เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและมว.คลัง โพสต์ผ่าน X โดยระบุว่า “ขอขอบคุณรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการเหล่าทัพ ที่ได้นำดอกไม้มาอวยพรวันเกิดผมครับ หลังจากนั้นผมได้ร่วมทานอาหารเย็น และได้พูดคุยในหลายๆ ประเด็นที่จะเป็นการพัฒนากองทัพ และทำให้ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น ผ่านการสร้างอาชีพ และโอกาสใหม่ ๆ เพื่อให้เข้ากับบริบทของสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงการเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันปัญหาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นปัญหายาเสพติด และฝุ่น PM 2.5 นอกจากนั้น ผมยังได้คุยถึงชีวิตความเป็นอยู่ของกำลังพลทหาร ทั้งในเรื่องแฟลตที่อยู่อาศัย และโรงพยาบาล ที่จะต้องมีการยกระดับพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น นำไปสู่ความพร้อมในการทำงานเพื่อประเทศชาติ และพี่น้องประชาชนครับ”
เศรษฐา ยังได้ให้สัมภาษณ์ถึงการร่วมรับประทานอาหารกับผู้บัญชาการเหล่าทัพและ รมว.กลาโหม ว่า เมื่อวานนี้ได้ไปรับประทานอาหารเย็น กับ ผบ.ทั้ง 3 เหล่าทัพ มีการพูดคุยกันอย่างสม่ำเสมอในเรื่องการพัฒนากองทัพอยู่แล้ว รวมถึงการพูดคุยในข้อกังวลใจต่างๆ เราก็นำมาพูดคุยกัน
นายกฯ กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังมีการพูดคุยเรื่องการอารักขาราชวงศ์และบุคคลสำคัญ และเน้นย้ำว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ ซึ่งจะต้องทำให้ถูกต้องไม่ให้ประชาชนเดือดร้อนซึ่งทุกคนก็เห็นตรงกันหมด
เศรษฐา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังมีการพูดคุยเรื่องสวัสดิการของทหาร สืบเนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ไปเยี่ยมแฟลตข้าราชการตำรวจ จึงได้สอบถามกับ ผบ.เหล่าทัพถึงชีวิตความเป็นอยู่ของทหาร ไม่ใช่แค่มิติของที่อยู่อาศัย แต่รวมไปถึงด้านการศึกษาเพราะในปัจจุบันมีถึงแค่ระดับหลักสูตรประกาศนีย บัตรวิชาชีพ (ปวช.) แต่เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่โรงเรียนช่างฝีมือทหาร สามารถผลิตแรงงานเข้าสู่ตลาดได้ ซึ่งอุตสาหกรรมต่างๆ ก็ยังคงต้องการแรงงานช่างฝีมือ ซึ่งผบ.เหล่าทัพก็ยอมรับว่าในปัจจุบัน โรงเรียนช่างฝีมือทหารก็ยังมีอยู่เพียงในระดับปวช. ซึ่งก็จะต้องมองว่าจะพัฒนาไปจนถึงในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) และ ระดับปริญญาตรีต่อได้
เศรษฐา กล่าวต่อว่า สำหรับสถานพยาบาลต่างๆของเหล่าทัพ อย่างเช่นโรงพยาบาลภูมิพล ที่มีผู้เข้าไปรักษาหลักล้าน ต่อปีแต่เป็นบุคลากรของกองทัพเพียง 10% เท่านั้น แสดงว่าโรงพยาบาลเหล่านี้ให้การรักษาประชาชนเป็นอย่างดี รวมถึงสถานพยาบาลในกองทัพ หรือค่ายทหาร
เศรษฐา กล่าวว่าการลงพื้นที่ในครั้งนี้ ก็จะไปมอบโฉนดที่ดิน จากกองทัพ ซึ่งผู้บัญชาการทหารบกก็จะเดินทางตามไปด้วย จึงจะถือโอกาสนี้ ให้ผู้บัญชาการทหารบก พาไปดูสถานพยาบาลในค่ายทหาร รวมถึงชีวิตความเป็นอยู่ภายในค่าย ซึ่งตนมีความเป็นห่วงเป็นใยทุกภาค เราจะต้องดูแลพวกเขาให้มีศักดิ์ศรี และถ้าหากในอนาคตจะเปลี่ยนไปประกอบอาชีพอื่น ก็สามารถทำได้อย่างสมศักดิ์ศรี
นายกรัฐมนตรี ยังบอกอีกว่า การรับประทานอาหารร่วมกับผบ.เหล่าทัพเมื่อช่วงเย็นวานนี้คุยกันค่อนข้างนาน อาหารอร่อย และบรรยากาศดี
