‘แนน บุณย์ธิดา สมชัย’ สส.อุบลราชธานี โฆษกพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมกรณีญัตติการขอเปิดอภิปรายไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ของพรรคภูมิใจไทย ที่ขณะนี้ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้วว่า การรวบรวมเสียงในการเข้าชื่อยื่นญัตติกำลังประสานพรรคร่วมฝ่ายค้านเพื่อให้ได้ 99 เสียง โดยในวันที่ 2 ก.ค.นี้ จะมีการหารืออย่างเป็นทางการกับคณะกรรมการพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน) ส่วนจังหวะเวลาการอภิปรายฯ นั้นพรรคภูมิใจไทยไม่ได้มองว่าจะอภิปรายได้กี่ครั้ง หรือช่วงเวลาไหนเป็นอย่างไร
แต่เห็นว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมาการไว้วางใจของประชาชนคนไทยทุกคน ที่รับฟังข้อมูลข้อความในคลิปเสียงที่ผ่านมาเกือบ 1 เดือนแล้ว ทุกอย่างตกผลึกไม่มีเวลาไหนเหมาะไปมากกว่าเวลานี้ สำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ขณะเดียวกันหากนายกฯ จะใช้วิธีเลี่ยงโดยการไม่ตอบจะทำให้พี่น้องประชาชนเกิดความสับสน เหมือนกับว่าเราไม่เข้าใจสักทีว่าประเด็นคืออะไรกันแน่ แล้วจะมีการเบี่ยงประเด็นไปเรื่อยเรื่อย เพราะฉะนั้นประเด็นที่จะโฟกัสมากที่สุดคือเนื้อหาที่เกิดขึ้นในคลิปเสียงหลุดวันนั้น
ขณะที่ ‘ภราดร ปริศนานันทกุล’ สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย โพสต์ข้อความระบุว่า ผมไม่ขัดข้องกับแนวทางพรรคประชาชนที่เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรียุบสภาคืนอำนาจให้พี่น้องประชาชนได้เลือกผู้นำคนใหม่ ส่วนตัวผมพร้อมลงสู่สนามเลือกตั้ง และผมเชื่อว่าพรรคภูมิใจไทยก็พร้อมเช่นกัน
แต่ต้องไม่ลืมว่าหลังการประกาศยุบสภาจนกระทั่งถึงวันที่ได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ช่วงเวลานี้อาจจะทอดยาวถึง 4-6เดือน (นายกลุงตู่ประกาศยุบสภา 20 มีนาคม 2566 กว่าจะได้นายกเศรษฐา 22 สิงหาคม 2566)
ช่วงเวลารักษาการนี่ละคือหัวเลี้ยวหัวต่อการเมืองไทยอย่างแท้จริง นายกรัฐมนตรี ที่สังคมบอกว่าขาดความชอบธรรม ที่ไม่ได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนอีกต่อไปแล้ว จะยังคงต้องทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีต่อไปอีก 4-6 เดือน นี่จึงเป็นสุญญากาศการเมืองที่ต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วนว่าสังคมต้องการเช่นนั้นหรือไม่
#คิดให้ดีสหายทั้งหลาย