วันนี้เป็นวันที่ 2 ที่สำนักงานเลขาธิการรัฐสภาเปิดให้ให้ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ใหม่ เข้ามารายงานตัว หลัง กกต. ได้ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ
หนึ่งในผู้ที่เดินทางมารายงานตัววันนี้ คือ บุญส่ง น้อยโสภณ อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดใจกับสื่อหลังเข้ารายงานตัวเสร็จสิ้นแล้วว่า ในฐานะที่เคยเป็นผู้พิพากษา มาจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อีกทั้ง 5 ปี ที่ผ่านมาได้เป็นที่ปรึกษา ศุภชัย สมเจริญ อดีตรองประธานวุฒิสภา คนที่ 2 จึงเข้าใจบทบาทอำนาจหน้าที่ของ สว.ดี
พร้อมแสดงความ ยินดีกับ สว. ใหม่ 200 คน ซึ่งเป็น สว.ชุดที่ 13 ว่า เป็น ลัคกี่นัมเบอร์ (Lucky number) และหวังว่า สว.ชุดนี้จะอยู่ครบ 5 ปี ยืนยันจะทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาตามที่กฎหมาย นอกจากนี้ส่วนตัวจะยึดหลักของความจงรักภักดี ต่อพระมหากษัตริย์ มีความซื่อสัตย์ สุจริตในการทำหน้าที่รวมถึงรับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่าย เป็นกลาง เพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชนเป็นหลัก
ส่วนที่มีชื่อชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภา สว.บุญส่ง มองว่าเป็นอำนาจของผู้เสนอชื่อ รวมถึงต้องเคารพสิทธิของสมาชิกทุกคน ที่จะเลือกคนเหมาะสมมาทำหน้าที่ ไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์คุณสมบัติของคนที่จะมาทำหน้าที่ประธานวุฒิสภา เพราะมองทุกคนในแง่บวก
แต่เมื่อถามย้ำว่าในฐานะที่เคยทำงานร่วมกับอดีตรองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 และมีข่าวถูกวางตัวไว้เป็น ประธานหรือรองประธานวุฒิสภามีความพร้อมหรือไม่ สว.บุญส่ง ตอบว่า พร้อมครับ เพราะมีส่วน ในการให้ความเห็นในการร่างกฎหมายต่างๆ รวมถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาก่อน

ส่วนผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานวุฒิสภาหรือรองประธานวุฒิสภา จำเป็นต้องรู้เรื่องกฎหมายหรือไม่ สว.บุญส่ง มองว่า ไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องกฎหมายก็ได้ เพราะระเบียบข้อบังคับการประชุมมีอยู่แล้ว แต่ต้องแม่นข้อบังคับเพราะตีความได้ยาก ดังนั้นประธานต้องเก่งและ ประนีประนอมได้ อย่าตัดบทในขณะที่สมาชิกอภิปราย ไม่เช่นนั้นจะทะเลาะกัน เนื่องจาก สว.มาจากหลากหลายกลุ่มการควบคุมก็จะยากขึ้น และเมื่อขึ้นทำหน้าที่ประธานจะมีเอกสารให้ดู จะมีเลขาฯ คอยส่งข้อมูลให้ ก็จะพูดตามนั้น แต่การควบคุมที่ประชุมก็อาจยากหน่อย เพราะ สว.มาจากหลายกลุ่ม
เมื่อถามถึงข้อครหาในกระบวนการเลือก สว.ชุดใหม่ นี้ สว.บุญส่ง ตอบว่า ส่วนตัวมองโลกในแง่บวก ความสัมพันธ์ของสมาชิกด้วยกันต้องมีความสมัครสมานสามัคคีกัน ไม่อยาก ให้มองในแง่ลบ อย่าไปด้อยค่าเพราะทุกคนมีสิทธิเสรีภาพในการเข้ามาทำหน้าที่ เมื่อเข้ามาแล้วก็ต้องทำตามที่กฎหมายกำหนด มิเช่นนั้นจะถูกร้องเรียนได้ ส่วนตัวเองในฐานะอดีตผู้พิพากษามองว่าผู้ที่ถูกร้องเรียนยังไม่ถือว่ามีความผิด จนกว่าจะประกาศผล
ส่วนกระแสข่าว สว. จับกลุ่ม ต่อรองผลประโยชน์ โดยมีพรรคการเมืองอยู่เบื้องหลัง สว.บุญส่ง ขอว่าอย่าพูดถึงนักการเมืองอยู่เบื้องหลัง ไม่ควรมองในแง่ลบ และความจริงพรรคการเมืองไม่ควรยุ่งเกี่ยว เพราะกฎหมายเขียนชัดเจน กรรมการการเลือกตั้งก็ได้มีการตรวจสอบ จึงขอปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ และต้องบอกว่าทุกคนถือเป็นผู้บริสุทธิ์ และส่วนตัวก็ไม่ได้สนใจข่าวที่ว่ามี สว.รวมกลุ่มเพื่อต่อรองผลประโยชน์