‘ภท.’ จองเวร ‘ณฐพร’ บี้ ‘ดีเอสไอ’ ออกหมายจับ จี้ ‘รมต.’ ผู้กำกับดูแลดีเอสไอจะนิ่งเฉยไม่ได้

28 พ.ค. 2568 - 05:02

  • ทีมกฎหมายภูมิใจไทย ตามจองเวร ‘ณฐพร’ รายวัน! บี้ ‘ดีเอสไอ’ ออกหมายจับคดีฟอกเงิน ส.คลองจั่น ลั่นอย่าปล่อยหมดอายุความ

  • ม จี้ ‘รมต.’ ผู้กำกับดูแลดีเอสไอจะนิ่งเฉยไม่ได้ ชี้พบพิรุธซุกหมายไม่ปรากฎชื่อในกองทะเบียนประวัติอาชญากร

‘ภท.’ จองเวร ‘ณฐพร’ บี้ ‘ดีเอสไอ’ ออกหมายจับ จี้ ‘รมต.’ ผู้กำกับดูแลดีเอสไอจะนิ่งเฉยไม่ได้

อาจเรียกได้ว่าเป็นการจองเวรรายวัน เมื่อ ทีมกฎหมายพรรคภูมิใจไทย ออกมาตอบโต้และบี้เอาผิด ณฐพร โตประยูร อดีตที่ปึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ผู้ที่ยื่นยุบพรรคภูมิใจไทย โดยกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการฮั้ว สว. 

ล่าสุดวันนี้ (28 พ.ค.) ศุภชัย ใจสมุทร ทีมกฎหมายพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า กรณีที่ ณฐพร โตประยูร อดีตที่ปึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ผู้ต้องหาคดีฟอกเงินฟอกเงิน ออกมาโต้ว่าไม่เคยถูกออกหมายจับ เพราะคดีต้องรอผลคดีหลักก่อน ความจริงคดีดังกล่าวที่อ้างถึงศาลได้พิพากษาลงโทษ  ภายหลังจากดำเนินการติดตามการสอบสวนในคดีฟอกเงิน 

พบว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้เสนอสำนวนการสอบสวนไปยังสำนักงานอัยการมาตั้งแต่วันที่ 13 พฤศจิกายน 2560 และ พนักงานอัยการได้มีความเห็นสั่งฟ้องณฐพร เป็น 1ใน 14 ผู้ถูกกล่าวหาคดี ฟอกเงินการขายที่ดิน ของ ศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น วงเงิน477 ล้านบาท 

แต่ ณฐพร ผู้ต้องหาดังกล่าว มีพฤติการณ์หลีกเลี่ยงการไปพบพนักงานอัยการเป็นเวลาหลายปี จนสำนักงานอัยการสูงสุดต้องมีหนังสือถึงดีเอสไอถึง 2 ครั้ง ให้ส่งตัวผู้ต้องหา หรือออกหมายจับ นำตัวมาฟ้องศาล  ซึ่งดีเอสไอก็มิได้ดำเนินการใด เพื่อส่งตัวมาให้อัยการเพื่อฟ้องคดีต่อศาลอาญา 

ศุภชัย ใจสมุทร ยังระบุว่า คดีนี้อยู่ในความรับผิดชอบของ ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สายตรงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่ง เมื่อดูความน่าจะเป็นเชื่อได้ว่าพนักงานสอบสวนไม่ได้ดำเนินการตามหนังสือจากอัยการที่แจ้งให้ติดตามตัวมาเพื่อฟ้องต่อศาล และไม่ออกหมายจับและประกาศลงระบบเพื่อสืบจับ จึงไม่มีหมายจับส่งไปประสานกับกองทะเบียนประวัติอาชญากร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เหตุผลก็เพื่อช่วยผู้ต้องหาโดยดึงเวลาเพื่อให้หมดอายุความในวันที่ 15 มิถุนายน 2568 หรือไม่ 

“ด้วยพฤติการณ์ของนายณฐพรที่เกิดขึ้น ดีเอสไอต้องออกหมายจับและจับตัวผู้ต้องหาส่งอัยการเพื่อฟ้องศาลก่อนหมดอายุความเท่านั้น แต่หากจะเป็นออกหมายเรียก ก็ถือได้ว่าดีเอสไอปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบ และเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ต้องหาและกระทบต่อกระบวนการยุติธรรมของไทยอย่างร้ายแรง ดีเอสไอ เป็นหน่วยงานสอบสวนที่สำคัญที่เป็นที่พึ่งของประชาชน หากมีพฤติกรรมเช่นนี้เกิดขึ้น จะเชื่อมั่นได้อย่างไรว่าจะไม่เกิดขึ้นกับคดีอื่นๆอีก”

ศุภชัย กล่าว

ศุภชัย ใจสมุทร ย้ำว่า สิ่งที่ทำ เป็นการทำเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของสมาชิกและสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นและผดุงไว้ซึ่งกระบวนการยุติธรรมของประเทศให้ธำรงไว้ รัฐมนตรีผู้กำกับดูแลหน่วยงานดีเอสไอจะนิ่งเฉยไม่ได้ เพราะเห็นได้ว่า พ.ต.อ.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ และพนักงานสอบสวนคดีนี้ ปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เนื่องจากความผิดสำเร็จแล้วตั้งแต่เดือนกพ.68 หลังอัยการทำหนังสือ มาขอให้จัดการให้ได้ตัวผู้ต้องหาแต่เพิกเฉย 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์