ผ่านมาแล้วกว่า 3 เดือน สำหรับกรณีการเสียชีวิตของ ‘พ.ต.อ.วชิรา ยาวไธสงค์’ หรือ ‘ผกก.เบิ้ม’ ผู้กำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง หนึ่งในตำรวจที่ไปร่วมงานเลี้ยงของ ‘กำนันนก’ ที่ได้ปลิดชีพตัวเอง ภายในบ้านพัก เมื่อวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยมีการคาดการณ์ว่าสาเหตุของการปลิดชีพครั้งนั้น เกิดจากความเครียด หลังถูกพาดพิงว่าเป็นคนโทรศัพท์ไปตาม ‘สารวัตรแบงค์’ ให้มาที่งานเลี้ยง จนเกิดเหตุสลดขึ้น
ล่าสุดวันนี้ (21 พ.ย.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ‘วิโรจน์ ลักขณาอดิศร’ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พร้อม ‘ต่อพงษ์ จีนใจน้ำ’ หรือ ‘ทนายเข้ม’ ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึง DSI เพื่อขอให้ตรวจสอบว่าเกิดอะไรขึ้นกับ ‘ผกก.เบิ้ม’ ในช่วงก่อนที่ ‘ผกก.เบิ้ม’ จะตัดสินใจปลิดชีพตัวเอง โดยตั้งข้อสังเกตว่าอาจถูกใครพูดจาข่มขู่จนนำไปสู่การตัดสินใจปลิดชีพตัวเองหรือไม่ เพราะหากเป็นแบบนั้นจะถือว่าเข้าข่ายเป็นการทำกระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย
เหตุผลที่ทำให้ตัดสินใจเดินทางมายื่นหนังสือวันนี้ ‘วิโรจน์’ อธิบายว่าจากข้อมูลที่ได้รวบรวมผ่านสื่อต่างๆ ที่นำเสนอเรื่องนี้ เขาสังเกตว่าถ้าย้อนกลับไปช่วงคืนวันที่ 10 ก.ย. ‘ผกก.เบิ้ม’ ได้เข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ย่านเมืองทองธานี ก่อนที่ช่วงเช้ามืดของ วันที่ 11 ก.ย. ‘ผกก.เบิ้ม’ จะออกจากโรงแรม โดยใช้ช่องทางบันไดหนีไฟ ในการเดินไปขึ้นรถแท็กซี่ เพื่อกลับไปบ้านพักย่านคูคต จ.ปทุมธานี ก่อนปลิดชีพตัวเองในเวลาต่อมา โดยไม่มีโทรศัพท์ติดตัว
จึงทำให้สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นที่โรงแรม ‘ผกก.เบิ้ม’ ถูกใครกักขังหน่วงเหนี่ยว บีบคั้น หรือข่มขู่อะไรหรือไม่ ทำไมต้องไปพักที่โรงแรม ทำไมต้องออกทางบันไดหนีไฟ ทำไมต้องยึดโทรศัพท์มือถือของ ‘ผกก.เบิ้ม’ และทำไมไม่แจ้งให้ครอบครัวของ ‘ผกก.เบิ้ม’ ทราบว่าพา ‘ผกก.เบิ้ม’ ไปพักที่โรงแรม ทั้งหมดล้วนเป็นสิ่งที่ทำให้น่าสงสัย
ส่วนที่เพิ่งมาร้องเรียนวันนี้ ทั้งที่คดีผ่านมาแล้วหลายเดือน ‘วิโรจน์’ ชี้แจงว่า ตัวเขาสงสัยเรื่องนี้มานานแล้ว แต่ต้องใช้เวลาศึกษากฎหมายก่อน ว่าข้อสงสัยที่เขาตั้งข้อสังเกต เข้าข่ายความผิดใดบ้าง และจากการปรึกษากับทีมกฎหมายของพรรค พบว่าเข้าข่ายองค์ประกอบความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย เมื่อรวบรวมข้อมูลครบแล้ว จึงมายื่นเรื่องให้ DSI ตรวจสอบเรื่องนี้ พร้อมยอมรับว่าเรื่องนี้เกิดจากการตั้งข้อสังเกตส่วนตัว ไม่ได้มีการพูดคุยกับครอบครัวผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด
‘วิโรจน์’ ย้ำว่าสิ่งที่เขาติดใจ คือเหตุการณ์ก่อนที่ ‘ผกก.เบิ้ม’ จะตัดสินใจปลิดชีพตัวเอง ว่ามีใครข่มขู่ กดดัน หรือมีใครใช้อำนาจกดทับหรือไม่ เนื่องจากคดีนี้มีความเชื่อมโยงกับขบวนการส่วยรถบรรทุก ที่อาจมีผู้บังคับบัญชาระดับสูงและผู้มีอิทธิพลเข้ามาเกี่ยวข้องจึงอยากให้ตรวจสอบให้ละเอียด ส่วนสาเหตุการเสียชีวิต ไม่ได้ติดใจอะไร เพราะเชื่อในผลชันสูตรพลิกศพ ที่ระบุว่าเป็นการปลิดชีพตัวเอง
ทั้งนี้ แม้เหตุการณ์ดังกล่าวจะผ่านมานานหลายเดือนแล้ว แต่ ‘วิโรจน์’ เชื่อว่าจะไม่เป็นอุปสรรคต่อการสอบสวนคดีนี้ เพราะมีทั้งกล้องวงจรปิดและพยานบุคคล เชื่อว่าดีเอสไอตรวจสอบได้อยู่แล้ว และคดีนี้จะเป็นการพิสูจน์เรื่องการบังคับใช้ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย และการตีความกฎหมาย เรื่องการบังคับ ข่มขู่ คุกคาม ว่าจะมีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด
