ผ่านมา ‘ครึ่งวาระ’ สำหรับ ‘ชัชชาติ สิทธิพันธุ์’ ในตำแหน่ง ‘ผู้ว่าฯ กทม.’ หลังได้รับ ‘เสียงโหวต’ มากเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ 1.3 ล้านเสียง กลายเป็น ‘ชัชชาติฟีเวอร์’ ถึงขั้นนำไป ‘ตีคู่บารมี’ ชิงนั่งนายกฯ ในยุคที่ ‘บิ๊กตู่’พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็น นายกฯ ช่วง 1 ปีสุดท้าย
พลังแห่ง ‘ความหวัง’ ที่ชาว กทม. มอบให้ ‘ชัชชาติ’ หลังไม่ได้เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. มาราว 9 ปี นับตั้งแต่ปี 2556 และ ‘ชัชชาติ’ ลงในนาม ‘อิสระ’ ให้ตรงพฤติกรรม ‘คนกรุง’ ในการเลือกผู้ว่าฯ กทม. ที่จากประวัติศาสตร์ ‘ขั้วไทยรักไทย-เพื่อไทย’ แพ้มาตลอด การลงในนามอิสระ ก็เพื่อสลัดภาพ ‘คนเพื่อไทย’ ออกไปด้วย
แต่ปัญหาที่เกิดตามมา คือ ‘ชัชชาติ’ ไม่ได้ส่ง ส.ก. ลงเลือกตั้ง ทำให้ขาด ‘กลไกอำนาจ - มือทำงาน’ ในสภา กทม. ที่เป็นฝ่ายนิติบัญญัติของเมือง ทำให้เกิดการ ‘วัดพลัง’ กันขึ้นมา โดยเฉพาะเรื่อง ‘แผนงบประมาณ’ ต่างๆ ที่กำลังอาจเป็น ‘น้ำผึ้งหยดเดียว’ กับเก้าอี้ ‘ผู้ว่าฯ กทม.’ ของ ‘ชัชชาติ’ นับจากนี้
ตีคู่มากับกระแสข่าว ‘ชัชชาติ’ จะเป็น ‘ผู้ว่าฯ กทม.’ แค่สมัยเดียว หลังผ่านมาครึ่งทาง 2 ปี ในตำแหน่ง ต้องยอมรับว่ากระแส ‘ชัชชาติ’ ลดลงไป ‘ผลงาน’ สวนทางกับ ‘ความคาดหวัง’ ที่ชาว กทม. เคยมอบให้เมื่อ 2 ปีก่อน
เริ่มเป็นที่พูดกันใน ‘แวดวงการเมือง’ ว่า ‘ชัชชาติ’ วางแผนไป ‘ตั้งพรรคการเมือง’ ขึ้นมาสู้เลือกตั้งในอนาคต เรื่องนี้ไม่ใช่แค่ ‘ไอเดีย’ แต่มี ‘เค้าโครง’ ให้ได้ยินบ้างแล้ว ถึง ‘ฐานเสียง’ จะเป็นกลุ่มใด และพรรคจะเป็น ‘แบรนด์’ อย่างไร
ซึ่ง ‘พรรค’ ที่ ‘ชัชชาติ’ จะตั้งขึ้นใหม่ จะเป็นแบบ ‘พรรคก้าวไกล’ แต่ไม่มีเรื่อง ‘มาตรา 112’ และมีเป้าหมายกวาดเก้าอี้ สส.กรุงเทพฯ เป็นหลัก หลังการเลือกตั้ง สส. เมื่อปี 2566 ทุกพรรคพ่ายให้กับ ‘ก้าวไกล’ ทั้งหมด แม้ ‘เพื่อไทย’ จะชนะมา 1 เขต คือ ‘อิ่ม-ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์’ เขตลาดกระบัง แต่ก็ชนะมาเพียง 4 คะแนนเท่านั้น
จึงต้องจับตาว่า ‘พรรค’ ที่ ‘ชัชชาติ’ จะตั้งขึ้นมานั้นเป็น ‘สาขา’ หรือ ‘พันธมิตร’ กับฝั่ง ‘เพื่อไทย’ หรือไม่? เพราะเป็นยุทธศาสตร์ที่ ‘เพื่อไทย’ วางแผนไว้ ในการ ‘แตกพรรค’ เพื่อดึง ‘ฐานเสียง’ ให้ตรงจุด เพราะ ‘เพื่อไทย’ ก็ต้องยอมรับสภาพตัวเองว่า ยากที่จะกลับมาเป็น ‘พรรคอันดับ 1’ ในยุคที่ ‘ก้าวไกล ฟีเวอร์’ เว้นแต่ ‘แตกพรรค’ รวมเสียงได้ที่ 1 ซึ่งยังมีโอกาสเป็นไปได้