‘ศิธา’ ดักคอ ‘เพื่อไทย’ อย่าทิ้ง ‘ก้าวไกล’

ช่วงท้ายการแถลงข่าวภายหลังการลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ในการจัดตั้งรัฐบาล น.ต.ศิธา ทิวารี แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคไทยสร้างไทย ได้เสนอหลังตั้งรัฐบาลเสนอทำ Advance MOU เพื่อยกระดับประชาธิปไตย ขอให้ พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย ยืนยันได้หรือไม่ว่าจะอยู่ด้วยกัน ไม่ว่าจะบทบาทฝ่ายค้านหรือรัฐบาล เพื่อไม่ไปอยู่ในเกมคนทำรัฐประหาร พร้อมถามว่าจะอยู่จนสภาฯ ครบวาระหรือจะแก้ รธน. แล้วยุบสภาฯ เพื่อดึงมาสู่เกมฝ่ายประชาธิปไตย 

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า Advance MOU มีความเป็นไปได้ เพื่อให้ระบบเป็นระบบ ไม่ใช่เพียงการเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน แต่เพื่อตัดตอนผลพวงจากรัฐประหาร คืนความเป็นปกติให้การเมือง ในเมื่อสภาฯล่าง ที่มาจากประชาชน 25 ล้านเสียง ก็ควรจะจัดตั้งรัฐบาลได้ ส่วนการแก้ไข รธน. ต้องมีการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) มีการทำประชามติถามประชาชนหลายขั้นตอน ซึ่งการทำงานทั้งหมดใกล้เคียงกับอายุรัฐบาลในช่วง 4 ปีพอดี แต่ตนจะให้ทีมงานศึกษาโรดแมปอีกครั้ง 

ขณะที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าเพื่อไทย กล่าวว่า ไม่อยากใช้คำว่า Advance MOU เพราะคำถามที่ถาม อธิบายคำตอบอยู่ในตัวเองแล้ว เราเชื่อมั่นในฝ่ายประชาธิปไตย เราได้เสียงจากประชาชนที่ต้องการประชาธิปไตย เราต้องทำตามจุดประสงค์ประชาชน แม้จะมีความบิดเบี้ยวจาก รธน. แต่เราจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด จริงอยู่ว่า ส.ว. ในบทเฉพาะกาล ส.ว. จะหมดวาระ พ.ค. 2567 ถ้าจะแก้ รธน. เชื่อว่าจะทำได้ทันเวลา โดยการทำประชามติถามประชาชน จากนั้นทำการยกร่างผ่าน สสร. และทำประชามติอีกครั้ง แต่ยืนยันว่าเราจะยึดมั่นทำ รธน. ของประชาชนที่สมดุลและคำนึงถึงมีส่วนร่วม ดังนั้นความบิดเบี้ยวที่เกิดขึ้น ก็เหมือนกับรัฐประหาร ควรจะยุติและต้องหมดไป