เหลือเวลาเพียงสัปดาห์เศษ ก่อนที่จะมีการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเลือกตำแหน่งประธานสภาฯ ในวันที่ 4 ก.ค.นี้ เพื่อเดินหน้าสู่กระบวนการโหวตนายกรัฐมนตรี และจัดตั้งรัฐบาลอย่างเป็นรูปธรรม แต่จนถึงตอนนี้ ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่า ‘ตำแหน่งประธานสภาฯ’ จะตกเป็นของ ‘พรรคก้าวไกล’ หรือ ‘พรรคเพื่อไทย’ กันแน่ แม้ทั้ง 2 พรรคจะใช้เวลาหารือเรื่องนี้กันมานานเกือบ 2 เดือนแล้ว
ล่าสุด ‘ชัยธวัช ตุลาธน’ เลขาธิการพรรคก้าวไกล ชี้แจงกับสื่อมวลชนในประเด็นนี้ว่า ในวันที่ 28 มิ.ย.นี้ พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย จะหารือกันเรื่องนี้อีกครั้ง หลังจากพรรรคเพื่อไทยนำเรื่องนี้ไปหารือกับ ส.ส. ของพรรคเสร็จแล้ว เชื่อว่าการพูดคุยกันครั้งนี้จะได้ข้อสรุปอย่างเป็นทางการ หลังจากนั้นจะนำข้อสรุปที่ได้ไปเสนอต่อที่ประชุมพรรคร่วม 8 พรรค ในวันที่ 29 มิ.ย.นี้
‘ชัยธวัช’ ยืนยันชัดเจนว่า ‘ตำแหน่งประธานสภาฯ’ ควรเป็นของพรรคที่มีคะแนนเป็นลำดับที่ 1 ตามหลักการของระบบประชาธิปไตย ส่วนท่าทีของพรรคเพื่อไทยที่มองว่าตำแหน่งนี้ควรเป็นของพรรคเพื่อไทยมากกว่า ‘ชัยธวัช’ ย้ำว่าเรื่องนี้ต้องคุยกันก่อน แต่เชื่อว่าพรรคเพื่อไทย มีความมุ่งมั่นที่จะทำตามเจตนารมณ์ของเสียงประชาชน ที่อยากให้พรรคฝ่ายค้านเดิมกลับมาเป็นรัฐบาล
เมื่อถามว่าหากเกิดเกมพลิกพรรคเพื่อไทยได้ตำแหน่งนายกฯ พรรคก้าวไกลสามารถรวมกับพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่ ‘ชัยธวัช’ เชื่อว่าพรรคเพื่อไทย มีความมุ่งมั่น จริงใจ ที่จะจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคก้าวไกล เพราะเราได้ผ่านการต่อสู้เพื่อทำให้ประเทศไทยกลับมาเป็นประชาธิปไตยมาแล้ว เราเคยไม่เห็นด้วยกับการจัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร เราก็ไม่เห็นด้วยในปี 2562 ที่พรรคที่ไม่ได้ชนะการเลือกตั้ง แต่ใช้เงื่อนไขพิเศษไปรวบรวมเสียงข้างมากขึ้นมาเป็นรัฐบาลแทน ดังนั้นจึงเชื่อมั่นว่าพรรคเพื่อไทย ยังมุ่งมั่นที่จะฟื้นฟูประชาธิปไตยร่วมกับก้าวไกล
ส่วนความคืบหน้าการเจรจาขอเสียงสนับสนุนจาก ‘ส.ว.’ สำหรับการโหวตนายกฯ ‘ชัยธวัช’ บอกว่า ‘ส.ว.’ ส่วนใหญ่คงรอดูผลการเลือกตำแหน่งประธานสภาฯ ก่อน และเชื่อว่า ‘ส.ว.’ จะสนับสนุนพรรคการเมืองที่สามารถรวมเสียงข้างมากได้ให้เป็นรัฐบาล เหมือนปี 62
ส่วนประเด็นที่หลายคนมองว่าหากพรรคก้าวไกล ยอมลดเพดานเรื่องมาตรา 112 จะทำให้การจัดตั้งรัฐบาลง่ายขึ้น ‘ชัยธวัช’ ชี้ให้เห็นว่าเมื่อประชาชนเลือกพรรคการเมืองที่ต้องการสนับสนุนมาแล้ว การเลือก ‘นายกรัฐมนตรี’ ก็ควรเป็นไปตามระบบรัฐสภา ส่วนพรรคการเมืองหรือนายกฯ หากจะทำอะไร ก็มีระบบรัฐสภาและประชาชนคอยตรวจสอบอยู่แล้ว ซึ่งส่วนตัวหวังว่าการโหวตนายกฯ ควรจบภายในวันเดียว ไม่เช่นนั้นเรื่องนี้อาจนำไปสู่เหตุวุ่นวายได้ ขณะที่ภาคประชาชน ภาคสังคม และภาคธุรกิจ อาจจะเกิดความกังวลต่อเสถียรภาพทางการเมืองและเป็นผลกระทบตามมา ดังนั้นดีที่สุดคือการทำตามกติกา
เมื่อถามว่าข้อเสนอของ ‘รังสิมันต์ โรม’ ที่ต้องการนำวันที่ 24 มิ.ย. ซึ่งเป็นวันเปลี่ยนแปลงการปกครอง มาเป็นวันชาติ จะส่งผลกระทบต่อการโหวตนายกรัฐมนตรี ของ ‘ส.ว.’ หรือไม่ ‘ชัยธวัช’ เชื่อว่าไม่กระทบ เป็นเพียงการพูดถึงประวัติศาสตร์ เนื่องจากวันดังกล่าวเคยเป็นวันชาติ แต่ตอนนี้ไม่ได้เป็นแล้ว และที่ผ่านมาหลายคนพยายามเรียกร้องให้นำวันสำคัญทางการเมืองมาเป็นวันหยุดเพื่อให้ความสำคัญต่อสิ่งที่แสดงออกถึงความเป็นประชาธิปไตย และมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีความเห็นหลากหลาย และยังไม่ใช่เรื่องที่จะนำมาคุยกันในตอนนี้
นอกจากนี้ ‘ชัยธวัช’ ยังยืนยันว่า ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ติดโควิดจริงๆ ไม่ใช่โควิดการเมืองเหมือนอย่างที่หลายคนตั้งข้อสังเกต ส่วนที่ไม่เปิดเผยตั้งแรกๆ ว่า ‘พิธา’ ติดโควิด เพราะคิดว่าน่าจะหายทันก่อนมีประชุมพรรคร่วม
จากนั้น ผู้สื่อข่าวได้ถามแซว ‘ชัยธวัช’ ถึงประเด็นที่ ‘เศรษฐา ทวีสิน’ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พูดแซว ‘อุ๊งอิ๊ง’ว่าติดโควิดเพราะแอบไปเจอกับ ‘พิธา’ โดย ‘ชัยธวัช’ ตอบเรื่องนี้อย่างยิ้มๆ ว่า “น่าสงสัยเนอะ”
ล่าสุด ‘ชัยธวัช ตุลาธน’ เลขาธิการพรรคก้าวไกล ชี้แจงกับสื่อมวลชนในประเด็นนี้ว่า ในวันที่ 28 มิ.ย.นี้ พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย จะหารือกันเรื่องนี้อีกครั้ง หลังจากพรรรคเพื่อไทยนำเรื่องนี้ไปหารือกับ ส.ส. ของพรรคเสร็จแล้ว เชื่อว่าการพูดคุยกันครั้งนี้จะได้ข้อสรุปอย่างเป็นทางการ หลังจากนั้นจะนำข้อสรุปที่ได้ไปเสนอต่อที่ประชุมพรรคร่วม 8 พรรค ในวันที่ 29 มิ.ย.นี้
‘ชัยธวัช’ ยืนยันชัดเจนว่า ‘ตำแหน่งประธานสภาฯ’ ควรเป็นของพรรคที่มีคะแนนเป็นลำดับที่ 1 ตามหลักการของระบบประชาธิปไตย ส่วนท่าทีของพรรคเพื่อไทยที่มองว่าตำแหน่งนี้ควรเป็นของพรรคเพื่อไทยมากกว่า ‘ชัยธวัช’ ย้ำว่าเรื่องนี้ต้องคุยกันก่อน แต่เชื่อว่าพรรคเพื่อไทย มีความมุ่งมั่นที่จะทำตามเจตนารมณ์ของเสียงประชาชน ที่อยากให้พรรคฝ่ายค้านเดิมกลับมาเป็นรัฐบาล
เมื่อถามว่าหากเกิดเกมพลิกพรรคเพื่อไทยได้ตำแหน่งนายกฯ พรรคก้าวไกลสามารถรวมกับพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่ ‘ชัยธวัช’ เชื่อว่าพรรคเพื่อไทย มีความมุ่งมั่น จริงใจ ที่จะจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคก้าวไกล เพราะเราได้ผ่านการต่อสู้เพื่อทำให้ประเทศไทยกลับมาเป็นประชาธิปไตยมาแล้ว เราเคยไม่เห็นด้วยกับการจัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร เราก็ไม่เห็นด้วยในปี 2562 ที่พรรคที่ไม่ได้ชนะการเลือกตั้ง แต่ใช้เงื่อนไขพิเศษไปรวบรวมเสียงข้างมากขึ้นมาเป็นรัฐบาลแทน ดังนั้นจึงเชื่อมั่นว่าพรรคเพื่อไทย ยังมุ่งมั่นที่จะฟื้นฟูประชาธิปไตยร่วมกับก้าวไกล
ส่วนความคืบหน้าการเจรจาขอเสียงสนับสนุนจาก ‘ส.ว.’ สำหรับการโหวตนายกฯ ‘ชัยธวัช’ บอกว่า ‘ส.ว.’ ส่วนใหญ่คงรอดูผลการเลือกตำแหน่งประธานสภาฯ ก่อน และเชื่อว่า ‘ส.ว.’ จะสนับสนุนพรรคการเมืองที่สามารถรวมเสียงข้างมากได้ให้เป็นรัฐบาล เหมือนปี 62
ส่วนประเด็นที่หลายคนมองว่าหากพรรคก้าวไกล ยอมลดเพดานเรื่องมาตรา 112 จะทำให้การจัดตั้งรัฐบาลง่ายขึ้น ‘ชัยธวัช’ ชี้ให้เห็นว่าเมื่อประชาชนเลือกพรรคการเมืองที่ต้องการสนับสนุนมาแล้ว การเลือก ‘นายกรัฐมนตรี’ ก็ควรเป็นไปตามระบบรัฐสภา ส่วนพรรคการเมืองหรือนายกฯ หากจะทำอะไร ก็มีระบบรัฐสภาและประชาชนคอยตรวจสอบอยู่แล้ว ซึ่งส่วนตัวหวังว่าการโหวตนายกฯ ควรจบภายในวันเดียว ไม่เช่นนั้นเรื่องนี้อาจนำไปสู่เหตุวุ่นวายได้ ขณะที่ภาคประชาชน ภาคสังคม และภาคธุรกิจ อาจจะเกิดความกังวลต่อเสถียรภาพทางการเมืองและเป็นผลกระทบตามมา ดังนั้นดีที่สุดคือการทำตามกติกา
เมื่อถามว่าข้อเสนอของ ‘รังสิมันต์ โรม’ ที่ต้องการนำวันที่ 24 มิ.ย. ซึ่งเป็นวันเปลี่ยนแปลงการปกครอง มาเป็นวันชาติ จะส่งผลกระทบต่อการโหวตนายกรัฐมนตรี ของ ‘ส.ว.’ หรือไม่ ‘ชัยธวัช’ เชื่อว่าไม่กระทบ เป็นเพียงการพูดถึงประวัติศาสตร์ เนื่องจากวันดังกล่าวเคยเป็นวันชาติ แต่ตอนนี้ไม่ได้เป็นแล้ว และที่ผ่านมาหลายคนพยายามเรียกร้องให้นำวันสำคัญทางการเมืองมาเป็นวันหยุดเพื่อให้ความสำคัญต่อสิ่งที่แสดงออกถึงความเป็นประชาธิปไตย และมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีความเห็นหลากหลาย และยังไม่ใช่เรื่องที่จะนำมาคุยกันในตอนนี้
นอกจากนี้ ‘ชัยธวัช’ ยังยืนยันว่า ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ติดโควิดจริงๆ ไม่ใช่โควิดการเมืองเหมือนอย่างที่หลายคนตั้งข้อสังเกต ส่วนที่ไม่เปิดเผยตั้งแรกๆ ว่า ‘พิธา’ ติดโควิด เพราะคิดว่าน่าจะหายทันก่อนมีประชุมพรรคร่วม
จากนั้น ผู้สื่อข่าวได้ถามแซว ‘ชัยธวัช’ ถึงประเด็นที่ ‘เศรษฐา ทวีสิน’ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พูดแซว ‘อุ๊งอิ๊ง’ว่าติดโควิดเพราะแอบไปเจอกับ ‘พิธา’ โดย ‘ชัยธวัช’ ตอบเรื่องนี้อย่างยิ้มๆ ว่า “น่าสงสัยเนอะ”