ที่อาคารไทยซัมมิท ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พร้อม ‘นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว’ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ร่วมกับแกนนำพรรคร่วมอีก 6 พรรค ได้ร่วมกันแถลงข่าวหลังประชุมหารือเกี่ยวกับแนวทางการโหวตนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 19 ก.ค.นี้
หลังใช้เวลาประชุมนานเกือบ 2 ชั่วโมง ‘พิธา’ ระบุว่า มีข้อสรุปคือ ทั้ง 8 พรรคมีมติส่ง ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ เป็นนายกฯ คนที่ 30 และขอให้มั่นใจว่า 8 พรรคร่วมยังจับมือกันเพื่อเดินหน้าต่อ โดยที่ประชุมวันนี้บรรยากาศเป็นไปด้วยดี มีความพยายามที่จะจัดตั้งรัฐบาบของประชาชนให้ได้ และตนพร้อมใช้เวลาที่เหลือย่างเต็มที่
‘พิธา’ ยืนยันว่าหากวันที่ 19 ก.ค.นี้ ได้เสียงโหวตไม่พออย่างมีนัยยะสำคัญก็จะยอมถอยให้เพื่อให้ ‘พรรคเพื่อไทย’ ซึ่งเป็นพรรคอันดับ 2 จัดตั้งรัฐบาลแทน
ส่วนข้อกังวลว่าการเสนอชื่อซ้ำจะขัดต่อข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อที่ 41 หรือไม่นั้น ‘พิธา’ อธิบายว่าวันนี้ได้ข้อสรุปเรื่องกฎหมายเบื้องต้นแล้ว และวันพรุ่งนี้ (18 ก.ค.) ในที่ประชุมวิป 3 ฝ่ายจะมีการพูดคุยเรื่องนี้กันอีกครั้ง
ส่วนกระแสข่าวที่พรรคร่วมไปขอเสียงจาก ‘พรรคประชาธิปัตย์’ และ ‘พรรคชาติไทยพัฒนา’ เพื่อขอให้ช่วยสนับสนุนให้ ‘พิธา’ เป็นนายกฯ ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรนั้น เรื่องนี้ ‘พิธา’ ไม่ได้ปฎิเสธ พร้อมบอกว่า 8 พรรคร่วมยังไม่มีมติในเรื่องนี้ ส่วนกระแสข่าวว่า ‘พิธา’ ต่อสายตรงไปขอเสียงจากพรรคร่วมรัฐบาลเดิม เป็นเรื่องจริงหรือไม่ และมีผลตอบรับอย่างไร ‘พิธา’ ยืนยันว่าเป็นการคุยเรื่องทั่วไปไม่ใช่เรื่องที่สนับสนุนตนเป็นนายกรัฐมนตรี
เมื่อถามย้ำว่าไม่ได้ขอเสียงใช่หรือไม่ ‘พิธา’ ยืนยันว่า ‘ไม่ใช่’ โทรไปแลกเปลี่ยนประเด็นทางการเมืองเท่านั้น และมองว่าเป็นเรื่องปกติที่หัวหน้าพรรคจะคุยกับหัวหน้าพรรคอื่น ไม่ใช่มาเริ่มทำกันอาทิตย์นี้
สำหรับการรวมเสียงของ ส.ว. ในการโหวตเลือกนายกฯ ครั้งที่ 2 ‘พิธา’ เชื่อว่ามีมากขึ้น และหลายคนที่ไม่มาลงคะแนนในครั้งแรก ก็มีความเป็นไปได้ว่าจะมาลงคะแนนในรอบที่ 2 ส่วนแผนสำรองยังไม่มี
นอกจากนี้ ‘พิธา’ ยังระบุถึงกระแสข่าวที่จะมีการเสนอชื่อ ‘พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ’ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ลงชิงนายกฯ ว่า ต้องฝากนักข่าวไปถาม ‘พล.อ.ประวิตร’
ช่วงท้าย ‘พิธา’ แสดงความเห็นต่อข้อเสนอที่ให้ ‘พรรคก้าวไกล’ ยอมถอยมาตรา 112 เพื่อให้พรรคอื่นที่มีจุดยืนไม่แก้ มาตรา 112 โหวตให้ ‘พิธา’ มองว่าเรื่อง มาตรา 112 เป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่ไม่ใช่ทุกอย่าง พอเรื่องนี้หายไปเรื่องอื่นก็จะมาอีก ที่สำคัญที่สุด คือ ต้องการรักษาคำพูด ก่อนหาเสียงพูดไปอย่างไรหลังหาเสียงก็ไม่ใช่ว่าจะเข้าสู่อำนาจด้วยทุกวิถีทาง
ส่วนประเด็นที่ ศาลรัฐธรรม เตรียมพิจารณาปมคุณสมบัติ ในวันที่ 19 ก.ค.นี้ ‘พิธา’ ระบุ ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ไม่ได้ทำให้ความเป็นแคนดิเดตนายกฯ หายไป เมื่อเทียบกับกรณีของ ‘ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ’ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ถือเป็นเรื่องที่ไม่น่ากังวลใจแต่อย่างใด
ในช่วงท้ายของการแถลงสื่อมวลชนได้ถาม ‘พิธา’ ว่าหากเสนอชื่อไม่สำเร็จ กี่ครั้งจะยอมถอยให้กับพรรคเพื่อไทย ‘พิธา’ ตอบว่า ขอให้ยึดตามที่แถลง ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า 2 ครั้งใช่หรือไม่ ‘พิธา’ พยักหน้า พร้อมกับชูนิ้ว 2 นิ้ว
หลังใช้เวลาประชุมนานเกือบ 2 ชั่วโมง ‘พิธา’ ระบุว่า มีข้อสรุปคือ ทั้ง 8 พรรคมีมติส่ง ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ เป็นนายกฯ คนที่ 30 และขอให้มั่นใจว่า 8 พรรคร่วมยังจับมือกันเพื่อเดินหน้าต่อ โดยที่ประชุมวันนี้บรรยากาศเป็นไปด้วยดี มีความพยายามที่จะจัดตั้งรัฐบาบของประชาชนให้ได้ และตนพร้อมใช้เวลาที่เหลือย่างเต็มที่
‘พิธา’ ยืนยันว่าหากวันที่ 19 ก.ค.นี้ ได้เสียงโหวตไม่พออย่างมีนัยยะสำคัญก็จะยอมถอยให้เพื่อให้ ‘พรรคเพื่อไทย’ ซึ่งเป็นพรรคอันดับ 2 จัดตั้งรัฐบาลแทน
ส่วนข้อกังวลว่าการเสนอชื่อซ้ำจะขัดต่อข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อที่ 41 หรือไม่นั้น ‘พิธา’ อธิบายว่าวันนี้ได้ข้อสรุปเรื่องกฎหมายเบื้องต้นแล้ว และวันพรุ่งนี้ (18 ก.ค.) ในที่ประชุมวิป 3 ฝ่ายจะมีการพูดคุยเรื่องนี้กันอีกครั้ง
ส่วนกระแสข่าวที่พรรคร่วมไปขอเสียงจาก ‘พรรคประชาธิปัตย์’ และ ‘พรรคชาติไทยพัฒนา’ เพื่อขอให้ช่วยสนับสนุนให้ ‘พิธา’ เป็นนายกฯ ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรนั้น เรื่องนี้ ‘พิธา’ ไม่ได้ปฎิเสธ พร้อมบอกว่า 8 พรรคร่วมยังไม่มีมติในเรื่องนี้ ส่วนกระแสข่าวว่า ‘พิธา’ ต่อสายตรงไปขอเสียงจากพรรคร่วมรัฐบาลเดิม เป็นเรื่องจริงหรือไม่ และมีผลตอบรับอย่างไร ‘พิธา’ ยืนยันว่าเป็นการคุยเรื่องทั่วไปไม่ใช่เรื่องที่สนับสนุนตนเป็นนายกรัฐมนตรี
เมื่อถามย้ำว่าไม่ได้ขอเสียงใช่หรือไม่ ‘พิธา’ ยืนยันว่า ‘ไม่ใช่’ โทรไปแลกเปลี่ยนประเด็นทางการเมืองเท่านั้น และมองว่าเป็นเรื่องปกติที่หัวหน้าพรรคจะคุยกับหัวหน้าพรรคอื่น ไม่ใช่มาเริ่มทำกันอาทิตย์นี้
สำหรับการรวมเสียงของ ส.ว. ในการโหวตเลือกนายกฯ ครั้งที่ 2 ‘พิธา’ เชื่อว่ามีมากขึ้น และหลายคนที่ไม่มาลงคะแนนในครั้งแรก ก็มีความเป็นไปได้ว่าจะมาลงคะแนนในรอบที่ 2 ส่วนแผนสำรองยังไม่มี
นอกจากนี้ ‘พิธา’ ยังระบุถึงกระแสข่าวที่จะมีการเสนอชื่อ ‘พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ’ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ลงชิงนายกฯ ว่า ต้องฝากนักข่าวไปถาม ‘พล.อ.ประวิตร’
ช่วงท้าย ‘พิธา’ แสดงความเห็นต่อข้อเสนอที่ให้ ‘พรรคก้าวไกล’ ยอมถอยมาตรา 112 เพื่อให้พรรคอื่นที่มีจุดยืนไม่แก้ มาตรา 112 โหวตให้ ‘พิธา’ มองว่าเรื่อง มาตรา 112 เป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่ไม่ใช่ทุกอย่าง พอเรื่องนี้หายไปเรื่องอื่นก็จะมาอีก ที่สำคัญที่สุด คือ ต้องการรักษาคำพูด ก่อนหาเสียงพูดไปอย่างไรหลังหาเสียงก็ไม่ใช่ว่าจะเข้าสู่อำนาจด้วยทุกวิถีทาง
ส่วนประเด็นที่ ศาลรัฐธรรม เตรียมพิจารณาปมคุณสมบัติ ในวันที่ 19 ก.ค.นี้ ‘พิธา’ ระบุ ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ไม่ได้ทำให้ความเป็นแคนดิเดตนายกฯ หายไป เมื่อเทียบกับกรณีของ ‘ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ’ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ถือเป็นเรื่องที่ไม่น่ากังวลใจแต่อย่างใด
ในช่วงท้ายของการแถลงสื่อมวลชนได้ถาม ‘พิธา’ ว่าหากเสนอชื่อไม่สำเร็จ กี่ครั้งจะยอมถอยให้กับพรรคเพื่อไทย ‘พิธา’ ตอบว่า ขอให้ยึดตามที่แถลง ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า 2 ครั้งใช่หรือไม่ ‘พิธา’ พยักหน้า พร้อมกับชูนิ้ว 2 นิ้ว
