ไฉน ‘เฉลิม’ ไม่กลัว ‘ทักษิณ’? เหตุใด ‘ชินวัตร’ เกรงใจ ‘อยู่บำรุง’?

17 ก.ค. 2567 - 00:51

  • บุญคุณทดแทนไม่หมด ? ไฉน ‘เฉลิม’ ไม่กลัว ‘ทักษิณ’ ? ทำไม ‘อยู่บำรุง’ ไม่เกรงใจ ‘ชินวัตร’ ทั้งที่อยู่กับ ‘พรรคเพื่อไทย’ ที่เปรียบเป็น ‘กงสีชินวัตร’

  • ย้อน 30 กว่าปี ยุคที่ ‘เฉลิม’ เป็น รมต.ประจำสำนักนายกฯ คุม อสมท. จุดเริ่มต้นของ ‘ทักษิณ’ ที่กำลังเข้ามาทำ ‘ธุรกิจดาวเทียม’ เพื่อใช้ในการสื่อสารภายในประเทศ

  • แต่ ‘รัฐบาลชาติชาย’ โดน รสช. ยึดอำนาจ ทำให้ ‘ทักษิณ’ ต้องไปเชื่อมสัมพันธ์กับ ‘บิ๊กจ็อด-พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์’ อันนำมาสู่อมตะวาจา “ถ้าไม่มีพี่ชายคนนี้ (พล.อ.สุนทร) ก็คงไม่มีวันนี้” ในวันปล่อย ‘ดาวเทียมไทยคม’ ขึ้นสู่วงโคจร

Chaleam_Thaksin_Relationship_SPACEBAR_Hero_e6fb343322.jpg

แม้ ‘พรรคเพื่อไทย’ จะถูกมองว่าเป็น ‘กงสี’ ของ ‘ตระกูลชินวัตร’ ที่บรรดาลูกพรรคเปรียบเป็น ‘คนภายใต้บังคับบัญชา’ ที่ต้องเกรงใจ ‘เจ้าของพรรค’ โดยเฉพาะกับ ‘ทักษิณ-แพทองธาร’ แต่กลับมีคู่ ‘พ่อ-ลูก’ แห่งบ้านริมน้ำ ‘ตระกูลอยู่บำรุง’ ผู้ไม่สยบยอม ‘อำนาจชินวัตร’

ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา สัมพันธ์ ‘อยู่บำรุง-ชินวัตร’ มีรอยร้าวลึก เหตุ ‘ตระกูลอยู่บำรุง’ ถูกมองข้าม จน ‘ไร้ตัวตน’ ภายในพรรค ทำให้ ‘เฉลิม อยู่บำรุง’ ที่เป็น สส.บัญชีรายชื่อ ก็โลว์โปร์ไฟล์ ไม่ปรากฏกายให้เห็น ส่วน ‘วัน อยู่บำรุง’ สอบตก สส. ต้องไปเป็น ผู้ช่วย รมว.สาธารณสุข แทน

ทว่าจุดแตกหักสำคัญในครั้งนี้ เกิดขึ้นจากกรณี ‘อุ๊งอิ๊ง’ ได้โทรไปตำหนิ ‘วัน อยู่บำรุง’ ที่ไปอยู่ในบ้าน ‘บิ๊กแจ๊ส-พล.ต.อ.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง’ คู่แข่ง นายก อบจ. กับ ‘ชาญ พวงเพ็ชร์’ ของพรรคเพื่อไทย ในวันนับคะแนนเสียง แม้ว่า ‘ครอบครัวอยู่บำรุง’ จะมีความสนิทสนมกับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ก็ตาม แต่กระทบภาพของพรรค 

ต่อมา ‘วัน อยู่บำรุง’ ได้ประกาศลาออกจาก ตำแหน่งผู้ช่วย รมต.สาธารณสุข ทำให้ต่อมา ‘เฉลิม’ ท้า ‘เพื่อไทย’ ให้ขับออกจากพรรค เพราะ ‘เฉลิม’ เป็น สส.บัญชีรายชื่อ 

“เมื่อหนุ่ม (นายวัน) ลาออกแล้ว ผมจะอยู่ในพรรคเพื่อไทยต่อได้อย่างไร ก็เลยขอให้พรรคขับผมออกจากพรรคตามระเบียบพรรคการเมือง เพื่อจะได้ไปสังกัดพรรคการเมืองใหม่ ซึ่งขณะนี้มีพรรคการเมือง 2-3 พรรคติดต่อเข้ามาแล้ว ยืนยันว่าผมตกได้ แต่ผมต่ำไม่ได้“ เฉลิม กล่าว

ต่อมา ‘อุ๊งอิ๊ง’ เปิดเผยคำพูดที่โทรไปหา ‘วัน อยู่บำรุง’ ว่า “คำแรกที่บอกคือเขาคิดน้อยไป ขอโทษด้วย ในฐานะที่ตนเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ต้องปกครองคนหมู่มาก ก็ได้ตักเตือนไป”  แต่ครั้งนี้ ‘อุ๊งอิ๊ง’ ท่าทีแข็งข้อขึ้น ไม่มีแพลนจะไป ‘บ้านริมน้ำ’ เฉกเช่นคราวก่อน แต่ทาง ‘ตระกูลชินวัตร’ ยังไม่ถึงขั้นจะตัดสัมพันธ์ หลัง ‘เฉลิม’ ท้าให้ขับพ้นพรรค 

“ก่อนหน้านี้เคยไปพบ ร.ต.อ.เฉลิม ครั้งนั้นได้ไปแสดงความเคารพรักที่มีมาตลอด แต่ก็ไม่ทราบเหตุผลจริงๆ ว่าไม่พอใจอะไรบ้าง ไม่เคยได้คำตอบ แต่ส่วนตัวเห็น ร.ต.อ.เฉลิม มาตั้งแต่ตนเองเป็นเด็ก ไม่เคยมีความคิดโกรธหรืออะไรกับท่านเลย จึงไม่ทราบจริงๆ ว่าได้ทำอะไร และครั้งนี้คงไม่ได้เข้าไปหา” อุ๊งอิ๊ง กล่าว

ส่วนท่าทีของ ‘ทักษิณ’ ก็ไม่พุ่งชน ‘ตระกูลอยู่บำรุง’ แถมรีบออกตัวว่า “ผมไม่ได้คุยกับใคร การเมืองไม่ได้คุยกับใคร” ล่าสุด ‘วัน อยู่บำรุง’ ได้ยื่นลาออกจาก ‘สมาชิกเพื่อไทย’ ส่วน ‘อุ๊งอิ๊ง’ ก็ไม่ยื้อใดๆ และขอให้จบตรงนี้

“วันนี้ที่ลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทย เพราะเมื่อไม่เข้าตาผู้ใหญ่ ท่านไม่แฮปปี้ ผมไม่สบายใจ ถ้าไม่ลาออกจากสมาชิกพรรค เวลาพรรคมีกิจกรรม ผมก็ต้องไปร่วมงาน ผมคงไม่หน้าด้านพอที่จะไปเกะกะหูรกตาผู้ใหญ่ ผมก็แค่ สส.กรุงเทพฯ สอบตก แต่ที่สอบตก ต้องอย่าลืมว่าพรรคเพื่อไทยได้ สส.กรุงเทพฯ คนเดียว พรรคเพื่อไทยก็ต้องกลับไปพิจารณาว่านโยบายหาเสียงของพรรคเป็นอย่างไร ทำไมถึงได้ ส.ส.กรุงเทพฯ คนเดียว ไม่ใช่ความผิดของผู้สมัคร” วัน อยู่บำรุง กล่าว

“ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ขออวยพร ให้คุณวันประสบความสำเร็จ อันนี้คือสิ่งที่อยากจะพูด นอกนั้นไม่มีอะไรมากกว่านี้ ไม่ได้คิดจะมีดราม่าอะไรเพิ่ม ขอให้สื่อมวลชนเข้าใจตรงนี้ว่า ไม่ได้โกรธเกลียดอะไรคุณวันทั้งสิ้น ฉะนั้นจบที่ตรงนี้ค่ะ" แพทองธาร กล่าว

ย้อนกลับไปในยุครัฐบาล พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เมื่อ 30 กว่าปีก่อน ช่วงเวลาที่ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ เริ่มเข้ามาทำธุรกิจด้านดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศ ที่ต้องได้รับ ‘สัมปทานจากรัฐ’ ซึ่งในขณะนั้น ‘เฉลิม อยู่บำรุง’ เป็น รมต.ประจำสำนักนายกฯ ที่กำกับดูแล อสมท. จึงเกี่ยวข้องกับดาวเทียมด้วย

แต่สุดท้ายเกิดเหตุรัฐประหาร 23 ก.พ. 34 โดย รสช. นำโดย ‘บิ๊กจ็อด’พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ ผบ.ทหารสูงสุด ในขณะนั้น ทำให้ ‘เฉลิม’ ต้องลี้ภัยไปต่างประเทศ ส่วน ‘ทักษิณ’ ก็ได้มาเชื่อมสัมพันธ์กับ ‘บิ๊กจ็อด’ ย้อนไป 21ก.ย.34 ได้มีการวันลงนามสัญญาการดำเนินกิจการดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศ ระหว่าง ‘กระทรวงคมนาคม’ (นุกูล ประจวบเหมาะ รมว.กระทรวงคมนาคม ขณะนั้น) กับ ‘บริษัท ชินวัตร คอมพิวเตอร์ แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด’ โดยมี ‘ทักษิณ ชินวัตร’ กรรมการ ผู้มีอำนาจลงนาม ระยะเวลาสัมปทาน 30 ปี ตั้งแต่ 11 ก.ย. 34 ถึง 10 ก.ย. 64

ต่อมา 18 ธ.ค. 36 เป็นวันทำการยิง ‘ดาวเทียมไทยคม’ ขึ้นสู่วงโคจร ที่ ประเทศเฟรนช์เกียนา ทวีปอเมริกาใต้ โดย ‘ทักษิณ’ ได้เชิญ ‘บิ๊กจ็อด’ ไปร่วมเป็นสักขีพยานด้วย เป็นที่มาของ ‘อมตะวาจา’ ของ ‘ทักษิณ’ ที่กล่าวในงานเลี้ยงรับรองว่า "ถ้าไม่มีพี่ชายคนนี้ (พล.อ.สุนทร) ก็คงไม่มีวันนี้" จึงเกิดภาพ ‘บิ๊กจ็อด’ โอบไล่ ‘ทักษิณ’ ส่วน ‘ทักษิณ’ อยู่ในท่ายืนกุมมือ ย่อเข่าเล็กน้อย

จึงเป็นตำนานที่ทำให้ ‘ทักษิณ-ตระกูลชินวัตร’ เกรงใจ ‘ตระกูลอยู่บำรุง’ และมีสายสัมพันธ์กับ ‘ตระกูลคงสมพงษ์’ จากรุ่นพ่อส่งถึงรุ่นลูก จนถึงปัจจุบัน !!

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์