‘ชวน’ ลั่นตราบเท่าที่ผมอยู่ ชาวบ้านพร้อมช่วย ‘ปชป.’ เหน็บ ‘เฉลิมชัย’ อาจทำได้ดีกว่าเดิม เพราะรู้จุดอ่อนจากความล้มเหลว

30 ธ.ค. 2567 - 05:34

  • ‘ชวน’ ฉายภาพการเมืองปี 68 เตือน ‘รัฐบาล’ อย่าประมาท ‘นักร้อง’ งัดข้อมูลจ้องล้ม

  • มอง‘ปชป.’ มีทั้งเป๋-ไม่เป๋ เชื่อเลือกตั้งรอบหน้าไม่สูญพันธุ์ บอกตราบเท่าที่ผมอยู่ ชาวบ้านพร้อมช่วย ‘ปชป.’

  • อุบตอบวางมือหรือเดินหน้า รับยี่ห้อ ‘นายหัวชวน’ เสื่อมมนต์ขลัง เพราะไม่ได้นั่งหัวหน้าพรรค

  • เหน็บ ‘เฉลิมชัย’ อาจทำได้ดีกว่าเดิม เพราะรู้จุดอ่อนจากความล้มเหลว

chuan_leekpai_30_dec_2024_SPACEBAR_Hero_f839e40ef1.jpg

ชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร ระบุถึงสถานการณ์การเมืองในช่วงปี 2568 ว่า ดูจากเสียงรัฐบาลในสภาที่ครองเสียงข้างมากถึง 322 เสียง ความมั่นคงของรัฐบาลคงไม่มีปัญหาอะไร และพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดยังไม่มีทีท่าจะถอนตัว แม้จะมีเหตุกระทบกระทั่งกันบ้าง 

ส่วนพรรคร่วมฝ่ายค้าน 173 เสียง ไม่ได้มีอันตรายมากพอที่จะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงเรื่องตัวเลข รวมถึงการทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะการที่ไปตรวจสอบคนอื่น ตัวเองต้องไม่มีแผล บางพรรคที่ออกมาเป็นฝ่ายค้าน ก็ไม่สามารถตรวจสอบรัฐบาลได้เต็มที่ เพราะตัวเองก็มีสิ่งที่ผูกขาอยู่ 

ส่วนการที่ วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า สส. ชุดนี้ยังไม่มีสภาล่ม แต่ไม่ได้บอกเหตุผล ชวน หลีกภัย เฉลยว่า ได้คุยกับสมาชิกบางคนแบบส่วนตัวว่าครั้งนี้สภาฯ ไม่ล่มเลย เป็นสิ่งที่ดีมาก ถือขยัน แต่เขาตอบมาว่า เหมือนเดิม เพียงแต่มีกฎเกณฑ์มาบังคับ ถ้าใครไม่มาลงมติจะถูกปรับเงินที่พรรคการเมืองให้มาต่างหาก จำนวน 20,000 บาท 

ส่วนจะมีเหตุที่เขย่ารัฐบาลได้หรือไม่ ชวน หลีกภัย มองว่า คงเป็นเรื่องการบริหารของรัฐบาล ที่แต่ละพรรคการเมือง หรือแต่ละรัฐมนตรีจะมีปัญหาหรือไม่ ส่วนจะรุนแรงถึงขั้นไหนยากที่จะบอกได้ แต่เชื่อว่าภายใต้สถานการณ์ขณะนี้ สภาฯ เองก็ตรวจสอบรัฐบาลได้ภายในขอบเขตเท่านั้นเอง จะไปหวังตรวจสอบถึงขั้นหานักการเมืองทุจริต โกงกิน แบ่งเปอร์เซ็นต์ เป็นเรื่องยาก เราไม่ค่อยได้ยินการพูดเรื่องนี้เหมือนสมัยก่อน แต่หากสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น 

ฝ่ายที่ตรวจสอบภายนอก เช่น สื่อมวลชน ปัจจุบันก็เจอปัญหาธุรกิจการเมืองเข้ามาลุกลาม เพราะฉะนั้นคนร้องต้องกล้า เหมือนกรณี 40 สว.ร้องเกี่ยวกับคุณสมบัติของ เศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ จนทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอย่างมาก ดังนั้น รัฐบาลอย่าประมาทบรรดานักร้องเรียน เพราะบางครั้งนักการเมือง ก็มีข้อมูลน้อยกว่านักร้องเรียน แต่ถ้าร้องเท็จก็เสียหาย เรื่องที่ร้องต้องมีมูล ปัญหาอยู่ที่ว่าเรื่องจะรุนแรงขนาดไหน

“รัฐบาลชุดปัจจุบันก็มาจากฝ่ายค้านชุดเดิมอยู่ด้วย ตอนเป็นฝ่ายค้านก็เคยอภิปรายคนที่ร่วมงานด้วยขณะนี้ที่ตอนนั้นเป็นฝ่ายรัฐบาล ปัญหาคือจะกลับข้อมูลหรือไม่ เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องเผชิญการถูกร้องเรียน หรือการถูกติดตามตรวจสอบแน่นอน แต่เหนือสิ่งอื่นใดรัฐบาลต้องรักษาหลักของบ้านเมืองที่เป็นหัวใจของประชาธิปไตย หลักกฎหมาย หลักความชอบธรรม ถูกต้อง ไม่เหลื่อมล้ำ เสมอภาค ไม่เลือกปฏิบัติ ถือเป็นเรื่องสำคัญที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ และนโยบายรัฐบาล ตอนสมัยท่านเศรษฐา น่าเสียดายที่รัฐบาลขณะนั้นเลือกเอาพวก มากกว่าหลักนิติธรรม จากกรณีชั้น14”

ชวน กล่าว

ส่วนประเด็นที่สื่อทำเนียบตั้งฉายาให้พรรคประชาธิปัตย์ว่าประชาธิเป๋ ชวน หลีกภัย มองว่า มีทั้งคนเป๋ คนไม่เป๋ และส่วนตัวไม่มีอะไรกับใคร แต่เป็นหนี้บุญคุณชาวบ้าน พรรคเพื่อไทยไม่ได้ สส. ภาคใต้แม้แต่คนเดียว เพราะผมเป็นคนลงไปต่อสู้รณรงค์ให้คนใต้ไม่เลือกพรรคที่เลือกปฏิบัติกับเรา เพราะพรรคนี้สมัยก่อนผู้นำพรรคเคยประกาศพัฒนาเฉพาะจังหวัดที่เลือกเขา จังหวัดที่ไม่เลือกไว้ทีหลัง ก็คือภาคใต้ นักการเมืองภาคใต้ต้องรู้จักเจ็บร้อนแทนชาวบ้าน 

ส่วนประเด็นที่หลายคนมองว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคประชาธิปัตย์อาจสูญพันธุ์ ชวน หลีกภัย ตอบว่า ผมคิดว่าเมื่อคนที่เขาคิดว่าล้มเหลวจากครั้งที่แล้วมาเป็นหัวหน้าพรรค เขาจะรู้จุดอ่อน ก็อาจทำได้ดีกว่าเดิมก็ได้ เพราะไม่ใช่คนใหม่ ยังเป็นคนที่ทำให้พรรคได้ 25 เสียงในรอบล่าสุด แต่ผมยังยืนยันในการทำการเมืองสุจริต ผมอยู่มา 50 ปี ภูมิใจที่เป็นปากเสียงแทนชาวบ้าน ไม่ได้เข้ามาเพื่อผลประโยชน์  ให้ญาติพี่น้องได้ประโยชน์ มาหากิน มาทำธุรกิจส่วนตัว เส้นทางของผมเดินมาก็ไม่เหมือนหลายๆคน จะให้เปลี่ยนเส้นทางไปซื้อเสียง ผมไม่เอา ไม่ได้เลือกตั้งก็ยอม

ชวน หลีกภัย ยังยอมรับว่า เหตุที่พรรคแพ้เลือกตั้งในภาคใต้ยับเยิน เป็นเพราะ นายชวนหมดมนต์ขลังแล้ว เพราะคนบอกว่า ตอนนี้ผมไม่เป็นหัวหน้าพรรคแล้วต้องระวัง เพราะเสียงก็จะเปลี่ยนไป และเขาก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกพรรคอื่น

เมื่อถามว่ามีบางคนในพรรคบอกว่าถึงเวลาที่ นายชวน ควรวางมือได้แล้ว ชวน หลีกภัย ตอบว่า มันไม่มีกำหนด

“ ผมคิดว่าคนไม่เลือกพรรคเพราะผมมีน้อย แต่เลือกพรรคเพราะเห็นแก่ผมมากกว่าดังนั้นต้องถามคนที่พูด ว่าเขาเลือกพรรคประชาธิปัตย์เพราะคุณหรือเปล่า ผมว่าเขาเกรงใจนายชวนมากกว่า นี่พูดตรงๆไม่ได้โอ้อวว่าเหนือกว่าคนอื่น เพราะเราไม่ใช่คนขี้อวดขี้โม้ แต่เวลาพบชาวบ้านเราก็รู้ ”

ชวน กล่าว

ส่วนการเลือกตั้งครั้งหน้าจะลงสมัคร สส. หรือไม่ ชวน หลีกภัย ขอไม่พูด เพราะพูดแล้วต้องปฏิบัติ ไม่มีอะไรที่พูดแล้วไม่ทำ นี่คือนักการเมืองรุ่นเก่าที่เชยๆ ที่ยังยึดความซื่อสัตย์สุจริต ยึดความชอบธรรมถูกต้อง พูดคำไหนต้องทำตามคำนั้น ก็เลยไม่ใช่คนที่พูดมาก แต่พูดน้อย อะไรที่พูดแล้วต้องปฏิบัติ เราก็ไม่อยากให้ใครประณามเราว่าสับปลับ หรือเป็นคนไม่น่าเชื่อถือ เมื่อถามว่ายังเชื่อมั่นว่าพรรคประชาธิปัตย์จะไปได้อีกนานหรือไม่ ชวน หลีกภัย ตอบว่า

“ ไม่ทราบ เพราะไม่ใช่ผู้บริหารพรรค แต่จากที่ลงพื้นที่พบปะชาวบ้านเขาบอกว่าตราบใดที่ผมยังอยู่เขาก็จะช่วย ไม่ใช่พูดเป็นเงื่อนไขว่าต้องเอาเรา เพราะเราอยู่มานานกว่าคนอื่น อยู่มา 17 สมัยแล้ว ไม่ได้อยู่เพื่อมาเซ็นชื่อแล้วจบ แต่ผมทำงานตลอดทั้งในและนอกสภา ”

ชวน กล่าว

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์