‘ภูมิธรรม เวชยชัย’ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการชุมนุมของกลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. ที่มีการปราศรัยในลักษณะปลุกกระแสเรื่องรัฐประหาร ว่า เรื่องการรัฐประหารพยายามให้ตายก็ยากที่จะเกิดขึ้น เท่าที่อยู่กระทรวงกลาโหมและได้พูดคุยผู้บังคับบัญชาส่วนต่างๆ ผู้บัญชาการทั้ง 4 เหล่าทัพ ก็ยืนยันว่า วันนี้ประเทศวิกฤติ อยากจะช่วยให้ผ่านพ้นไปได้
ดังนั้น เรื่องนี้ไม่ได้อยู่ในความคิดคำนึงของนายทหารชั้นผู้ใหญ่เลย วันนี้เขาอยากให้เราแก้ปัญหานี้ได้ทั้งหมด ตนคิดว่าการชุมนุมเป็นสิทธิที่กระทำได้ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญ อะไรที่เป็นข้อเสนอที่ดีเราพร้อมรับฟัง แต่อะไรที่เป็นข้อเสนอที่เป็นปัญหาต่อระบบการเมืองและกฎหมายก็จะพิจารณาต่อไป ตนคิดว่า สิ่งที่กำลังทำอยู่หรือยกระดับมันไม่ได้มีประโยชน์อะไร วันนี้กระบวนการเริ่มแล้ว เราได้ยื่นทูลเกล้าฯขอปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้เดินหน้าไปให้ได้ และเรากำลังทำอีกหลายอย่าง
เพราะฉะนั้น อย่ามาใช้วิธีแบบเดิม จะตามไปขัดขวางหรือทำอะไรมันไม่ควรทำ เคยทำมาแล้วและมันเสียหายมา 10 ปีแล้ว ตั้งแต่ม็อบ กปปส. หลายคนแม้กระทั่งที่อยู่บนเวทีนี้ก็ยังมีคดีอยู่ ศาลได้ตัดสินไปแล้วบางส่วน แม้คดียังไม่ถึงที่สุดว่า กระบวนการที่ทำมาทำไม่ได้ ถ้ายังยืนยันทำอยู่ก็คงต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากการประเมินกลุ่มผู้ชุมนุม การกลับมาของ ‘สนธิ ลิ้มทองกุล’ อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย น่ากังวลหรือไม่ เพราะเขาประกาศว่า เคยขับไล่พ่อนายกฯมาแล้ว ภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นคนละเรื่อง คนละขั้นตอนกัน ไม่สามารถเอามาอ้างอิงได้ และอย่างที่ตนบอกว่า เขายังมีคดีอยู่ ฉะนั้น จะมาหวังให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเพื่อจะมาแก้ไขปัญหาในคดีต่างๆ ทำไม่ได้อยู่แล้ว เพราะกระบวนการดำเนินไปแล้ว
เมื่อถามว่า เรื่องนี้สอดรับกับผลสำรวจของนิด้าโพล ที่ลำดับความนิยมของ ‘แพทองธาร ชินวัตร’ นายกรัฐมนตรี ตกไปอยู่อันดับที่ 5 หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ผลโพลมันขึ้น ๆ ลง ๆ ตามช่วงเวลา ที่สุดแล้วประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินในวันที่มีการเลือกตั้ง วันนี้รัฐบาลยังเดินหน้าทำเต็มที่ สิ่งที่มีใครพยายามขัดขวาง สร้างเงื่อนไข พยายามทำเพื่อประโยชน์ส่วนตน ประชาชนจะค่อยๆ พิจารณา
เมื่อถามถึงกระแสข่าว ‘แพทองธาร’ จะควบ รมว.วัฒนธรรม เพื่อรองรับกรณีศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่โปรดเกล้าฯ รู้ได้อย่างไรว่า จะไปอยู่กระทรวงวัฒนธรรมหรือไม่ เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่า อาจเป็นในลักษณะเดียวกับสมัย ‘พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา’ ที่ถูกหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ แต่ยังทำหน้าที่ รมว.กลาโหมได้ ภูมิธรรม กล่าวว่า อย่าไปจินตนาการ รอให้โปรดเกล้าฯลงมาแล้วมาวิพากษ์วิจารณ์กัน
‘ไทย’ ไม่เคยขอเปิดด่าน รบ.พยายามให้ 2 ปท.ไม่เดือดร้อน
นอกจากนี้ ‘ภูมิธรรม’ ได้กล่าวถึงกรณีที่มีการเปิดเอกสารของกองกำลังบูรพาให้เปิด 3 ด่าน ผ่อนผันให้รถขนส่งสินค้าตกค้างกลับเข้าประเทศ แต่ทางฝั่งกัมพูชาได้ปฏิเสธการเปิดด่านดังกล่าว ว่า ไทยไม่เคยขอเปิดด่าน และที่ผ่านมาไม่เคยปิด การเปิดปิดด่านฝั่งไทย ณ ปัจจุบัน ยังอยู่ในขั้นตอน 1-2 คือ การกำหนดเวลาและควบคุมสินค้า ซึ่งตามด่านปัจจุบันไทยยังไม่ได้ปิดล็อค แต่ต้องการช่วยเหลือเรื่องของการค้าชายแดน ความมุ่งหวังของรัฐบาลต้องการให้เกิดสันติวิธี และพยายามที่จะให้เกิดการเจรจาของทั้งสองฝ่าย โดยถือเป็นจุดยืนมาตั้งแต่ต้น ซึ่งวิถีชีวิตขณะนี้ รัฐบาลพยายามทำให้ทั้งสองประเทศไม่ได้รับความเดือดร้อน และจะให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม อาทิ เรื่องการศึกษาและการรักษาพยาบาล
ภูมิธรรม กล่าวว่า ขณะนี้เรื่องที่ฝั่งกัมพูชาพูด อยากให้ทุกคนระมัดระวัง และรับฟังอย่างมีสติ เพราะเขากำลังแก้ไขปัญหาภายในประเทศเขา ซึ่งไม่เกี่ยวกับเรา ไทยชัดเจนและยืนยันว่า ไม่ยอมรับเขตอำนาจศาลโลก หากเป็นเรื่องอื่นยังคงยืนยันตามกระบวนการ เรื่องของเอกสารการเปิดปิดด่านของกองกำลังบูรพาดังกล่าว เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.กองทัพบกได้ออกมาชี้แจงแล้ว และการที่ทางกัมพูชาไม่เปิดด่านให้รถบรรทุกสินค้าข้ามมาฝั่งไทยนั้น ไม่ได้กระทบอะไร แต่สิ่งที่รัฐบาลพยายามกระทำคือ การลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้น หากสามารถผ่อนปรนไม่ให้เกิดวิกฤต และประชาชนได้รับผลประโยชน์ก็จะดำเนินการ แต่หากฝั่งกัมพูชาไม่ดำเนินการถือว่าเป็นเรื่องของเขา ประชาชนชาวกัมพูชาต้องไปพิจารณาเอา