เตรียมออกหมายจับ ‘หม่องชิตตู’ เจ้าพ่อเมียวดี พ่วง 2 บิ๊กทหาร BGF ฐานค้ามนุษย์

11 ก.พ. 2568 - 05:41

  • ‘ดีเอสไอ’ หอบหลักฐานถก ‘สำนักงานคดีค้ามนุษย์’ ขอออกหมายจับ 'พ.อ.หม่องชิตตู' พร้อม 2 ผู้นำกองกำลัง BGF ชัดพฤติการณ์ค้ามนุษย์ มีคนไทยในขบวนการ 2 ราย พ่วงหมายจับเจ้าของบ่อนเฮงเชง จ.เมียวดี

  • รมว.ยุติธรรม เล็งขยายผลคดีฟอกเงิน-ยึดทรัพย์ ย้ำจับ ‘หม่องชิตตู-พวก’ ไม่ยาก อยู่ที่เจตจำนงผู้นำเอาด้วยหรือไม่ หากเห็นว่าเรื่องนี้เป็นภัยกับทุกประเทศก็ต้องช่วยกัน

BGF_human_trafficking_SPACEBAR_Hero_9e25732095.jpg

‘ไทย’ จ่อออกหมายจับ 'หม่องชิตตู - 2 ผู้นำกองกำลัง BGF’ ฐานค้ามนุษย์

ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)ว่า วันนี้ (11ก.พ.) เวลา 14.00 น. คณะเจ้าหน้าที่ดีเอสไอจะนำพยานหลักฐาน พยานเอกสารในคดีค้ามนุษย์ เข้าพบพนักงานอัยการ สำนักงานคดีค้ามนุษย์ สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อหารือในประเด็นข้อกฎหมายการออกหมายจับผู้ต้องหา ซึ่งเป็นผู้นำกองกำลัง BGF หรือผู้นำกองกำลังกะเหรี่ยง กองกำลังสำคัญที่ปกครองเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา ว่า ทางรองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีค้ามนุษย์จะมีความเห็นชอบอย่างไรหรือไม่ เมื่อได้พิจารณาพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีในส่วนของบุคคลที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีความผิดนอกราชอาณาจักร ซึ่งอัยการจะเป็นคนควบคุมการสอบสวน 

โดยพฤติการณ์ที่ดีเอสไอจะนำหารือกับรองอธิบดีอัยการฯนั้น เนื่องด้วยเป็นกรณีที่กลุ่มผู้ต้องหามีการนำชาวอินเดียไปทำการค้ามนุษย์ บังคับทำแก๊งคอลเซนเตอร์ ที่ บ่อนเฮงเชง จ.เมียวดี ประเทศเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก แต่ทางเราได้ช่วยกลับมาได้ จึงทำให้เราต้องพิจารณาดำเนินคดีว่าขบวนการดังกล่าวเกี่ยวข้องกับใครบ้าง

รายงานจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เผยต่อว่า สำหรับผู้เสียหายของขบวนการดังกล่าวเป็นชาวอินเดียทั้งสิ้น 7 ราย โดยประเทศไทยถูกใช้เป็นทางผ่าน คล้ายกรณีของนักแสดงชายชาวจีน 'ซิง ซิง' ดาราจีน ก่อนหน้านี้

ส่วนจะมีชาวไทยเกี่ยวข้องหรือไม่ ยืนยันว่า มีแน่นอนประมาณ 2 ราย  (โดยมีคนไทยอยู่ในบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งให้บริการจัดทำรีสอร์ททั้งในไทย แต่ในจ.เมียวดี มีสถานะเป็นกรรมการบริษัท และพนักงานบริษัท)

ทั้งนี้จะมีการเสนอขอออกหมายจับเบื้องต้น 3 ราย ประกอบด้วย 1.พันเอก ซอชิตตู่ (Colonel Saw Chit Thu) หรือพันเอก หม่องชิตตู 2.พันโท โมเต โธน (Lieutenant Colonel Mote Thone) และ 3.พันตรี ทิน วิน Tin Win (Major Tin Win) รวมถึงยังมีในส่วนของเจ้าของบ่อนเฮงเชงด้วย ส่วนเลขคดีพิเศษสำหรับสำนวนดังกล่าวนี้คือ คดีพิเศษที่ 304/2565

รมว.ยุติธรรม เล็งขยายผล ‘คดีฟอกเงิน-ยึดทรัพย์’

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ว่า เป็นคดีเก่าหลายปีมาแล้ว ที่คนไทยโดนกักตัวในประเทศเพื่อนบ้าน และได้มีการสอบสวนพบว่าเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ โดยนอกจาก 3 รายชื่อนี้แล้ว ยังมีคนต่างชาติด้วย 

ส่วนรายชื่อคนกลุ่มนี้ตรงกับรายชื่อที่ หลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและสาธารณะ สาธารณรัฐประชาชนจีน ส่งข้อมูลมาให้ใช่หรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ไม่ใช่ แต่เป็นหลักฐานของดีเอสไอ ซึ่งดำเนินการอยู่แล้ว แต่ในระหว่างนั้นต้องการให้เกิดความรอบคอบ เพราะเป็นบุคคลสำคัญที่ถูกกล่าวถึงในสังคม จึงให้ ป.ป.ส. และอีกหลายหน่วยงาน ได้รวบรวมข้อมูล ซึ่งการทำคดีมีระยะเวลาในการดำเนินการ แต่เนื่องจากเป็นคดีที่เกิดนอกราชอาณาจักร ต้องสอบสวนร่วมกับอัยการ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบ จึงต้องหารือร่วมกันว่าจะออกหมายจับใครบ้าง

สำหรับเรื่องนี้เกิดขึ้นในห้วงที่มีการปราบแก๊งคอลเซนเตอร์ และ ผู้นำกองกำลัง BGF ก็อยู่ในพื้นที่ เกี่ยวโยงการใช่หรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เราดำเนินการไม่ได้ดูสถานการณ์ แต่ดำเนินการตามหลักฐาน เพราะพนักงานสอบสวนและดีเอสไอ นอกจากพัฒนาการความเชี่ยวชาญแล้ว ต้องมีความเป็นธรรมไม่อคติ และดำเนินการด้วยความรวดเร็ว

ส่วนจะนำคดีนี้ไปเชื่อมโยงกับคดีใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นหรือไม่นั้น พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ต้องมีพยานหลักฐานเป็นองค์ประกอบ แต่คดีเก่ามีผู้เสียหายชัดเจน ส่วนขั้นตอนหลังจากนี้จะมีการขยายผลไปยังคดีฟอกเงิน และยึดทรัพย์ ซึ่งเราจะทำอย่างตรงไปตรงมา และหลังจากมีความคืบหน้าในการพูดคุยระหว่างอัยการกับพนักงานสอบสวน ก็จะให้อธิบดีดีเอสไอเป็นผู้แถลงข่าว

เมื่อถามว่า ต้องมีการประสานไปยังรัฐบาลเมียนมา เพื่อขอตัวผู้ที่ถูกออกหมายจับใช่หรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า โดยหลักแล้วต้องมีการจับกุมก่อน และประสานความร่วมมือ เนื่องจากความผิดค้ามนุษย์เป็นอาชญากรรมข้ามชาติของกลุ่มประเทศอาเซียน คงไม่มีประเทศใดช่วยเหลือผู้กระทำผิด

ส่วนจะใช้ความร่วมมือของกลุ่มอาเซียนในการส่งตัว หม่องชิตตู และผู้ที่ออกหมายจับทั้งหมดใช่หรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ถือเป็นช่องทางการประสานงาน

เมื่อถามย้ำว่ามีกลุ่มคนจีนถูกออกหมายจับด้วยหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี ยอมรับว่า มี และยืนยันว่าเราได้รับการประสานงานอย่างใกล้ชิด ซึ่งเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ได้เดินทางมาพบผม เรื่องการฉ้อโกง เพราะคนของเขาก็ตกเป็นเหยื่อเช่นกัน ขณะเดียวกันเอกอัครราชทูตจีน ก็มาพบ ซึ่งเราเห็นว่าเป็นภัยพิบัติของมนุษยชาติ มีประชาชนทุกคนตกเป็นเป้าการหลอกลวง 

โดยศูนย์กลางยังระบุว่าเป็นพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ รวมถึงยาเสพติดด้วย ซึ่งเรื่องเหล่านี้มีผู้กระทำผิด ไม่ว่าจะเป็นใครเราต้องพิสูจน์ให้ชัดเจน โดยเฉพาะเส้นทางการเงิน ในหลายเรื่องต้องมีการบูรณาการการทำงานอย่างใกล้ชิด

พ.ต.อ.ทวี กล่าวต่อว่า เรื่องนี้ไม่ได้พูดคุยกับ หลิว จงอี รอข้อมูลของดีเอสไอมีมากกว่า แต่ไม่ขอระบุจำนวนว่ามีกี่คนที่ถูกออกหมายจับ ให้เป็นเรื่องของอัยการและพนักงานสอบสวน ว่าพยานหลักฐานที่มีอยู่เพียงพอออกหมายจับหรือไม่ ทางไปเพียงพอจะไปรวบรวมที่อื่นอีกหรือไม่ 

พร้อมย้ำว่าคดีนี้เกิดขึ้นนานแล้ว แต่ขณะนั้นมีการระบุถึงผู้บงการ ผู้ใช้ ผู้จ้างวาน หรือคนอยู่เบื้องหลัง ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องทำ ไม่เช่นนั้นเพียงแค่นำเอาคนที่เป็นแรงงานมาดำเนินการ เป็นแค่เพียงปลายทาง ก็จะไม่สามารถจัดการต้นตอได้

ส่วนจะมีการนำตัว หม่องชิตตู และผู้ถูกออกหมายจับ มาได้อย่างไร เพราะรัฐบาลเมียนมาควบคุมพื้นที่ชนกลุ่มน้อยไม่ได้ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เราจะประสานความร่วมมือในอาเซียนและจีน ซึ่งพื้นที่ที่ชนกลุ่มน้อยอยู่ ก็ถือเป็นประเทศเมียนมา แต่ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทุกคน พร้อมย้ำว่าการจับตัวคนเหล่านี้ไม่ยาก อยู่ที่เจตจำนงของผู้นำว่าจะเอาหรือไม่เอา จะช่วยหรือไม่ช่วย หากเห็นว่าเรื่องนี้เป็นภัยกับทุกประเทศก็ต้องช่วยกัน

เมื่อถามว่า มีโอกาสจะได้เห็นการปฏิบัติการร่วมกันแล้วเข้าไปจับกุมผู้ที่ถูกออกหมายจับใช่หรือไม่ พ.ต.อ.ทวี ตอบเพียงว่า รัฐบาลไทยมีความจริงจัง

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์