ขึ้นแท่นเป็นปมร้อนสะเทือนรัฐบาลไปอีกหนึ่งเรื่อง สำหรับปัญหาพื้นที่ทับซ้อนและข้อพิพาทระหว่างกรมป่าไม้, กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ภายใต้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กับสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ภายใต้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) อันสืบเนื่องจากกรณี ‘หมุดนิรนาม’ ที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
มาวันนี้ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง จึงได้เรียก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์, วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.), จตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, อรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และ พล.ท.ชาคร บุญภักดี เจ้ากรมแผนที่ทหาร มาหารือที่ทำเนียบรัฐบาล
ซึ่งหลังใช้เวลาไปประมาณ 1 ชั่วโมง ร.อ.ธรรมนัส พร้อมด้วย วิณะโรจน์, จตุพร, อรรถพล และ พล.ท.ชาคร ก็ได้ร่วมกันแถลงผลการหารือ
ร.อ.ธรรมนัส ระบุว่า จากข้อมูลที่ได้คุยกันในเบื้องต้น เรื่องแรก ยังยืนยันว่าพื้นที่ที่เกิดข้อพิพาท ตอนนี้เราจะไม่เถียงกันแล้วว่าเป็นพื้นที่ความรับผิดชอบของหน่วยงานใด ซึ่งนายกฯ กำชับให้กรมแผนที่ทหาร เดินหน้าในการทำเขตแนวพื้นที่ของรัฐ หรือ One Map ทางเจ้ากรมแผนที่ทหารได้รับปากนายกฯ ว่าจะใช้เวลาประมาณ 3 สัปดาห์ ในการพิสูจน์พื้นที่ตรงนี้
ในส่วนของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ และกระทรวงเกษตรฯ ต่อไปนี้จะมีข้อตกลงระหว่าง ส.ป.ก. กับกรมอุทยานฯ หากพิสูจน์มาแล้วว่า เป็นพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดินฯ ซึ่งตามหลักฐานเดิมตั้งแต่ปี 2527 มาถึง 2530 จนถึง 2534 เป็นเขตปฏิรูปที่ดินฯ เมื่อเกิดปัญหาข้อพิพาทเกิดขึ้นเนื่องจากเป็นพื้นที่ติดกัน เรียกว่าแนวกันชน ตนในฐานะประธานคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินฯ จะออกนโยบายว่า ต่อไปนี้ พื้นที่ที่เป็นแนวกันชน หรือพื้นที่ติดประชิดกัน จะไม่จัดให้พี่น้องเกษตรกรทำกินอย่างเด็ดขาด นี่คือข้อตกลงที่ได้คุยกันไว้ทั้งสองหน่วยงาน
พื้นที่ที่มีปัญหา ได้มอบนโยบายให้เลขาธิการ ส.ป.ก. ไปยกเลิกให้หมดทุกแปลงที่ทำการแล้วรังวัดออกเอกสารสิทธิ์ ประเภท ส.ป.ก. 4-01 ให้กับเกษตรกร ซึ่งเกษตรกรจะเป็นตัวจริงหรือไม่ใช่ตัวจริง เราได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง หากมีมูล ก็จะตั้งคณะกรรมการดำเนินการเอาผิดทั้งวินัยและวินัยร้ายแรง และดำเนินคดีอาญา
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า
เบื้องต้น จะให้เลขาธิการ ส.ป.ก. ออกคำสั่งยกเลิกทั้งหมดในเอกสารที่ออกมา นี่คือข้อตกลง และแนวทางการทำงานในอนาคตจะมีการบันทึกข้อตกลง หรือเอ็มโอยู ระหว่าง ส.ป.ก. กับกรมอุทยานฯ ในการที่จะกระทำการใดๆ ก็ตามในพื้นที่ที่เราจะจัดสรรให้กับพี่น้องเกษตรกร จะต้องมีคณะกรรมการเป็นรูปธรรม ต่อไปจะมอบให้ ส.ป.ก.จังหวัด ที่ประกอบด้วยทุกหน่วยงาน ทั้ง ส.ป.ก. กรมอุทยานฯ กรมป่าไม้ กรมธนารักษ์ และหน่วยงานของรัฐที่ดูแลพื้นที่ดินของรัฐทั้งหมด จะได้มีความโปร่งใส นี่คือสิ่งที่คุยกันไว้
สิ่งที่เกิดปัญหา ผมไม่อยากจะโทษรัฐบาลที่แล้ว แต่การเริ่มรังวัดเริ่มตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคม ก่อนที่รัฐบาลชุดนี้จะเข้ามา ดังนั้น สิ่งที่ผมจะแก้ปัญหาคือ ผมจะต้องทำความสะอาดบ้านของตนให้เรียบร้อย ในขณะที่เรากำลังจะทำประโยชน์ให้กับเกษตรกร ก็เกิดปัญหาอย่างนี้ มันเป็นปัญหาที่กระทรวงกษตรฯ ต้องแก้ไข ขณะเดียวกัน การทำงานเราเป็นรัฐบาลเดียวกัน และรัฐมนตรีทั้งสองกระทรวงมาจากพรรคเดียวกัน ผมไม่อยากให้เข้าใจว่า เป็นประเด็นการเมือง มันไม่ใช่ แต่เป็นความผิดพลาดในการทำงาน ที่ไม่คุยกัน เพราะถ้าคุยกันจะไม่เป็นปัญหา ฉะนั้น ต่อไปนี้จะให้ปลัดทั้งสองกระทรวงต้องคุยกัน อธิบดีกรมอุทยานฯ และเลขาธิการ ส.ป.ก.ต้องคุยกัน ขับเคลื่อนไปด้วยกัน ปัญหาที่มีขึ้นมาต้องแก้ร่วมกัน แต่ขณะเดียวกัน เราก็มีกรรมการกลาง ก็คือกรมแผนที่ทหาร ที่จะแก้ปัญหาเรื่องนี้
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า
เมื่อถามว่า พื้นที่ที่มีปัญหา มีมากน้อยแค่ไหนและจะทำความเข้าใจประชาชนอย่างไร ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า พื้นที่ที่ตอนนี้เราต้องเร่งแก้ปัญหาคือ พื้นที่ที่เกิดเป็นประเด็น ที่ได้เอาเอกสารสิทธิ์ให้เกษตรกรเข้าทำกินทั้ง 5 แปลง ตนสั่งการแล้วว่า ให้ตรวจสอบความถูกต้อง สำคัญที่สุด ต้องมีจิตใต้สำนึกว่ามันเป็นสภาพป่า แล้วไปจัดสรรได้อย่างไร ตนไม่เห็นด้วย และเห็นด้วยกับเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ที่ชี้แจงตนที่ จ.นครราชสีมา ซึ่งมีเหตุมีผล และตนลงพื้นที่ก็เห็นสภาพเป็นป่าที่ฟื้นขึ้นมาแล้ว เพราะเกษตรกรไม่ได้เข้าทำกินมานาน จิตสำนึกมนุษย์ไม่ควรจะจัดให้เกษตรกร ดังนั้น จะตั้งกรรมการสอบสวนแน่นอน และเมื่อมีมูลว่าผิด ก็ต้องดำเนินคดีอาญา
ส่วนหากยกเลิกไปแล้ว เกษตรกรที่ทำกินจะต้องทำอย่างไร ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า มันเป็นพื้นที่ที่ทำภาคการเกษตรอยู่แล้ว มันต้องเป็นรายๆ ไป ซึ่งเป็นเรื่องที่กรมอุทยานฯ และ ส.ป.ก.ต้องพูดคุยกัน และตนมีนโยบายอยู่แล้วว่า ไม่ควรจัดพื้นที่แนวกันชน อย่างน้อยเราก็ได้ช่วยกันอนุรักษ์ป่าไว้ สำหรับพื้นที่ที่เกิดข้อพิพาท ตนปรึกษา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ แล้วว่า หากเป็นพื้นที่ ส.ป.ก. เราจะทำเป็นพื้นที่ประเภทป่าชุมชนเพื่อรักษาป่า
ด้าน จตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ กล่าวว่า ในส่วนของ ทส. เน้นย้ำการดำเนินการตามหลักกฎหมายก่อน หลังจากนี้ การดำเนินการจึงต้องมีคณะกรรมการเข้าไปเดินสำรวจในพื้นที่ โดยกรมอุทยานฯ จะทำการสำรวจทั้งหมด ในแนวเขตที่ออก ส.ป.ก. ซึ่งจะดูทั้งหมดว่า ส่วนไหนที่มีปัญหา ทั้งนี้ ทส.ยืนยันทุกอย่างตามหลักกฎหมาย ข้อเท็จจริง และหลักวิทยาศาสตร์
ส่วน วิณะโรจน์ กล่าวถึงกรณีการย้ายเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.นครราชสีมา 6 คน ออกนอกพื้นที่ ว่า กรณีเกิดปัญหาความโปร่งใสการทำงาน จะต้องมีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ซึ่งกรณีนี้ เกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.นครราชสีมา จึงต้องย้ายออกจากพื้นที่ ทั้งหมดเพื่อความโปร่งใส และให้การสอบสวนเป็นไปด้วยความยุติธรรม
‘เศรษฐา’ สั่งกรมแผนที่ทหารเดินหน้า One Map
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงผ่านโซเชียลมีเดีย หลังเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาพูดคุยหาทางออกกรณีพื้นที่ทับซ้อนบริเวณเขาใหญ่ ว่า เบื้องต้น หน่วยงานทหารจะเข้าไปสำรวจแผนที่ที่เป็นมาตรฐานของรัฐแผนที่เดียว เพื่อให้ยุติข้อพิพาทก่อน ซึ่งจะใช้เวลาสำรวจประมาณ 3 สัปดาห์ ส่วนกรมอุทยาน และเลขาธิการ ส.ป.ก. จะทำบันทึกข้อตกลง ให้มีความร่วมมือกับหน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับที่ดินของรัฐทุกประเภท ในการเข้าทำการสำรวจพื้นที่พิพาทร่วมกัน
ด้านกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะประกาศยกเลิกไม่ให้มีการแบ่งที่ดินในแนวเขตกันชน (พื้นที่คาบเกี่ยว) ระหว่างกรมอุทยาน และส.ป.ก. เพื่อป้องกันปัญหาในระยะยาว
เศรษฐา ทวีสิน