‘ชาญชัย’ แนะ ‘ภูมิธรรม-เศรษฐา’ ตาม ‘ยิ่งลักษณ์’ กลับมารับโทษ

15 พ.ค. 2567 - 03:09

  • ‘ชาญชัย’ อดีต สส.ประชาธิปัตย์ แนะ ‘ภูมิธรรม-เศรษฐา’ ตามตัว ‘ยิ่งลักษณ์’ กลับมารับโทษคดีทุจริตจำนำข้าว ยุติปมข้าวค้างโกดัง

  • จี้อายัดทรัพย์สิน ‘ยิ่งลักษณ์’ มาชดเชยค่าเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าว ตามคำพิพากษาศาลฎีกา ชี้ไม่ทำระวังผิด ม.157

call_for_srettha_and_phumtham_to_bring_yingluck_back_to_face_punishment_SPACEBAR_Hero_18f28466f5.jpg

คดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวในสมัยรัฐบาลของ ‘ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร’ ที่ถูกรื้อฟื้นมาพร้อมกับข่าวที่ ‘ภูมิธรรม เวชยชัย’ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เตรียมเปิดประมูลข้าวค้างโกดัง 10 ปี จากโครงการดังกล่าว จนนำมาสู่การวิพากษ์วิจารณ์ถึงคุณภาพของข้าวที่ไม่มีประสิทธิภาพ

ล่าสุดวันนี้ (15 พ.ค.) มีความเห็นจาก ‘ชาญชัย อิสระเสนารักษ์’ อดีต สส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ ที่ออกมาเคลื่อนไหวในประเด็นนี้ โดยระบุว่า ข้าวล็อตสุดท้ายจำนวน 1.5 หมื่นตัน ที่มีการวิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมที่จะนำข้าวค้างโกดัง 10 ปีนี้ไปขาย เพราะจะส่งผลกระทบต่อระบบการค้าข้าว และทำลายชื่อเสียงของข้าวไทย จึงอยากขอย้อนถึงความเป็นมาของข้าวกองนี้ ที่เป็นเศษสุดท้ายของข้าวในโครงการรับจำนำข้าวว่า ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2560 คดีหมายเลขดำที่ อม. 22/ 2558  คดีหมายเลขแดงที่ อม.211/2560 และไม่ใช่เอกสารลับ สามารถเปิดเผยต่อสาธารณะชนได้

NEWS_SPACEBAR_5_5a86a69a1a.png

โดยสรุปสาระคำตัดสินของศาลฎีกาฯ ได้ว่า  ‘ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร’ ในฐานะนายกรัฐมนตรีเป็นผู้กำกับดูแล ต้องระงับยับยั้งหรือแก้ไขปัญหาโดยเฉพาะการทุจริตในขั้นตอนการระบายข้าว แต่จำเลยกลับมีพฤติการณ์ในการละเว้นหน้าที่ตามกฏหมาย ส่อแสดงเจตนาออกโดยแจ้งชัด อันเป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่นายบุญทรง กับพวกแสวงหาผลประโยชน์ จากโครงการรับจำนำข้าวโดยการแอบอ้างนำบริษัท GSSG และบริษัท Hainan grain เข้ามาทำสัญญาซื้อข้าวในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาดตามประกาศของกรมการค้าภายใน 

แล้วมีการหาประโยชน์ที่ทับซ้อนโดยทุจริตได้ค่าส่วนต่างจากราคาข้าวตามสัญญาซื้อขาย 4 ฉบับ อันเป็นการแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย  ก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบการเงินการคลังของประเทศและเกิดผลกระทบต่องบประมาณแผ่นดินโดยตรงโดยตรง ถือได้ว่าเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ในความหมายตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542  

ดังนั้น การกระทำของจำเลยคือ ‘ยิ่งลักษณ์’ จึงเป็นการละเว้น การปฎิบัติหน้าที่ในตำแหน่งโดยทุจริตเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่กระทรวงการคลัง ประเทศชาติ หรือผู้หนึ่งผู้ใด อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123 / 1  พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามกฎหมายดังกล่าว ให้จำคุก 5 ปี

‘ชาญชัย’ ย้ำเมื่อศาลฯ มีคำพิพากษาแล้ว จึงขอฝากถึง ‘ภูมิธรรม’ รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ช่วยไปตาม ‘ยิ่งลักษณ์’ กลับมาดำเนินการให้ถูกต้องตามกฏหมาย หรือภาษาชาวบ้านคือ เอามาเข้าคุก5 ปี ตามคำพิพากษาของศาล ไม่ใช่ไปช่วยยิ่งลักษณ์ 

นอกจากนี้ ‘ชาญชัย’ ยังบอกว่า เขาได้ทำหนังสือถึงภูมิธรรม พร้อมแนบคำพิพากษาของคดีนี้ไปให้ด้วย เพราะภูมิธรรมมีหน้าที่ตามกฎหมายที่ต้องไปยึดทรัพย์ของยิ่งลักษณ์ เพราะโดยหลักของ พ.ร.บ.การป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) ที่กำหนดมูลฐานความผิดตามมาตรา 3(5) ถือว่า ยิ่งลักษณ์ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ตามกฏหมายนี้และตามคำตัดสินของคดีนี้ คุณต้องไปยึดทรัพย์ยิ่งลักษณ์ ที่สร้างความเสียหายในโครงการดังกล่าวคืนให้แก่รัฐ ไม่ใช่ว่าเป็น รมว.พาณิชย์แล้ว กลับจะมาแก้ปัญหาให้กับคนที่ถูกศาลฎีกาฯ ตัดสินลงโทษไปแล้ว 

พร้อมกับจะส่งเรื่องนี้ไปให้ ‘เศรษฐา ทวีสิน’ นายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เป็นผู้บริหารสูงสุดของฝ่ายบริหาร รวมถึงคณะกรรมการ ป.ป.ช.ด้วย ที่ต้องยึดทรัพย์ยิ่งลักษณ์ตามคำพิพากษาศาล  

ย้ำเรื่องนี้ นายกฯเศรษฐา ต้องดำเนินการเพราะเป็นคดีอาญา ส่วนการที่ศาลปกครองกลางยกคำร้องกรณี ยิ่งลักษณ์ได้ฟ้องว่ามีการเรียกเก็บเงินค่าเสียหายในโครงการรับจำนำข้าวกว่า 3 หมื่นล้านบาทนั้น ถือว่าเป็นคนละเรื่องกัน เพราะกรณีค่าปรับที่ศาลปกครองกลางสั่ง เป็นคดีคำสั่งทางปกครอง   

แต่คดีที่ศาลฎีกานักการเมืองตัดสินจำคุกนี้  เข้าข่ายมูลฐานความผิดการฟอกเงินของกฎหมาย ป.ป.ง. ซึ่งคดีแบบนี้ โดย ‘ชาญชัย’ ยกคดีค่าโง่คลองด่าน ที่ศาลปกครองสูงสุดตัดสินสั่งให้รัฐ ต้องชดใช้เงินให้กับบริษัทเอกชนรวม 5 บริษัท มาอธิบายว่า สุดท้ายเราต่อสู้คดีโดยใช้ข้อเท็จจริงและกฎหมายการฟอกเงินของ ป.ป.ง.พิสูจน์ว่า มีการทุจริตเกิดขึ้นจริง ตั้งแต่เจ้าหน้าที่บริษัท โดยใช้กฎหมายฟอกเงินไปยึดอายัดทรัพย์ทั้งหมดกลับคืนมาเป็นของรัฐ รวมกว่า 9,000 ล้านบาท 

 จึงจำเป็นต้องอธิบายให้สังคมไทย รับทราบว่า วันนี้ต้องกลับไปยึดอายัดทรัพย์นยิ่งลักษณ์กลับมาคืนรัฐ  โดยภูมิธรรมที่เป็น รมว.พาณิชย์ มีหน้าที่ต้องทำ ซึ่งจะไปปรึกษากับน เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีให้ดีก็ได้ ซึ่งถ้าผมยื่นเรื่องไปแล้ว และหากพวกท่านไม่ทำอะไร ความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามมาตรา 157 ก็จะติดตัวท่านไปตลอดชีวิต

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์