วันนี้ (29 พ.ค.) ที่สำนักงานอัยการสูงสุด รัชดาฯ ประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด พร้อมคณะ ได้แถลงผลการพิจารณาคดีที่ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ ถูกกล่าวหาว่ามีความผิด ตามมาตรา 112 กรณีให้สัมภาษณ์สื่อที่ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อปี 2558
‘ประยุทธ์’ อธิบายว่า คดีนี้เดิมอัยการสูงสุดเคยสั่งฟ้องไปแล้วเมื่อปี 2558 แต่หลังจาก ‘ทักษิณ’ เดินทางกลับเข้าประเทศไทย ‘ทักษิณ’ ได้ร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 67 ต่อมาอัยการสูงสุดได้นัดฟังคำสั่งคดีในวันที่ 10 เม.ย. แต่เนื่องจากคณะทำงานอัยการยังรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมไม่ครบถ้วน จึงเลื่อนนัดฟังคำสั่งคดีมาเป็นวันที่ 29 พ.ค. แทน
หลังพิจารณาสำนวนแล้ว ‘อัยการสูงสุด’ ได้มีคำสั่งฟ้อง ‘ทักษิณ ชินวัตร’ ทุกข้อกล่าวหา ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ
แต่เนื่องจาก ‘ทักษิณ ชินวัตร’ ไม่ได้มาพบพนักงานอัยการตามนัดหมายเนื่องจากติดโควิด จึงยังไม่สามารถนำตัวส่งฟ้องต่อศาลได้ ขณะที่ทนายความของทักษิณได้เดินทางมายื่นคำร้องขอเลื่อนฟังคำสั่งคดี ไปเป็นวันที่ 25 มิ.ย. แทน พร้อมยื่นใบรับรองแพทย์ผลตรวจโควิดของทักษิณมาประกอบการพิจารณา โดยในใบรับรองแพทย์ แพทย์ลงความเห็นว่าให้พักรักษาตัวตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค. - 3 มิ.ย.67

ขณะที่ ‘วิพุธ บุญประสาท’ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 8 ในฐานะหัวหน้าพนักงานอัยการที่ได้รับมอบหมายจากอัยการสูงสุดให้เป็นผู้รับผิดชอบคดีนี้ พิจารณาคำร้องแล้ว อนุญาตให้เลื่อนไปวันที่ 18 พ.ค. โดยนัดให้ ‘ทักษิณ’ มาพบพนักงานอัยการเพื่อยื่นฟ้องต่อศาลในวันดังกล่าว
ส่วน โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเรื่องใบรับรองแพทย์ ว่ามาจากโรงพยาบาลเอกชนหรือโรงพยาบาลของรัฐ แต่ยืนยันว่าใบรับรองแพทย์ส่งมาถึงสำนักงานอัยการสูงสุดแล้วเมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา
เมื่อถามว่าหากเป็นโรงพยาบาลเอกชนในเครือของชินวัตร อาจทำให้ถูกครหาได้ว่ามีการช่วยเหลือกัน โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ชี้แจงว่า ใบรับรองแพทย์เป็นเพียงเรื่องทางธุรการ แต่สิ่งสำคัญคือวันนี้อัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้องทักษิณแล้ว การร้องขอในลักษณะนี้เป็นเรื่องของเหตุขัดข้อง และยังมีคำยืนยันจากแพทย์อีก อัยการจึงจำเป็นต้องเชื่อแต่ยืนยันว่าใบรับรองแพทย์จะไม่มีผลเปลี่ยนแปลงคำสั่งของอัยการสูงสุด
ส่วนวันที่ 18 มิ.ย.นี้ ‘ทักษิณ’ สามารถเลื่อนฟังคำสั่งฟ้องได้หรือไม่นั้น โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด บอกว่าขึ้นอยู่กับเหตุผลที่จะยื่นชี้แจง ไม่สามารถตอบล่วงหน้าได้
ส่วน ‘ทักษิณ’ ยังมีสิทธิ์ในการยื่นขอความเป็นธรรมได้อีกหรือไม่ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ชี้แจงว่า ยังไม่สามารถดำเนินการได้ตราบที่ยังไม่ส่งฟ้อง และอยู่ที่ดุลยพินิจอัยการสูงสุดว่าจะพิจารณาหรือไม่ บนพื้นฐานเพื่อแสวงหาข้อเท็จจริง ไม่ใช่การประวิงเวลา และการจะเปลี่ยนแปลงจะต้องมีเหตุ เช่น การฟ้องผิดตัว
ด้าน ‘นาเคนทร์ ทองไพรวัลย์’ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด อธิบายเพิ่มเติมว่า ผู้ต้องหาถูกปล่อยตัวไปก่อนแล้ว การส่งฟ้องคดีจะต้องนำตัวผู้ต้องหายื่นต่อศาลพร้อมคำสั่งฟ้อง หากวันที่ 18 มิ.ย.นี้ ทักษิณไม่เดินทางมาพบพนักงานอัยการตามคำสั่ง และไม่มีการยื่นเหตุผล อัยการจะส่งเรื่องไปยังพนักงานสอบสวนเพื่อให้นำตัวทักษิณมาดำเนินการส่งฟ้องต่อไป
แต่หากเดินทางมาส่งฟ้องทักษิณจะมีสิทธิ์ในการยื่นขอประกันตัว แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลว่าจะอนุมัติหรือไม่ พร้อมยืนยันว่าสถานภาพของทักษิณยังเป็นผู้ต้องหาจะเปลี่ยนเป็นจำเลยเมื่อถูกส่งฟ้องต่อศาลแล้ว