ทำเนียบรัฐบาล (6 สิงหาคม 2567) เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แถลงหลังเป็นประธานประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ครม.อนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอพิจารณาบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติการด้านยาเสพติดทั่งประเทศจากหน่วยงานต่างๆของปีงบประมาณ 2567 ไม่เกิน 13,047 อัตรา โดยใช้งบประมาณทั้งสิ้น 85.7 ล้านบาท เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ที่ทุ่มเทเสียสละ ซึ่งสอดคล้องกับวาระแห่งชาติที่รัฐบาลพยายามจะจัดการกับปัญหายาเสพติด
เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุม ครม.ว่า ที่ประชุม ครม.มีมติให้มีการพิจารณาบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 จำนวนไม่เกิน 13,047 อัตรา ใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2567 จำนวนทั้งสิ้น 85,718,790 บาท ของส่วนราชการต้นสังกัดในโอกาสแรกก่อน หากไม่สามารถดำเนินการได้ให้เบิกจ่ายจากงบกลาง รายการเงินเลื่อนเงินเดือนและปรับวุฒิข้าราชการเป็นลำดับต่อไป
โดยแบ่งเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดโดยตรง และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเกื้อกูลต่อการแก้ไขปัญหายาเสพติด ตามที่กระทวงยุติธรรม (ยธ.) เสนอ ดังนี้
1. บำเหน็จความชอบกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ในอัตราไม่เกินร้อยละ 2.5 ของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดโดยตรง จำนวน 372,658 อัตราคิดเป็นอัตราไม่เกิน 9,316 อัตรา
2. บำเหน็จความชอบกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ในอัตราไม่เกินร้อยละ 1.5 ของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเกื้อกูลต่อการแก้ไขปัญหายาเสพติดจำนวน 248,715 อัตรา คิดเป็นอัตราไม่เกิน 3,731 อัตรา
โดยการคำนวณกรอบโควตาบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ใช้วิธีการคำนวณจากจำนวนพลเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดเช่นเดียวกับปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 คือ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดประเภทโดยตรงในอัตราร้อยละ 2.5 คิดเป็นอัตราไม่เกิน 9,316 อัตรา และประเภทเกื้อกูลในอัตราร้อยละ 1.5 คิดเป็นอัตราไม่เกิน 3,731 อัตรา รวมทั้งสิ้น 13,047 อัตรา
รองโฆษกรัฐบาล กล่าวว่า กระทรวงยุติธรรมแจ้งว่าการพิจารณาบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 จะก่อให้เกิดประโยชน์แก่การดำเนินงานด้านยาเสพติดของประเทศไทยเนื่องจากเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ทุ่มเทและเสียสละในการปฏิบัติงานทั่วประเทศ โดยจะเป็นการส่งเสริมให้บุคลากรผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดมีแรงจูงใจและตั้งมั่นในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังและความสามารถในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดตามนโยบายรัฐบาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และจะส่งผลให้สังคมไทยปลอดภัยจากภัยคุกคามจากยาเสพติด
