มี “เสมอ” ต้องมี “ไสว” เปิดสัมพันธ์ เสมอ ดามาพงศ์ & ไสว หักพาล คู่หู คู่ใจ นายกับพลขับ

30 ต.ค. 2566 - 06:44

  • เบื้องหลังสัมพันธ์ “บิ๊กโจ๊ก” เข้าไปคุกเข่าไหว้คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อย่างนอบน้อม

  • สายสัมพันธ์คนรุ่นพ่อ พล.ต.ท.เสมอ ดามาพงศ์ และดาบตำรวจไสว หักพาล นายกับพลขับ คู่หูคู่ใจ

  • บิ๊กโจ๊กมีฉายาเรียกกันในวงการว่า “โจ๊ก หวานเจี๊ยบ” มักอยู่ใกล้ตัวผู้มีอำนาจเสมอ

contributor_bamboo_leaves_damapong_hugpan_relationship_SPACEBAR_Hero_fb90c31d7f.jpg

ร้อนไปทั้งโซเชียลมีเดีย หลังมีผู้โพสต์ภาพ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล เข้าไปคุกเข่าไหว้คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อย่างนอบน้อมในงานเดินวิ่ง เมื่อเช้ามืดวันอาทิตย์ (29 ตุลาคม) ที่ผ่านมา

เสียงวิจารณ์ถึงความเหมาะสมที่นายตำรวจยศ พลตำรวจเอก และยังดำรงตำแหน่งถึง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทำไมถึงยอมลดตัวเองลงไปเช่นนั้น

ถ้าเป็นนายตำรวจท่านอื่นทำคงไม่น่าแปลก

ถ้าเป็นคนอื่นทำก็คงน่าจะเงียบ

contributor_bamboo_leaves_damapong_hugpan_relationship_SPACEBAR_Photo01_b46f53addd.jpg

เพราะเช้าวันนั้นทั้ง นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ต่างก็เข้าไปไหว้ทักทาย “คุณหญิงอ้อ” ในลักษณะที่ไม่ต่างกัน 

เพราะต่างก็โน้มตัวและลงนั่งคุกเข่า เพื่อยกมือไหว้ทักทาย และพูดคุยกับคุณหญิงอ้อเช่นเดียวกัน

contributor_bamboo_leaves_damapong_hugpan_relationship_SPACEBAR_Photo02_537144d61b.jpg

หากแต่เมื่อเป็นบิ๊กโจ๊ก เจ้าของฉายา “โจ๊ก หวานเจี๊ยบ” โน้มตัวลงไปกระทำเช่นเดียวกันนั้น

ทั้งที่เหมือนกัน

ทั้งที่เป็นงานเดียวกัน

ทั้งที่เป็นช่วงเวลาไม่ห่างกันมากนัก

แต่ผลกลับต่างกัน

หากมองด้วยสายตาที่เป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย

มุมหนึ่งในแง่วัตรปฏิบัติที่ผ่านมาของบิ๊กโจ๊ก ที่มีฉายา “โจ๊ก หวานเจี๊ยบ” และมักอยู่ใกล้ตัวผู้มีอำนาจเสมอ

แน่ล่ะ ยากที่จะปฏิเสธว่า นี่คือความพยายามที่จะก้าวเข้าไปอยู่ใกล้ชิดศูนย์กลางอำนาจ เพราะเป็นที่รู้กันว่า ตัวจริงเสียงจริงของผู้มากบารมีทั้งในพรรคเพื่อไทย และในรัฐบาล ณ เวลานี้ คือ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์

ในห้วงเวลาที่พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กำลังเผชิญกับมรสุมการรับราชการครั้งใหม่

ในห้วงเวลาที่เส้นทางการรับราชการในฐานะรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกำลังสั่นคลอน

ในห้วงเวลาที่ความฝันของการก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติอยู่ใกล้แค่เอื้อม

แน่ล่ะ การเข้าใกล้ศูนย์อำนาจที่มีอำนาจการตัดสินใจอย่างแท้จริง ย่อมเป็นเรื่องที่ไม่อาจมองข้าม และย่อมถูกวิพากษ์อย่างหนักต่อท่าทีที่นอบน้อมเช่นนั้นของบิ๊กโจ๊ก

ในอดีตบิ๊กโจ๊กเติบโตบนเส้นทางการรับราชการอย่างรวดเร็วดุจก้าวกระโดด จนข้ามรุ่นพี่หลายรุ่นมาเป็นรองผบ.ตร.อาวุโสอันดับ 2 และจะเป็นอันดับ 1 ในปีหน้า (หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง) ก็เพราะใกล้ชิดผู้มีอำนาจมาโดยตลอด

โดยเฉพาะในช่วงที่ “บิ๊กป้อม” พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เรืองอำนาจ แม้จะมาสะดุดบ้างในช่วงที่ถูกโอนย้ายไปประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แต่ที่สุดก็ยังกลับมาได้ และก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้ช่วยผบ.ตร. และรองผบ.ตร.อย่างรวดเร็ว

การเข้าใกล้คุณหญิงพจมาน ขณะที่พรรคเพื่อไทย โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีเป็นประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (กตร.) โดยตำแหน่ง อันเป็นตำแหน่งซึ่งเป็นผู้มีอำนาจเสนอชื่อบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งผบ.ตร. จึงยากจะหลีกเลี่ยงคำครหา และคำวิพากษ์

contributor_bamboo_leaves_damapong_hugpan_relationship_SPACEBAR_Photo03_bb80cb224a.jpg
เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีนั่งเก้าอี้เป็นประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (กตร.) 15 ตุลาคม 2566

แต่อีกมุมหนึ่ง หากมองด้วยสายตาเป็นธรรม และมองเพียงจากสถานะของคุณหญิงพจมานเท่านั้น ทั้งสถานะความเป็นคุณหญิงอดีตภริยานายกรัฐมนตรี สถานะผู้ที่มีศักดิ์อาวุโสกว่า

การโน้มตัวลงทำความเคารพก็เป็นเรื่องปกติ มิใช่หรือ?

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ณ เวลานั้น คุณหญิงพจมานนั่งอยู่บนโซฟา มิได้ยืนอยู่ ขนบประเพณีไทยผู้น้อยย่อมต้องคุกเข่าลงนั่ง หรือย่อตัวลงทำความเคารพ เพราะไม่ควรหรือไม่เหมาะที่จะยืนในลักษณะที่เรียกว่า “ค้ำศรีษะผู้ใหญ่”

แต่เอาเถอะ ในความเป็นบิ๊กโจ๊ก การเข้าไปคุกเข่าในทำนองนั้น อาจถูกมองว่าตั้งใจ อาจถูกมองว่า นอบน้อมเกินงาม  เพราะสามารถทำความเคารพจากระยะไกล โดยไม่จำเป็นต้องเข้าไปใกล้ชิดขนาดที่บางคนถึงกับใช้คำว่า “เสนอหน้า”

แต่มามองอีกมุม มุมที่แม้สังคมจะพอทราบอยู่บ้างว่า บิ๊กโจ๊กมีความสัมพันธ์อีกระดับกับครอบครัวดามาพงศ์

บางกระแสบอกว่า บิ๊กโจ๊กเคยเป็นเด็กในบ้านของคุณหญิงพจมานมาก่อน เติบโตมาจากการสนับสนุนของครอบครัวดามาพงศ์ จนเติบโตจบการศึกษา และสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ก็โดยการโอบอุ้มของครอบครัวดามาพงศ์

มุมนี้จึงไม่แปลกที่บิ๊กโจ๊กจะให้ความเคารพคุณหญิงพจมานมากกว่าปกติ

แต่ในความเป็นจริง แม้บิ๊กโจ๊กจะมีความใกล้ชิดกับครอบครัวดามาพงศ์ แต่ก็ไม่ถึงขั้นเป็นเด็กในบ้านที่เติบโตมาในบ้านดามาพงศ์

ความสัมพันธ์ระหว่างบิ๊กโจ๊กกับครอบครัวดามาพงศ์ เป็นความสัมพันธ์ผ่านผู้เป็นพ่อ ดาบตำรวจไสว หักพาล ที่ใกล้ชิดกับคนในตระกูลดามาพงศ์ในฐานะพลขับและเป็นตำรวจคู่ใจที่ติดตาม พลตำรวจโทเสมอ ดามาพงศ์ อดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บิดาของคุณหญิงพจมานเท่านั้น

ในบันทึกของบิ๊กโจ๊กบอกว่า ได้รับการผลักดันและสนับสนุนจากดาบตำรวจไสวผู้เป็นพ่อ จนสามารถสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร และเป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 31 และจบโรงเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 45

contributor_bamboo_leaves_damapong_hugpan_relationship_SPACEBAR_Photo04_0f7e14894b.jpg
พลตำรวจโทเสมอ ดามาพงศ์ ให้สัมภาษณ์พฤกษ์ อุปถัมภานนท์ อดีตผู้ประกาศข่าวช่อง 4 บางขุนพรหม

ขณะที่ประวัติชีวิตของทั้งพลตำรวจโทเสมอ ดามาพงศ์ อดีตผู้ช่วยผบ.ตร. และดาบตำรวจไสว หักพาล อดีตพลขับนั้น ไม่มีบันทึกว่าทั้งคู่ใกล้ชิดกันแบบไหน มีแต่คำบอกเล่าจากคนใกล้ชิดดาบตำรวจไสวเท่านั้นที่บอกว่า นายและพลขับคู่นี้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันเช่นไร

พลตำรวจโทเสมอ รู้จักและเรียกใช้ดาบไสวครั้งแรก เมื่อครั้งลงไปดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจภูธร 4 ที่จังหวัดสงขลา เมื่อประมาณปี 2528

ในช่วงนั้น ยังไม่มีกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และภาค 9 กองบัญชาการตำรวจภูธรมีเพียง 4 กองบัญชาการ คือ บช.ภ. 1- บช.ภ. 4

กองบัญชาการตำรวจภูธร 4 รับผิดชอบพื้นที่ 14 ภาคใต้ ก่อนจะมาแตกเป็นกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และภาค 9 เมื่อปี 2537

พลตำรวจโทเสมอเป็นนายตำรวจเมืองหลวงที่รับราชการอยู่ในนครบาล และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางมาโดยตลอด เมื่อได้รับโปรดเกล้าฯ ให้มารับตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจภูธร 4 ที่ต้องรับผิดชอบทั้ง 14 จังหวัด จึงจำเป็นต้องมีผู้ใต้บังคับบัญชาที่รู้พื้นที่ และรู้เรื่องราวของคนใต้เป็นอย่างดี

ดาบไสวขณะที่ยังเป็นเพียงนายสิบตำรวจในฐานะพลขับประจำตัวผู้บังคับบัญชา จึงถูกเรียกตัวมาเป็นพลขับประจำตัวของพล.ต.ท.เสมอตั้งแต่ตอนนั้น

contributor_bamboo_leaves_damapong_hugpan_relationship_SPACEBAR_Photo05_f74ee22292.jpg
ดาบตำรวจไสว หักหาญ ถ่ายภาพกับลูกชาย “บิ๊กโจ๊ก”

14 จังหวัดภาคใต้ในช่วงที่ พล.ต.ท.เสมอมาดำรงตำแหน่งผบช.ภ.4 นอกจากยังเป็นพื้นที่สีแดงที่มีการแทรกซึมของผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์แล้ว ยังอุดมไปด้วยผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง และผลประโยชน์เถื่อนนอกระบบในทุกพื้นที่ 

คดีใหญ่ของภาคใต้ในช่วงเวลานั้น คือ คดีดักสังหารโกโหลน นายแสงชัย ศักดิ์ศรีทวี เจ้าของธุรกิจส่งออกแร่รายใหญ่ในจังหวัดภูเก็ต ที่ถูกมือปืนดักยิงถล่มขณะเดินทางไปสำรวจที่ดิน

คดีนี้เป็นคดีสำคัญและถือเป็นคดีใหญ่ เนื่องจากนอกจากโกโหลนที่ถูกยิงเสียชีวิตคารถแล้ว ภายในรถยังพบศพนายปรีดี สุจริตกุล ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดภูเก็ตอยู่ในรถด้วย

นายปรีดีไม่เพียงเป็นผู้พิพากษาหัวหน้าศาล ยังเป็นสามีของนักร้องสาวชื่อดัง ดาวใจ ไพจิตร ด้วย

ส่วนคู่กรณีก็เป็นถึงนักธุรกิจคนดังในพื้นที่ นายโสภณ กิจประสาน ที่มีสายสัมพันธ์กับนักการเมืองระดับสูง และผู้มีอำนาจในส่วนกลาง

คดีนี้จึงโด่งดังและเป็นที่ติดตามของสังคมในเวลานั้น

พล.ต.ท.เสมอลงไปรับหน้าที่ขณะที่คดียังคุกรุ่น และผลประโยชน์มหาศาลของการค้าแร่เถื่อนในภาคใต้

เวลานั้นถึงกับมีการตั้งศูนย์บัญชาการเฉพาะกิจปราบปราบการลักลอบขนแร่เถื่อนออกนอกประเทศขึ้นมาดูแลโดยตรง 

พล.ต.อ.เพรียวพันธุ์ ดามาพงศ์ อดีตผบ.ตร. ลูกชายของพล.ต.ท.เสมอ ก็ถูกย้ายลงมาช่วยพ่อในตำแหน่งสารวัตรใหญ่ สถานีตำรวจภูธรภูเก็ต (ขณะนั้นยังไม่มีตำแหน่งผู้กำกับสภ.เมือง)

แม้พล.ต.ท.เสมอจะไม่ได้ดำรงตำแหน่ง ผบช.ภ.4 นานนัก แต่ตลอดเวลาที่รับราชการในภาคใต้ ตำรวจคู่ใจที่เป็นทั้งพลขับ และผู้ติดตามไปในทุกพื้นที่ก็คือ ดาบตำรวจไสว เพราะเป็นผู้ที่ทั้งรู้ใจนาย และรู้จักพื้นที่ภาคใต้แทบทั้งหมด

ว่ากันว่า ในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ ที่ไหนมี “เสมอ” ที่นั่นก็ต้องมี “ไสว”

ความสัมพันธ์ระหว่างนายและตำรวจคู่ใจ ทำให้เมื่อพล.ต.ท.เสมอกลับมารับราชการในกองบัญชาการสอบสวนกลาง ดาบตำรวจไสวก็ยังติดตามมาเป็นพลขับและตำรวจติดตามพล.ต.ท.เสมอจนเกษียณอายุราชการ

ช่วงเวลานี้อาจเป็นช่วงที่มีการปะติดปะต่อว่า บิ๊กโจ๊กน่าจะติดตามพ่อเข้ามากรุงเทพฯ และเป็นช่วงเวลาที่เข้ามาเป็นเด็กในบ้านดามาพงศ์

แต่ในความเป็นจริง บิ๊กโจ๊กอยู่กับแม่ที่สงขลามาโดยตลอด ทั้งการเรียนระดับประถมศึกษาที่โรงเรียนกลับเพชรศึกษา โรงเรียนที่แม่สอนอยู่ หรือระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนมหาวชิราวุธจังหวัดสงขลา

แต่กระนั้นความสัมพันธ์ของผู้เป็นพ่อกับครอบครัวดามาพงศ์ ก็เป็นความสัมพันธ์ที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ซึมซับมาถึงผู้เป็นลูก

ขณะที่ความเมตตาของนายที่มีต่อลูกน้องคู่ใจก็แน่นอนว่า ย่อมเผื่อแผ่มาที่ครอบครัวของลูกน้อง บิ๊ก โจ๊กที่จบการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมทหาร และโรงเรียนนายร้อยตำรวจจึงเป็นที่เอ็นดูของนายที่ชื่อพล.ต.ท.เสมอ เช่นกัน

contributor_bamboo_leaves_damapong_hugpan_relationship_SPACEBAR_Photo06_a492a797fb.jpg
“ผบ.ต่อ” กับ “บิ๊กโจ๊ก” รองผบ.ตร. ร่วมวงทานข้าวหน้าไก่ไข่ดาว สนทนากันอย่างออกรส 3 ตุลาคม 2566

ดังนั้นจึงไม่แปลกที่บิ๊กโจ๊กจะให้ความนับถือและเคารพคนในครอบครัวดามาพงศ์มาโดยตลอด ทั้งพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ และคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ รวมแม้กระทั่ง นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ บุตรบุญธรรมของ พล.ต.ท.เสมอ 

สายสัมพันธ์เช่นนี้ เมื่อมองจากภาพความนอบน้อมของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ต่อคุณหญิงพจมาน ผู้เป็นลูกสาวของนายของพ่อ นายที่เป็นที่เคารพนับถือของพ่อ

การคุกเข่าเข้าไปไหว้ ก็ไม่ได้นอบน้อมจนเกินเหตุ อันจะทำให้เสียเกียรติของรองผบ.ตร.แต่อย่างใด

เพราะความสัมพันธ์ระหว่าง เสมอ กับ ไสว ลึกซึ้งเพียงใด ไม่ใช่แค่คนสองคนเท่านั้นที่บอกได้ แต่การแสดงออกระหว่างคนสองครอบครัวนี้ก็บ่งบอกได้เช่นกัน

มี “เสมอ” ต้องมี “ไสว” แม้เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต แต่ก็ยังส่งผลมาถึงลูกหลานในวันนี้

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์