ถอดรหัส ‘สุวัจน์-กรณ์’ สานอุดมการณ์ ‘น้าชาติ’ จุดจบ ‘ชาวนากับงูเห่า’ หรือ ‘เสือตัวที่ 5’

16 พ.ย. 2565 - 05:26

  • ช่วงเวลา ‘พรรคการเมือง’ เดินเกม ‘มิกซ์ยูส’ เพื่อต่อลมหายใจทางการเมือง โดยเฉพาะ ‘พรรคเกิดใหม่-พรรคเล็ก’ เพื่อเอาตัวรอดสูตรหาร 100 ที่บอนไซหนัก

  • ‘สุวัจน์’ จับมือ ‘กรณ์’ ปูทาง ‘รวมพรรค’ ตีฆ้องเรียกรวมพล หวังสานต่ออุดมการณ์ ‘น้าชาติ’ พาประเทศไทยสู่ ‘เสือตัวที่ 5’ กับตำนาน ‘ชาวนากับงูเห่า’

Chatichai-Suwat-Korn-Chart-Pattana-SPACEBAR-Main
ผลพวงจาก สูตรหาร 100 บัตรสองใบ อีกทั้งลดจำนวนเก้าอี้ปาร์ตี้ลิสต์ ทำให้บรรดา ‘พรรคเกิดใหม่-พรรคเล็ก’ ต้องปรับกลยุทธ์ในการสู้ศึกเลือกตั้ง หนึ่งในนั้นคือการ ‘จับมือ’ กันทำการเมือง จึงเกิดปรากฏการณ์ที่ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา จับมือกับ กรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า ในการทำงานการเมือง โดยผสมผสาน ‘การเมืองรุ่นเก๋า-เศรษฐกิจรุ่นใหม่’ เข้าด้วยกัน

ในการแถลงข่าวสิ่งที่ สุวัจน์ ย้ำตลอดคือการ ‘โหยหาอดีต’ ยุคที่พรรคชาติพัฒนา รุ่งเรืองเมื่อ 30 ปีก่อน ที่เป็นพรรคใหญ่ในยุคนั้น พร้อมสานต่อแนวทางทำการเมืองของ น้าชาติ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกฯ ในการทำการเมืองสร้างสรรค์ ไม่ขัดแย้ง ประนีประนอม ควบคู่การพัฒนาเศรษฐกิจ ที่ในยุคน้าชาติเป็นนายกฯ ช่วงต้นทศวรรษ 2530 ประเทศไทยได้ชื่อว่าเป็น ‘เสือตัวที่ 5’ แห่งเอเชีย ตัวเลขทางเศรษฐกิจเติบโตสูง

ดังนั้นเพื่อให้ ‘ส่วนผสมลงตัว’ และรับกติกาเลือกตั้งที่เปลี่ยนไป ชนิดที่ ‘พรรคเกิดใหม่-พรรคเล็ก’ ถอยไม่ได้ จึงต้องมาผนึกกำลังกัน โดยกรณ์ได้ตอบรับมาร่วมงานกับสุวัจน์ เพื่อฝ่าทางตันต่างๆ ที่สำคัญงานนี้ กรณ์ไม่ได้มาคนเดียว แต่ขน ‘ทีมกล้า’ มาด้วย ทั้ง กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ ประธานยุทธศาสตร์นโยบายด้านเศรษฐกิจ และ อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้มีภาพ ‘เทคโนแครต-คนรุ่นใหม่’ ในการเจาะฐานเสียงที่ ‘พรรคชาติพัฒนา’ ขาดไป อีกทั้งช่วยเสริม ‘พรรคกล้า’ ที่ขาดฐานเสียง ‘การเมืองท้องถิ่น’ ด้วย

งานนี้ว่ากันว่ามีการแบ่งเกม คือ พรรคชาติพัฒนา ก็หวังทวงคืนพื้นที่โคราชกลับมา หลังเสียไปหลายเก้าอี้ในการเลือกตั้งปี 2562 ส่วนพรรคกล้าที่เป็น ‘หน่อเนื้อเชื้อไข’ อดีตพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีฐานเสียงใน กทม. ก็จะมาเสริมรับกัน ทำให้ทั้ง 2 พรรคมีโอกาสทางการเมืองมากขึ้น ทำให้ทั้ง 2 พรรค มีกำลังในการ ‘ต่อรอง’ ทางการเมืองสูงขึ้น อีกทั้งเป็นอีกแรงเชื้อเชิญให้คนเข้ามาร่วมทัพมากขึ้นด้วย เพราะช่วงใกล้เลือกตั้ง สนามการเมืองฝุ่นจะตลบ ‘การเปลี่ยนโปรย้ายค่าย’ จะเกิดขึ้น

แต่ในเวลานี้ ‘พรรคชาติพัฒนา-พรรคกล้า’ ยังควบรวมกันไม่ได้ เพราะพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 หมวด 9 การควบรวมพรรคการเมือง ที่ยังติดเงื่อนไข มาตรา 96 ที่ระบุว่า ในระหว่างอายุของสภาผู้แทนราษฎร จะมีการควบรวมพรรคการเมืองที่มีสมาชิกเป็น ส.ส.มิได้ เนื่องจากพรรคชาติพัฒนามี ส.ส. 4 คน ในสภา

แต่กฎหมายก็ได้ ‘เปิดช่อง’ ให้มีการ ‘ควบรวม’ พรรคได้ ซึ่งขั้นตอนตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง ระบุไว้ชัดเจน แต่มีเงื่อนไขใหญ่คือการควบรวมนั้นจะต้องรวมกันเพื่อเป็น ‘พรรคใหม่’ เท่านั้น ซึ่งพรรคชาติพัฒนาจะจัดประชุมใหญ่ ช่วงปลายเดือนกันยายนนี้ ดังนั้นจึงต้องจับตาว่าจะมีการ ‘เปลี่ยนชื่อพรรค’ หรือไม่ อย่างไร ด้วย ซึ่งในการแถลงข่าวของ สุวัจน์-กรณ์ ก็ยังไม่มีความชัดเจนถึงขั้นตอนนี้

แต่สิ่งที่ สุวัจน์-กรณ์ เห็นร่วมกันคือแนวทางพัฒนา โดยมี ‘โมเดล’ ยุคน้าชาติ เป็นเข็มทิศนำทาง ซึ่ง น้าชาติ เรียกว่าเป็น ‘นายกฯ ส้มหล่น’ ภายหลัง ป๋าเปรม พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประกาศ ‘ผมพอแล้ว’ ไม่รับเก้าอี้นายกฯ ทำให้ตกมาถึงน้าชาติ ในยุคน้าชาติเป็น นายกฯ มีนโยบายที่โด่งดังคือ ‘เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า’ ในช่วงที่กลุ่มประเทศในอินโดจีนมีปัญหาการเมืองภายในของตัวเอง

อีกทั้ง พล.อ.ชาติชาย มีคำพูดติดปากคือ ‘No Problem’ แต่ก็ซ่อนปัญหาจนกลายเป็น ‘วิกฤต’ ของรัฐบาล ซึ่งในยุคนั้นรัฐบาลชาติชาย ถูกโจมตีเรื่องปัญหาการทุจริต มีการตั้งฉายาให้รัฐบาลว่า ‘บุฟเฟ่ต์คาบิเนต’ สุดท้ายนำมาสู่การที่น้าชาติ โดนยึดอำนาจจากคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) นำโดย บิ๊กจ๊อด พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ หัวหน้า รสช. แต่สุดท้ายจุดจบของ รสช. จบไม่สวย เกิดเหตุการณ์ ‘พฤษภาทมิฬ 2535’ ทำให้ทหารต้องกลับกรมกอง

จากนั้นน้าชาติ ได้กลับเข้าสู่สนามการเมือง พร้อมกับตั้งพรรคชาติพัฒนา ขึ้นมา ได้เป็น ส.ส.โคราช ถือเป็นการกลับเข้าสู่ถนนการเมืองอีกครั้ง แต่ก็ไม่ได้ขึ้นเป็นนายกฯ สมัยที่ 2 แม้จะเกือบได้เป็นนายกฯ ภายหลัง บิ๊กจิ๋ว พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ลาออกจาการเป็นนายกฯ แม้ว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะมีมติให้น้าชาติ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา ขึ้นเป็นนายกฯ แต่ต้องเจอกับ ‘กลุ่มงูเห่า’ จากพรรคประชากรไทย ส.ส.สายปากน้ำ ที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล แต่ไปยกมือให้ฝ่ายค้าน จึงทำให้ ชวน หลีกภัย จาก ปชป. ได้ขึ้นเป็น นายกฯ แทน

ทั้งหมดนี้เป็น ‘ตำนานการเมือง’ ของน้าชาติ ที่ทางสุวัจน์-กรณ์ เห็นถึงโอกาสในทางการเมือง ในการหวังฟื้นอดีตที่รุ่งเรืองของพรรคชาติพัฒนา ขึ้นมาอีกครั้ง ส่วนจะ ‘ซ้ำรอยอดีต’ อันแสนขมขื่นหรือไม่ งานนี้ สุวัจน์ก็ชัดเจน ‘No Problem’ พร้อมจับมือทำการเมืองกับทุกฝ่าย ชูภาพ ‘พรรคปากท้อง’ เป็นหลัก ขอเป็น ‘พรรคปฏิบัตินิยม’ มากกว่า ‘พรรคอุดมการณ์’ เพื่อเป็น ‘ทางเลือกใหม่’ ในสนามเลือกตั้งครั้งหน้า
 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/15q7ozHrbkivp2EB825l9u/bb72cd20d37e405996deeee690fbb9e9/Chatichai-Suwat-Korn-Chart-Pattana-SPACEBAR-Photo01
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/6BrkeKQmHYxYKCDRFzfdKI/17cc2df5128f98a227cc05b858e020e3/Chatichai-Suwat-Korn-Chart-Pattana-SPACEBAR-Photo02

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์