หนึ่งในไฮไลท์การอภิปรายญัตติด่วนเพื่อขอให้รัฐบาลทบทวนมาตรการถวายความปลอดภัยของขบวนเสด็จฯ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ (14 ก.พ. 2567) คงหนีไม่พ้นช่วงที่ รังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นอภิปรายโดยใช้ภาพประกอบ เป็นภาพถ่ายแกนนำกลุ่มอาชีวะราชภักดี ร่วมเฟรมกับ ชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย พร้อมระบุข้อความบางส่วนว่า “พรุ่งนี้เจอปะทะไม่เจรจา ถ้า…ไม่พร้อม ทำดีไม่ได้ อย่าเนรคุณเจอกันพรุ่งนี้ ทะลุวัง ผู้ใหญ่ทีทรู้จักของดนะครับ”
รังสิมันต์ อ้างว่า เราเห็นสัญญาณที่ชัดเจนในการสร้างความหวาดกลัว กลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) มีการโพสต์ข้อความในโซเชียลฯ ระบุว่า จะเชือดไก่ให้ลิงดูเก็บคุณตะวัน (ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ แกนนำกลุ่มทะลุวัง) เป็นคนแรก ขู่ฆ่าน้องหยก (ธนลภย์ ผลัญชัย สมาชิกกลุ่มทะลุวัง) ที่อายุ 15 ปี หรือกลุ่มอาชีวะราชภักดีที่ขู่ว่า จะจัดการนายสายน้ำ (นภสินธุ์ ตรีรยาภิวัฒน์)
นี่คือกลุ่มคนที่จะนำความรุนแรง ความหวาดกลัวเข้ามาสู่สังคม ผ่านบุคคลสำคัญคือ ชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ที่มีการพูดถึงการเนรคุณแผ่นดิน พร้อมชี้ให้เห็นว่า การปลุกปั่นลักษณะนี้ทำให้สถานการณ์ร้ายแรงกว่าความเป็นจริงมาก และจะทำให้คนทั้งสังคมไม่รู้สึกปลอดภัย และเน้นย้ำว่า “สุดท้ายผีที่ท่านสร้างขึ้นมา ก็มาจากพวกท่านเอง”
ผู้นำของประเทศต้องห้ามปราม ไม่ให้คนฆ่าฟันกัน ตนพยายามดึงสติ หากความรุนแรงมันเกิดขึ้น สุดท้ายผู้ที่ใช้ความรุนแรงซึ่งวันนี้รู้สึกว่าใช้ความรุนแรงโดยที่ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร คนเขาจะหาว่ารัฐบาล คือผู้ที่อยู่เบื้องหลังกลุ่มคนเหล่านี้อย่าให้ไปถึงจุดนั้นเลย
รังสิมันต์ โรม
จากการอภิปรายดังกล่าว ทำให้ ชาดา ลุกขึ้นตอบโต้ รังสิมันต์ ด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวว่า ส่อเจตนาที่ไม่ดีไม่ดีอย่างมาก สร้างความแตกแยก คุณกำลังนำตนไปสู่สิ่งที่ไม่ถูกต้อง สร้างความเข้าใจผิดกับพี่น้องประชาชน พร้อมชี้ให้เห็นพฤติกรรมชี้จูงความคิดเยาวชนไปสู่ความรู้สึกของคนอกตัญญู มันไม่ใช่ความรู้สึกของคนที่ดี การกระทำอย่างนี้ไม่ถูกต้อง ไม่ใช่ลักษณะการอภิปรายเชิงสร้างสรรค์ ปากพูดบอกว่า ต้องการความสงบ ให้มองตั้งอยู่ตรงกลางแต่พฤติกรรมไม่ใช่ ตนอยู่ฟังตลอดเวลา เป็นการกระทำที่เสียหาย ประธานในที่ประชุมอนุญาตได้อย่างไร มีบุคคลแบบนี้ เสนอแบบนี้ อนุญาตได้อย่างไร ถ้าตนจะเสนอแบบนี้ จะมีปัญหาหรือไม่
ผมไม่อยากพูดว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม และไม่เกี่ยวกับญัตติ ประธานอนุญาตได้อย่างไร ประธานต้องมาขอโทษผม ว่าปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง ไม่ถูกต้อง และไม่เป็นกลาง การที่ท่านเอารูปบุคคลใดออกมาแล้วมีผม ผมไม่ฟ้องญัตตินี้เป็นเรื่องของขบวนเสด็จที่ทำร้ายจิตใจประชาชน แต่ท่านกำลังเอาเรื่องนอกประเด็น เอาเรื่องผลของกระทำมา ผมจะพูดให้ฟังเด็กกระทำผิดกฎหมายกี่ครั้งแล้ว ถ้าเป็นการแสดงออกด้วยหัวใจของคนไทยไม่มีปัญหา แต่มันมีขบวนการในประเทศนี้ที่จะล้มล้างบั่นทอน อย่าพูดว่าไม่มี ถ้าพูดแบบนี้ ทำกับผมแบบนี้ เดี๋ยวผมจะพูดให้หมด ผมไม่อยากจะพูด เพราะวันนี้หัวใจรักชาติของผมมันเต็มเปี่ยม แต่สิ่งที่ท่านทำมันไม่ใช่ความคิดสร้างสรรค์ แต่ปากบอกสร้างสรรค์ ปากบอกพัฒนา แต่สิ่งทำเมื่อกี๊นี้ ผมขออนุญาตบอกว่าเลวทรามมาก ในความรู้สึกผม
ชาดา ไทยเศรษฐ์
ชาดา ยังตั้งคำถามว่า ใครเป็นคนปล่อยภาพนี้ออกมา จึงขอถามประธานฯ อภิปรายอยู่ดีๆ สร้างปัญหาเอง อย่าพูดว่าไม่มีขบวนการล้มเจ้า มันมี ตนพร้อมไปพูดกับทุกคนที่ปกป้องสถาบัน แต่เขาจะเอาไปทำอะไร ตนไม่รู้ ตนไม่เกี่ยว มันคนละเรื่อง มันต้องมีสามัญสำนึกในการกระทำ อย่ามาพูดดูดีแต่ปฏิบัติไม่ดี เดี๋ยวตนจะลุกโต้ทุกคนที่พูด อย่ามาขัดแย้งและทำในสิ่งไม่ถูกต้องกับตน อย่ามาเล่นใต้ดินกับตน และเรียกร้องไม่ให้คนอื่นเล่นใต้ดิน
ดังนั้น ประธานต้องบอกว่า ใครอนุญาตให้นำรูปขึ้นสไลด์ ประธานในที่ประชุม หรือประธานรัฐสภา หรือเจ้าหน้าที่มีวิจารณญาณ มีสมองหรือไม่ เราชอบพอกัน ความคิดเห็นย่อมแตกต่าง ผมเข้าใจเมื่อวันที่ท่านไม่ได้เป็นนายกฯ แต่ผมไม่เคยสร้างความขัดแย้งกับพรรคการเมือง หรือนักการเมือง คิดต่างไม่เป็นไร แต่อย่ามาทำมือถือสากปากถือศีล
ชาดา ไทยเศรษฐ์
ทำให้ พิเชษฐ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่ 2 ซึ่งมารับช่วงทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ต่อจาก ปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯ คนที่ 1 ยอมรับที่ไม่ได้ดูจริงๆ ว่ามีการพาดพิง และมีการนำเสนอไปแบบนั้น แต่จะหาคำตอบให้ว่าอนุญาตได้อย่างไร ก็ขอให้ รังสิมันต์ อย่าตอบโต้ เพราะอีกฝ่ายคือผู้เสียหาย ต้องให้ชี้แจง
ขณะที่ รังสิมันต์ ระบุว่า ชาดา มีสิทธิ์ชี้แจง แต่ขอให้ใจเย็นๆ
ถ้าฟังการอภิปรายผมขึ้นรูป เราไม่ได้ปรักปรำว่านายชาดา ไปอยู่เบื้องหลัง แต่สิ่งที่ต้องบันทึกไว้ แน่นอนว่านายชาดา ไม่ได้อยู่เบื้องหลัง แต่ผู้ที่เขานำไปกระทำความรุนแรงต่างๆ ล่ะ
รังสิมันต์ โรม
รังสิมันต์ ยังขอให้ประธานที่ประชุม นำภาพดังกล่าวขึ้นสไลด์อีกครั้ง พร้อมระบุว่า ประโยคที่อยู่ในภาพไม่ใช่คำพูดของ ชาดา แต่เป็นประโยคของผู้ที่กระทำความรุนแรง
เขาอาจคิดด้วยซ้ำว่าเขาได้รับแบ็คอัพ (backup) ทั้งที่ความเป็นจริง อาจไม่มีคนอยู่เบื้องหลังก็ได้ ดังนั้น เรานักการเมืองทั้งหลายถูกโยงกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ จึงอยากให้มีสติ
รังสิมันต์ โรม
ทำให้ ชาดา ลุกขึ้นตอบโต้อีกครั้งว่า การกระทำมันบ่งบอกถึงเจตนาชัดเจน แต่คนที่พิจารณากฎหมายก็มีอยู่ คาดตา ปิดหน้าก็ได้ แต่อย่ามาบอกว่านักการเมืองถูกโยง เจตนาท่านบอกว่าตนอยู่เบื้องหลัง ถ้าตนอยู่เบื้องหลัง สนุกกว่านี้เยอะ
อย่าให้มีพฤติกรรมแบบนี้เกิดขึ้นในสภาฯ อีก ผมถือว่านายรังสิมันต์ ไม่ใช้สติในการพิจารณาการกระทำ ถ้ารับไม่ได้ก็ไปอยู่ประเทศอื่น คนไทยทุกคนยอมรับได้ จะรอซักเท่าไหร่ มีแผ่นดินอยู่ มีแผ่นดินคุ้มกะลาหัว
ชาดา ไทยเศรษฐ์