นนายกฯ
แม้สถานะที่เปลี่ยนไปของ พล.อ.อภิรัชต์ ทำให้การ ‘แสดงออก’ ต่างๆ เปลี่ยนไปด้วย ไม่สามารถทำได้เฉกเช่นเมื่อครั้งเป็น ผบ.ทบ. ดังนั้นกระแสข่าวล่าสุด จึงต้องรอ ‘คำตอบทางการ’ เท่านั้น เว้นแต่ความนิ่งของ พล.อ.อภิรัชต์ จะทำให้ ‘กระแสข่าวนิ่งลง’ เฉกเช่นที่เคยทำมาแล้ว’
‘นิ่งสงบ’ สยบ ‘การเมือง’ เคลื่อนไหว !!
