



ที่ ศาลจังหวัดนนทบุรี เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา พรรคภูมิใจไทย ได้มอบหมายให้ทีมกฎหมายของพรรค ไปดำเนินการฟ้องร้องเอาผิด ‘ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์’ ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และผิด พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.
หนึ่งในทีมทนายของพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่าการฟ้องร้องครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 4 พ.ค. ที่ผ่านมา ชูวิทย์ ได้ขึ้นเวทีปราศรัยบนของพรรคก้าวไกล ที่ตลาดนกฮูก จ.นนทบุรี แล้วพูดทำนองหมิ่นประมาทพรรคภูมิใจไทย และพูดเชิญชวนในลักษณะเสนอให้สิ่งของที่สามารถคำนวณเป็นมูลค่าได้ โดยศาลได้ประทับรับฟ้อง และนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 10 กรกฎาคม 2566 เวลา 13.30 น.
ทีมทนายของพรรคภูมิใจไทน ยังบอกว่านอกจากนี้ ผู้บริหารพรรคยังได้มอบหมายให้ทีมกฎหมาย ไปยื่นเรื่องต่อ กกต. เพื่อขอให้ตรวจสอบว่าพฤติกรรมของชูวิทย์ และพรรคก้าวไกล รวมถึงตัวของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรค กรณียินยอมให้ชูวิทย์ ซึ่งเป็นบุคคลอื่น ที่ไม่ใช่ผู้ช่วยหาเสียงของพรรคขึ้นเวทีปราศรัย ซึ่งถือเป็นการขัดต่อกฎหมายเลือกตั้ง โดยมีบทลงโทษสูงสุด คือ ยุบพรรค
เมื่อถามว่าการยื่นฟ้องชูวิทย์ในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง เป็นเพราะต้องการปิดปากชูวิทย์ ใช่หรือไม่ ทีมทนายของพรรคภูมิใจไทย ยืนยันว่าไม่ใช่การปิดปาก เพียงแต่เป็นสิทธิที่พรรคสามารถทำได้ และหากชูวิทย์ ยังไม่หยุดพาดพิงพรรคภูมิใจไทย ทีมกฎหมายคงต้องดำเนินการฟ้องร้องตามนโยบายของผู้บริหารต่อไป
ขณะที่ช่วงเช้าที่ผ่านมา พรรคภูมิใจไทย ได้ส่งทีมทนายอีกชุด ไปยื่นฟ้องต่อศาลแพ่ง รัชดา เพื่อเอาผิดกับชูวิทย์ ฐานละเมิดและจงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเข้าใจพรรคผิด และทำให้คะแนนนิยมของพรรคลดลง โดยเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 100 ล้านบาท พร้อมขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อขอให้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ห้ามชูวิทย์ เข้าพื้นที่ปราศรัยใหญ่ของพรรคในวันที่ 12 พ.ค. นี้ และห้ามก่อกวนใกล้พรรคหรือสถานที่หาเสียงใหญ่ของพรรค จนถึงวันเลือกตั้งที่ 14 พ.ค.66
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 66 พรรคภูมิใจไทย ได้ส่งทีมทนาย ให้ไปฟ้องร้องคดีอาญากับชูวิทย์ ฐานหมิ่นประมาท ที่ศาลอาญา รัชดา กรณีป่วนเวทีปราศรัยของพรรค ที่ดินแดง เมื่อวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา เรียกว่ายังไม่ทันครบสัปดาห์ ชูวิทย์ ก็ถูกพรรคภูมิใจไทย ไล่ฟ้องไปถึง 4 ประเด็นซะแล้ว!
หนึ่งในทีมทนายของพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่าการฟ้องร้องครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 4 พ.ค. ที่ผ่านมา ชูวิทย์ ได้ขึ้นเวทีปราศรัยบนของพรรคก้าวไกล ที่ตลาดนกฮูก จ.นนทบุรี แล้วพูดทำนองหมิ่นประมาทพรรคภูมิใจไทย และพูดเชิญชวนในลักษณะเสนอให้สิ่งของที่สามารถคำนวณเป็นมูลค่าได้ โดยศาลได้ประทับรับฟ้อง และนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 10 กรกฎาคม 2566 เวลา 13.30 น.
ทีมทนายของพรรคภูมิใจไทน ยังบอกว่านอกจากนี้ ผู้บริหารพรรคยังได้มอบหมายให้ทีมกฎหมาย ไปยื่นเรื่องต่อ กกต. เพื่อขอให้ตรวจสอบว่าพฤติกรรมของชูวิทย์ และพรรคก้าวไกล รวมถึงตัวของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรค กรณียินยอมให้ชูวิทย์ ซึ่งเป็นบุคคลอื่น ที่ไม่ใช่ผู้ช่วยหาเสียงของพรรคขึ้นเวทีปราศรัย ซึ่งถือเป็นการขัดต่อกฎหมายเลือกตั้ง โดยมีบทลงโทษสูงสุด คือ ยุบพรรค
เมื่อถามว่าการยื่นฟ้องชูวิทย์ในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง เป็นเพราะต้องการปิดปากชูวิทย์ ใช่หรือไม่ ทีมทนายของพรรคภูมิใจไทย ยืนยันว่าไม่ใช่การปิดปาก เพียงแต่เป็นสิทธิที่พรรคสามารถทำได้ และหากชูวิทย์ ยังไม่หยุดพาดพิงพรรคภูมิใจไทย ทีมกฎหมายคงต้องดำเนินการฟ้องร้องตามนโยบายของผู้บริหารต่อไป
ขณะที่ช่วงเช้าที่ผ่านมา พรรคภูมิใจไทย ได้ส่งทีมทนายอีกชุด ไปยื่นฟ้องต่อศาลแพ่ง รัชดา เพื่อเอาผิดกับชูวิทย์ ฐานละเมิดและจงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเข้าใจพรรคผิด และทำให้คะแนนนิยมของพรรคลดลง โดยเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 100 ล้านบาท พร้อมขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อขอให้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ห้ามชูวิทย์ เข้าพื้นที่ปราศรัยใหญ่ของพรรคในวันที่ 12 พ.ค. นี้ และห้ามก่อกวนใกล้พรรคหรือสถานที่หาเสียงใหญ่ของพรรค จนถึงวันเลือกตั้งที่ 14 พ.ค.66
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 66 พรรคภูมิใจไทย ได้ส่งทีมทนาย ให้ไปฟ้องร้องคดีอาญากับชูวิทย์ ฐานหมิ่นประมาท ที่ศาลอาญา รัชดา กรณีป่วนเวทีปราศรัยของพรรค ที่ดินแดง เมื่อวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา เรียกว่ายังไม่ทันครบสัปดาห์ ชูวิทย์ ก็ถูกพรรคภูมิใจไทย ไล่ฟ้องไปถึง 4 ประเด็นซะแล้ว!