‘ชัยธวัช’ เห็นใจรัฐบาลอิ๊งค์ เชื่อสังคมคาดหวังภาวะผู้นำ มอง ‘ปชน.’ ยังมีเวลากู้คะแนนนิยม

6 ต.ค. 2567 - 05:14

  • ‘ชัยธวัช’ เห็นใจรัฐบาลอิ๊งค์ เจอสารพัดปัญหา เชื่อสังคมคาดหวังภาวะผู้นำ

  • มอง ‘ปชน.’ ยังมีเวลากู้คะแนนนิยม

  • ม็อบ ‘สนธิ-จตุพร’ ปลุกขึ้นหรือไม่อยู่ที่ความชอบธรรมทางการเมือง

  • เร่งรัฐบาลพิจารณาผลศึกษา กมธ.นิรโทษกรรม ชี้หลัง 6 ตุลาฯ มีการนิรโทษคดี 112 มาแล้ว ไม่เกี่ยวจงรักภักดีหรือไม่

chaitawat_commemorating_48th_anniversary_6_october_1976_SPACEBAR_Hero_0ac604680f.jpg

ที่สวนประติมากรรมประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ พรรคประชาชน นำโดย ศรายุทธิ์ ใจหลัก เลขาธิการพรรค พร้อมด้วย สส.พรรค และ ชัยธวัช ตุลาธน ตัวแทนจากคณะก้าวหน้า ได้เดินทางมาร่วมพิธีรำลึกครบรอบ 48 ปี เหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 พร้อมวางพวงมาลาไว้อาลัย ก่อนให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน 

ชัยธวัช ระบุว่า เหตุการณ์ 6 ตุลาฯ ยังคงมีความสำคัญในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ที่สังคมไทยควรต้องจดจำและระลึกถึงในหลายมิติ โดยเฉพาะเรื่องความยุติธรรมในสังคมและความรับผิดชอบของรัฐต่อการกระทำความรุนแรงต่อประชาชนที่วันนี้ยังไม่เคยเกิดขึ้น และความรุนแรงที่ไม่ควรจะต้องเกิดขึ้นอีกในอนาคต และสิ่งที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน คือ การนิรโทษกรรมคดีการเมือง 

หลังเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ นักศึกษาและประชาชนจำนวนมากถูกดำเนินคดี รวมถึงคดีตามมาตรา 112 แต่ 2 ปีต่อมา รัฐบาลในขณะนั้นเห็นว่า การดำเนินคดีไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อสังคม และยังเป็นการขยายความขัดแย้งออกไป จึงมีการออกกฎหมายนิรโทษกรรมเมื่อปี 2521 แสดงให้เห็นว่า คดีร้ายแรงในสังคมไทยเคยมีการออกกฎหมายนิรโทษกรรมมาแล้ว 

ดังนั้น สำหรับนักการเมืองหรือคนที่เห็นว่าไม่สมควรนิรโทษกรรมคดี 112 ชัยธวัชขอย้ำว่า เคยมีการนิรโทษกรรมมาแล้ว และไม่เกี่ยวอะไรเลยกับความจงรักภักดีหรือไม่ พร้อมขอให้รัฐบาลเร่งพิจารณารายงานของ กมธ.พิจารณาศึกษาแนวทางการตรากฎหมายนิรโทษกรรม ที่ขณะนี้ยังรออยู่ว่าจะมีการพิจารณาผลการศึกษาของกรรมาธิการฯ ทั้งที่ถึงกำหนดการที่จะต้องมีการพิจารณาแล้ว แต่แกนนำและวิปรัฐบาลกลับตัดสินใจเลื่อนวาระออกไป

“รัฐบาลไม่ควรกังวลจนเกินไป เพราะทุกอย่างเป็นวาระปกติในการทำงานของสภาฯ การนิรโทษกรรมคดีการเมืองเป็นสิ่งที่ประชาชนจำนวนมากก็รอคอยอยู่” ชัยธวัช กล่าว 

ส่วนความเห็นต่าง เรื่องการนิรโทษกรรม คดี 112 ในรายงานการศึกษาของคณะกรรมาธิการฯ ได้เสนอไว้หลายทางเลือก และรอบด้าน รวมทั้งเสนอพื้นที่ตรงกลางให้มีการนิรโทษกรรมคดี 112 อย่างมีเงื่อนไข จึงมองว่าถ้าคณะกรรมาธิการฯ ได้เสนอรายงานต่อสภาฯ น่าจะเป็นประโยชน์มากกว่าประวิงเวลาไว้

“รัฐบาลไม่ควรกังวลจนเกินไป เพราะทุกอย่างเป็นวาระปกติในการทำงานของสภาฯ การนิรโทษกรรมคดีการเมืองเป็นสิ่งที่ประชาชนจำนวนมากก็รอคอยอยู่”

ชัยธวัช กล่าว

11_add106e88b.jpg
ภาพบรรยากาศระหว่างที่ ชัยธวัช ตุลาธน ตัวแทนจากคณะก้าวหน้า กำลังร่วมงานรำลึก 48 ปี 6 ตุลาฯ ( 6 ต.ค.67)
  • เห็นใจรัฐบาลอิ๊งค์ เจอสารพัดปัญหา เชื่อสังคมคาดหวังภาวะผู้นำ

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังถาม ชัยธวัช เกี่ยวกับผลงานรัฐบาลอิ๊งค์ 1 ว่าที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง ชัยธวัช มองว่า อย่างแรกต้องขอแสดงความเห็นใจก่อน เพราะรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีคนใหม่กำลังเผชิญกับปัญหาหลายอย่าง ที่ประชาชนคาดหวังและรอคอยการแก้ปัญหา หลังจากที่รัฐบาลเพื่อไทย 1 ยังไม่สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนได้ พอรัฐบาลใหม่เข้ามาก็มีปัญหาถาโถมเข้ามาอีก 

เพราะฉะนั้น ในยามที่สังคมเรียกร้องต้องการภาวะความเป็นผู้นำ ทั้งในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าและในการบริหารนโยบายก็คงต้องให้เวลารัฐบาลในการพิสูจน์การทำงานสักพัก

  • ม็อบ ‘สนธิ-จตุพร’ ปลุกขึ้นหรือไม่อยู่ที่ความชอบธรรมทางการเมือง

ส่วนประเด็นที่ สนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ และ จตุพร พรหมพันธุ์ อดีตแกนนำ นปช. เตรียมปลุกมวลชนมาชุมนนุมประท้วงรัฐบาล ชัยธวัช มองว่า การชุมนุมเป็นสิทธิเสรีภาพพื้นฐานที่ประชาชนทำได้ ไม่ว่าจะมีจุดยืนหรือมีความคิดทางการเมืองแบบไหน แต่สิ่งที่ต้องระวังคือการแสดงออกทางการเมือง ไม่ควรที่จะไปละเมิดหลักการสำคัญพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตย และส่วนตัวไม่รู้ว่าการชุมนุมของบุคคลดังกล่าวจะได้รับการสนับสนุนมากน้อยแค่ไหน

“สำหรับรัฐบาล ผมคิดว่าสิ่งสำคัญคือการแสดงออกทางการเมือง การชุมนุมของกลุ่มต่างๆ จะกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาลหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความชอบธรรมของรัฐบาล ถ้ารัฐบาลมีความชอบธรรมทางการเมืองดี ก็ย่อมได้รับการโอบรับ สนับสนุนจากสังคม เป็นเรื่องปกติ ถ้ารัฐบาลขาดความชอบธรรมทางการเมือง ก็จะทำให้การเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลได้ ก็รอดู”

ชัยธวัช กล่าว

4_35831aed9d.jpg
ภาพบรรยากาศระหว่างที่ ชัยธวัช ตุลาธน ตัวแทนจากคณะก้าวหน้า กำลังร่วมงานรำลึก 48 ปี 6 ตุลาฯ ( 6 ต.ค.67)
  • มอง ‘ปชน.’ ยังมีเวลากู้คะแนนนิยม

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังถามถึงประเด็นกระแสของพรรคประชาชนที่ดูเหมือนจะลดน้อยลง ในฐานะที่เป็นอดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล มองเรื่องนี้อย่างไร ชัยธวัช มองว่า ต้องให้เวลา หลังจากพรรคก้าวไกลถูกยุบ เราสูญเสียบุคลากร ดังนั้นพรรคประชาชนต้องใช้เวลาในการจัดระบบบุคลากร ระบบการทำงานกันอีกสักพัก ยังมีเวลาอยู่ 

เมื่อถามว่าปัจจัยสำคัญมาจากอะไร ชัยธวัช ระบุ คงมีหลายปัจจัย เช่น ความนิยมของ ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค คนใหม่ ที่ยังต้องใช้เวลาในการทำให้สังคมรู้จัก และได้สัมผัสถึงความมุ่งมั่นตั้งใจ รวมถึงวิสัยทัศน์ที่จะทำให้ประชาชนคาดหวังได้หรือไม่ 

สำหรับการสัมภาษณ์ ชัยธวัช ครั้งนี้ ถือเป็นการสัมภาษณ์อย่างเป็นทางการครั้งแรก หลังมีการตั้งพรรคประชาชนขึ้นมาใหม่

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์