Cabinet-Dinner-Paetongtarn-After-SPACEBAR-Photo00.jpg
Cabinet-Dinner-Paetongtarn-After-SPACEBAR-Photo01.jpg
Cabinet-Dinner-Paetongtarn-After-SPACEBAR-Photo02.jpg
Cabinet-Dinner-Paetongtarn-After-SPACEBAR-Photo03.jpg
Cabinet-Dinner-Paetongtarn-After-SPACEBAR-Photo04.jpg

Photo Story: ‘อิ๊งค์’ ปราการ ‘ทักษิณ’ กระชับอำนาจ ‘พรรคร่วมรัฐบาล’

21 ต.ค. 2567 - 17:54

  • ‘นายกฯอิ๊งค์’ ปราการ ‘ทักษิณ’ ไม่หวั่น กกต. สอบครอบงำพรรคยุบ 'เพื่อไทย-6พรรคร่วมเดิม' ชี้คนคุยกันไม่ใช่ครอบงำ แต่เป็นความสัมพันธ์ที่ดี กระชับอำนาจ ‘พรรคร่วมรัฐบาล’ เล็งคุยวงย่อย รายพรรค-รายกระทรวง ชี้บางเรื่องต้องลงเล็ก ลั่นไม่แก้ หมวด 1-2 ไม่แตะ ม.112

Cabinet-Dinner-Paetongtarn-After-SPACEBAR-Photo00.jpg
Cabinet-Dinner-Paetongtarn-After-SPACEBAR-Photo01.jpg
Cabinet-Dinner-Paetongtarn-After-SPACEBAR-Photo02.jpg
Cabinet-Dinner-Paetongtarn-After-SPACEBAR-Photo03.jpg
Cabinet-Dinner-Paetongtarn-After-SPACEBAR-Photo04.jpg

แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี  และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลและแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ที่ชั้น 5 ห้องจัดเลี้ยง The Pavilion โรงแรมโรสวูด เพื่อร่วมรับประทานอาหารค่ำ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของรัฐบาลชุดนี้  โดยพรรคเพื่อไทยเป็นเจ้าภาพ  

ภายหลังการร่วมรับประทานอาหาร 2 ชั่วโมง นายกฯ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อว่า บรยยากาศเป็นไปด้วยดี สบายๆ มีเรื่องที่ต้องหารือกัน โดยจะมีดินเนอร์เพื่อไม่ให้ห่างเกินไป ครั้งหน้าพรรคภูมิใจไทยจะเป็นเจ้าภาพ การพูดคุยวันนี้มีหลายเรื่องที่พรรคร่วมจะทำร่วมกัน ซึ่งหลังการประชุมเอเปค เกือน พ.ย.นี้ จะเชิญแต่ละกระทรวงมาพูดคุยกันโดยจะเป็นการนแยก 

ส่วนจุดยืนเรื่องนิรโทษกรรมของพรรคร่วมรัฐบาล นายกฯ กล่าวว่า มีที่เห็นตรงกันและไม่ตรงกันเป็นประชาธิปไตย แต่ทุกๆเรื่องก็สามารถตกลงและพูดคุยกันได้ ขอให้เป็นเรื่องของสภาฯว่ากันต่อไป ซึ่งประเด็นนิรโทษเนื้อความมีเซนซิทีฟ โดยเป็นเรื่องที่สภาฯและรัฐบาลแยกกัน คือเรื่องที่ไม่ต้องทะเลาะกัน 

สำหรับเรื่องนิรโทษกรรมและการแก้ รธน. จะต้องเป็นมติพรรคร่วมรัฐบาลหรือเป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละพรรคการเมือง นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่มีข้อสรุป ส่วนตัวได้พูดคุยว่าถ้ามีการแก้ไข รธน. แต่จะเว้นหมวด 1-2 เป็นสิ่งที่ตกลงกันไว้ จึงร่วมรัฐบาลกันได้ เป็นเรื่องที่เห็นพ้องกัน

เมื่อถามย้ำถึงจุดยืน มาตรา 112 เพื่อความเป็นเอกภาพของรัฐบาล นายกฯ กล่าวว่า “เราไม่แตะเรื่อง 112 อยู่แล้ว อันนี้พูดไปในทุกเวทีอยู่แล้ว”

นายกฯ กล่าวอีกว่า ยังไม่มีข้อสรุปเรื่องการแก้ไข รธน. ว่าจะทำอย่างไรบ้าง ซึ่งในรายละเอียดให้เป็นเรื่องของสภาฯไป สิ่งที่เราคุยกันเป็นเรื่องในกรอบว่าอยากทำอะไรบ้าง ลงไปแต่ละกระทรวงอยากจะพัฒนาประเทศอย่างไร ลงในรายละเอียด 

เมื่อถามว่าในการพบปะวันนี้มีการพูดคุยเรื่องกรณีมีบุคคลไปร้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ยุบพรรคเพื่อไทยและ 6 พรรคร่วมรัฐบาลเดิม กรณีคนนอกครอบงำพรรค นายกฯ กล่าวว่า ไม่ตรงกับข้อกล่าวหาใดๆ เพราะฉะนั้นก็ไม่มีใครใรความกังวลในเรื่องนี้  

เมื่อถามว่าได้ขอความร่วมมือพรรคร่วมรัฐบาลเรื่องใดบ้างๆ นายกฯ กล่าวว่า ขอไปหลายเรื่อง ที่เกี่ยวกับการทำงาน อยากให้ทุกคนคุยกัน โดยเฉพาะเรื่องการสื่อสาร ทั้งการสื่อสารกันเอง ใน ครม. ในพรรคร่วม และกับประชาชน ขอให้การสื่อสารลดกำแพงลง มีความง่ายมากขึ้น และคุยเรื่องคลายเครียด เรื่องตลกอื่นๆ และจะเชิญหัวหน้าพรรคและกระทรวงแยกมาพูดคุย ว่ามีใครอยากทำอะไรบ้าง 

เมื่อถามว่ามีการคุยเรื่องลบหรือไม่ เพื่อเป็นการติเพื่อก่อ นายกฯ กล่าวว่า เรื่องยากๆ ปัญหายากๆ คุยกันตั้งแต่เริ่มต้น เป็นเวทีที่จะคุยเรื่องละเอียดและเซนซิทีฟได้ เพราะเป็นห้องปิด คุยกันแน่นอนในทุกเรื่องและเรื่องใดที่ต้องคุยกันกลุ่มเล็กหรือเป็นคู่ก็จะเกิดขึ้น 

ทั้งนี้ แพทองธาร กล่าวเสริมกรณีจะแก้ข้อกล่าวหาอย่างไรกรณี 6 พรรคร่วมรัฐบาลเดินทางไปที่บ้านจันทร์ส่องหล้า และพร้อมที่จะเข้าชี้แจงต่อ กกต. หรือไม่ นายกฯ กล่าวย้ำว่า ทุกอย่างมันไม่ตรงกับข้อกล่าวหาอยู่แล้ว แต่ในทางกฎหมายก็ต้องให้ให้ความร่วมมือ แต่ก็ไม่มีอะไรที่จะต้องห่วง 

เมื่อถามว่า สรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทยให้สัมภาษณ์ ว่า ที่ถูกยื่นร้องเพราะเอาพรรคพลังประชารัฐออกจากพรรคร่วมรัฐบาล นายกรัฐมนตรี ทำหน้างง ก่อนจะหันหน้าไปหา สรวงศ์ แล้วถามผู้สื่อข่าวว่า “สรวงศ์ไหน ใช่ สรวงศ์นี้หรือเปล่าคะ”  

ก่อนที่ สรวงศ์ จะปฏิเสธว่า “ไม่น่าจะใช่สรวงศ์นี้นะครับที่ให้สัมภาษณ์แบบนั้น” พร้อมระบุด้วยว่า แต่จริงๆ แล้วเรื่องนี้อยู่ในคำร้องข้อ 5 ของเขา  

เมื่อถามว่าจากกรณีนี้พรรคร่วมรัฐบาลต้องออกห่างจาก ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อที่จะไม่ให้ถูกครหาครอบงำหรือไม่ นายกฯ ระบุว่า “ถ้าเราไปทานข้าวร่วมกัน จะเรียกว่าครอบงำเลยหรอ ยกตัวอย่างถ้าดิฉันทานข้าวกับอดีตนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน จะเป็นการครอบงำหรือเปล่า ไม่แน่ใจว่าความสัมพันธ์ที่ดี มันคือความสัมพันธ์ที่ดี ซึ่งไม่ใช่การครอบงำ”

“ซึ่งดิฉันเชื่อว่าหลายๆ ท่านในที่นี้รักเคารพคุณ ทักษิณ บางทีอาจไม่ใช่การคุยการเมืองเลยด้วยซ้ำ หรืออาจจะเป็นการคุยการเมืองแต่เป็นการเมืองเมื่อ 20 ปีที่แล้ว สมัยนั้นใครเป็นรัฐมนตรีสมัยแรก มันเป็นการคุยของคนที่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน มันเป็นเรื่องนั้นเป็นส่วนใหญ่” นายกฯ กล่าว

เมื่อถามว่ามีความมั่นใจ ในทีมกฎหมายและข้อต่อสู้ใช่หรือไม่ และจะไม่ทำให้ตนเองสะดุดเหมือนในรัฐบาลเศรษฐา นายกฯ กล่าวว่า “ทุกๆ คนมีความคิดเป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นพรรคอื่นๆ ก็ตาม หากโดนเรื่องใดๆ พรรคต้องมีกรรมการบริหารพรรค ต้องได้รับคำปรึกษากันก่อน ถ้าไม่มีความเห็นด้วยก็ครอบงำอะไรไม่ได้ทั้งสิ้น ในพรรคต้องคุยกันเองและตกลงกันเอง ฉะนั้นถ้าจะพูดว่าการติดต่อคุณทักษิณ ซึ่งวันนี้กลับมาอยู่เมืองไทยแล้วเป็นการครอบงำก็ต้องครอบงำไปทุกอย่างแล้ว ถ้าพูดถึงคุณทักษิณ แล้วเป็นการครอบงำมันก็ไม่ได้”

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์