


















วันที่ 11 พ.ค. ‘ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์’ พาลูกสาว ‘ตระการตา’ โชว์ฟิต ‘วิ่งรณรงค์ต่อต้านกัญชา’ เป็นระยะทาง 10 กิโลเมตร เริ่มจากลานพระรูป ร.6 สวนลุมพินี ไปอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และสิ้นสุดที่อนุสาวรียประชาธิปไตย โดยกิจกรรมนี้ใช้ชื่อว่า ‘วิ่งไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงชัยชนะ’
ก่อนออกตัววิ่ง ชูวิทย์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน อธิบายว่าการวิ่งวันนี้เป็นการสั่งสอนพรรคการเมืองที่ออกนโยบายแล้วมากระทบสิทธิของประชาชน เขาซึ่งเป็นหนึ่งในประชาชนที่ได้รับผลกระทบจะเป็นคนให้บทเรียนกับพรรคภูมิใจไทย ที่ออกนโยบายกัญชา โดยวันพรุ่งนี้ (12 พ.ค.) ช่วงเช้าเจาจะเปิดตัวเครื่อข่ายบุคลากรทางการแพทย์และภาคประชาชน ที่ให้การสนับสนุนการเคลื่อนไหวเขา ทำให้เห็นว่าเขาไม่ได้สู้เพียงลำพัง และในช่วงบ่ายจะไปยื่นฟ้องเอาผิด พรรคภูมิใจไทย ต่อศาลแพ่ง ฐานออกนโยบายกระทบต่อประชาชน โดยจะเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 1,000 ล้านบาท แต่เงินจำนวนนี้เขาไม่ได้นำมาใช้เอง แต่จะมอบให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปใช้ในการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากกัญชา เช่น บำบัดผู้ที่มีอาการทางจิต หลังเสพกัญชา
ส่วนประเด็นที่ ศาลแพ่งยกคำร้องของพรรคภูมิใจไทย ที่ขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองพรรคชั่วคราวห้ามชูวิทย์ป่วนเวทีปราศรัยของพรรค โดยศาลฯ ให้เหตุผลว่าคำร้องดังกล่าวเป็นการละเมิดและจำกัดสิทธิประชาชน อีกทั้งเหตุการณ์ยังไม่เกิดขึ้น จึงไม่ควรไปจำกัดสิทธิเสรีภาพ เรื่องนี้ ชูวิทย์ บอกว่าต้องขอบคุณที่ศาลฯ ให้ความเมตตา และเขาเป็นแค่ประชาชน ไม่มีอาวุธ ส่วนวันพรุ่งนี้ (12 พ.ค.) เขาจะไปเวทีปราศรัยใหญ่ของพรรคภูมิใจไทย ที่ โชว์ดีซี พระราม 9 ที่จะเริ่มเปิดเวทีปราศรัยในเวลา 16.00 น. หรือไม่นั้น ขอยังไม่ตอบ เพราะหากบอกว่าไป อาจจะมีการเตรียมมาตรการรองรับ แต่ถ้าไปจริงเป็นสิทธิและเสรีภาพที่ประชาชนสามารถทำได้
ก่อนออกตัววิ่ง ชูวิทย์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน อธิบายว่าการวิ่งวันนี้เป็นการสั่งสอนพรรคการเมืองที่ออกนโยบายแล้วมากระทบสิทธิของประชาชน เขาซึ่งเป็นหนึ่งในประชาชนที่ได้รับผลกระทบจะเป็นคนให้บทเรียนกับพรรคภูมิใจไทย ที่ออกนโยบายกัญชา โดยวันพรุ่งนี้ (12 พ.ค.) ช่วงเช้าเจาจะเปิดตัวเครื่อข่ายบุคลากรทางการแพทย์และภาคประชาชน ที่ให้การสนับสนุนการเคลื่อนไหวเขา ทำให้เห็นว่าเขาไม่ได้สู้เพียงลำพัง และในช่วงบ่ายจะไปยื่นฟ้องเอาผิด พรรคภูมิใจไทย ต่อศาลแพ่ง ฐานออกนโยบายกระทบต่อประชาชน โดยจะเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 1,000 ล้านบาท แต่เงินจำนวนนี้เขาไม่ได้นำมาใช้เอง แต่จะมอบให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปใช้ในการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากกัญชา เช่น บำบัดผู้ที่มีอาการทางจิต หลังเสพกัญชา
ส่วนประเด็นที่ ศาลแพ่งยกคำร้องของพรรคภูมิใจไทย ที่ขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองพรรคชั่วคราวห้ามชูวิทย์ป่วนเวทีปราศรัยของพรรค โดยศาลฯ ให้เหตุผลว่าคำร้องดังกล่าวเป็นการละเมิดและจำกัดสิทธิประชาชน อีกทั้งเหตุการณ์ยังไม่เกิดขึ้น จึงไม่ควรไปจำกัดสิทธิเสรีภาพ เรื่องนี้ ชูวิทย์ บอกว่าต้องขอบคุณที่ศาลฯ ให้ความเมตตา และเขาเป็นแค่ประชาชน ไม่มีอาวุธ ส่วนวันพรุ่งนี้ (12 พ.ค.) เขาจะไปเวทีปราศรัยใหญ่ของพรรคภูมิใจไทย ที่ โชว์ดีซี พระราม 9 ที่จะเริ่มเปิดเวทีปราศรัยในเวลา 16.00 น. หรือไม่นั้น ขอยังไม่ตอบ เพราะหากบอกว่าไป อาจจะมีการเตรียมมาตรการรองรับ แต่ถ้าไปจริงเป็นสิทธิและเสรีภาพที่ประชาชนสามารถทำได้