ร่างไร้วิญญาณของแรงงานไทยที่เสียชีวิตจากเหตุความไม่สงบในอิสราเอล และผ่านการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลชุดแรก จำนวน 8 ศพ ถูกลำเลียงถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ด้วยเครื่องบินของสายการบิน EL AL Israel Airlines เที่ยวบินที่ LY083 โดยมีการประกอบพิธีไว้อาลัยบริเวณอาคารสำนักงานเขตปลอดอากร
ซึ่งรัฐบาล โดยระทรวงแรงงานและกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วย ออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลประจำประเทศไทย ได้มาร่วมรับร่างผู้เสียชีวิตและให้กำลังใจครอบครัวผู้เคราะห์ร้าย ท่ามกลางบรรยากาศโศกสลดของญาติๆ ที่มารอผู้เป็นที่รักคืนสู่มาตุภูมิ
ก่อนที่รถตู้ 8 คัน ของทางสุริยาหีบศพ คลองหลวง (บริษัท สุริยา ฟิวเนอรัล จำกัด) ได้ทำการเคลื่อนร่างบรรดาผู้เสียชีวิตแยกย้ายกลับภูมิลำเนา เพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนา
วงเดือน ล้ำเลิศ ชาวจังหวัดนครราชสีมา น้าของ อานันท์ เพชรแก้ว 1 ในผู้เสียชีวิต เล่าด้วยความเสียใจว่า ส่วนตัวของหลานชายไม่ค่อยเล่นโซเชียลมีเดีย และหลังเกิดเหตุรุนแรงก็ไม่สามารถติดต่อได้
“เจ้าหน้าที่พบหลานชายเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม แต่ไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย เพราะที่ผ่านมาไม่มีรายชื่อในบุคคลสูญหาย แต่เมื่อรู้ว่าต้องมารับร่างที่สนามบิน วินาทีนั้น ช็อกมาก เป็น 10 วันที่ครอบครัวช่วยกันตามหา เพราะไม่มีชื่อว่าคนของเราเสียชีวิตตั้งแต่แรก”
สำหรับร่างผู้เสียชีวิตชุดแรกที่ลำเลียงถึงไทย มีดังนี้
- นายพงษธร ขุนศรี จ.นครราชสีมา
- นายพิชิต นาจันทร์ จ.ขอนแก่น
- นายชัยรัตน์ สานุสันต์ จ.อุดรธานี
- นายอานันต์ เพชรแก้ว จ.ชัยภูมิ
- นายพงษ์พัฒน์ สุชาติ จ.ศรีสะเกษ
- นายอนุชา โสภากุล จ.อุดรธานี
- นายพงษ์เทพ กุสะรัมย์ จ.ขอนแก่น
- นายธนกฤจฒ์ ปรากฎวงษ์ จ.สุโขทัย
‘อิสราเอล’ จ่ายเงินชดเชยภรรยาผู้เสียชีวิต 4 หมื่นบาททุกเดือน จนกว่าแต่งงานใหม่ ส่วนบุตรรับเดือนละ 8,000-12,000 บาท จนกว่าครบ 18 ปี
ในส่วนของการช่วยเหลือเยียวยานั้น ไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน ชี้แจงว่า หลังจากส่งร่างไปยังภูมิลำเนาแล้ว ทางสำนักงานแรงงานประจำจังหวัด จะไปเยี่ยมบ้านของผู้เสียชีวิตเพื่อชี้แจงเรื่องเอกสารที่จะยื่นขอรับเงินชดเชยกรณีเสียชีวิต จากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ โดยกรณีเสียชีวิต จะได้ค่าชดเชยรายละ 40,000 บาท และค่าทำศพอีก 40,000 บาท
จากนั้น กระทรวงแรงงาน จะเร่งประสานไปยังทางการอิสราเอล เพื่อทำเรื่องขอรับเงินชดเชยให้กับแรงงาน โดยกรณีเสียชีวิต ภรรยาจะได้รับเงินเดือนละ 40,000 บาท จนกว่าจะมีการสมรสใหม่ และบุตรจะได้รับเดือนละ 8,000-12,000 บาท จนอายุครบ 18 ปี
ยอดผู้เสียชีวิตยังอยู่ที่ 30 ราย-บาดเจ็บ 16 ราย แจ้งความประสงค์กลับไทยแล้ว 8,389 ราย ส่วน 22 ต.ค. ย้ายศูนย์บัญชาการช่วยเหลือคนไทยมาอยู่ ‘ดูไบ’
ขณะเดียวกัน เนื่องจากสถานการณ์ที่อาจจะเกิดความรุนแรงมากขึ้น ในวันที่ 22 ตุลาคมนี้ เจ้าหน้าที่จากกระทรวงแรงงานจะย้ายศูนย์บัญชาการช่วยเหลือคนไทยมาอยู่ที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จากนั้น จะมีการทยอยพาแรงงานมาต่อเครื่องบินที่ดูไบ ก่อนเดินทางกลับประเทศไทย
สำหรับข้อมูลแรงงานไทยที่เสียชีวิต ยังอยู่ที่ 30 ราย, บาดเจ็บ 16 ราย และมีแรงงานแจ้งความประสงค์เดินทางกลับไทยแล้ว 8,389 ราย ที่เดินทางกลับมาแล้วสะสม 1,560 ราย โดยในวันนี้จะมี 2 เที่ยวบินเข้ามาอีก รวมกัน 540 ราย
