ศาล รธน. ตีตกคำร้องสภาฯ วินิจฉัยอำนาจแก้ รธน. ชี้เหตุยังไม่เกิด

17 เมษายน 2567 - 07:23

Constitutional-court-Parliament-Move-Forward-Party-SPACEBAR-Hero.jpg
  • ศาล รธน. มีมติเอกฉันท์ตีตกคำร้อง ประธานสภาฯ วินิจฉัยอำนาจรัฐสภา กรณีแก้รัฐธรรมนูญ ม.256 เหตุไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว

  • ศาล รธน. ขยายเวลา ‘ก้าวไกล’ ชี้แจงข้อกล่าวหา 15 วัน ลดจากที่พรรคขอไว้ 30 วัน

ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณากรณีประธานรัฐสภา (ผู้ร้อง) มีหนังสือขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 210 วรรคหนึ่ง (2) เกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภาในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 ดังนี้ 

1.รัฐสภาจะบรรจุวาระและพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมที่มีบทบัญญัติให้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยยังไม่มีผลการออกเสียงประชามติว่าประชาชนประสงค์จะให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่

2.ในกรณีที่รัฐสภาสามารถบรรจุร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม ที่มีบทบัญญัติให้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ การจัดให้ประชาชนผู้ทรงอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญออกเสียงประชามติเสียก่อนว่าสมควรมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ จะต้องกระทำในขั้นตอนใด

ก่อนการพิจารณา เนื่องจาก สุเมธ รอยกุลเจริญ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ อยู่ระหว่างรอการเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ และ อุดม รัฐอมฤต ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ขอถอนตัวจากการพิจารณาคดี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตรา 37 เนื่องจากเคยเป็นผู้เชี่ยวชาญของศาลรัฐธรรมนูญ ให้ความเห็นในคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 4/2564 

ซึ่งที่ประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ขาดให้ถอนตัวจากการพิจารณาคดีได้ องค์คณะตุลาการของศาลรัฐธรรมนูญในคดีนี้จึงประกอบด้วยตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ไม่น้อยกว่า 7 คน ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 52

ศาลพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบแล้วเห็นว่า ศาลรัฐธรรมนูญมีหน้าที่ และอำนาจพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา รัฐสภา คณะรัฐมนตรี หรือองค์กรอิสระ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 210 วรรคหนึ่ง (2) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 7(2) และมาตรา 44 กรณีต้องเป็นปัญหาที่เกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจที่เกิดขึ้นแล้ว การบรรจุวาระการประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมเป็นหน้าที่ และอำนาจของประธานรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 80 และข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ. 2563 ข้อ 119 กรณีไม่ใช่ปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภา และคำร้องมีสาระสำคัญเป็นเพียงข้อสงสัย และขอให้ศาลรัฐธรรมนูญอธิบายเนื้อหาคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 4/2564 

ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัย โดยละเอียดและชัดเจนแล้ว ไม่ใช่กรณีปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภาที่เกิดขึ้นแล้ว ไม่ต้องด้วยเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 210 วรรคหนึ่ง (2) ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของ ศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 7(2) และมาตรา 44

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ 7 ต่อ 0 สั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย

ทั้งนี้ในส่วนคำร้องที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (ผู้ร้อง) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยเพื่อมีคำสั่งยุบพรรคก้าวไกล (เรื่องพิจารณาที่ 10/2567 พรรคก้าวไกล (ผู้ถูกร้อง) ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่น คำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญออกไปอีก 30 วัน

ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นควรให้ขยาย ระยะเวลาออกไปอีก 15 วัน นับแต่วันที่ 18 เม.ย. 67 ซึ่งจะครบกำหนดยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 3 พ.ค. 67

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์